21 ก.ย. 2024 เวลา 03:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

EP.25: สรุปภาวะตลาดและมุมมองการลงทุน โดย บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) – กันยายน 2567

Monthly Investment Insights for AIA Unit Linked by AIAIMT – SEPTEMBER 2024
สรุปภาวะตลาดและมุมมองการลงทุน สำหรับ AIA Unit Linked โดย บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) – กันยายน 2567
📌 ภาพรวมตลาดในเดือนที่ผ่านมา
ตลาดหุ้นไทยกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.89% ในเดือนสิงหาคม 2567 ตามความคาดหวังของนักลงทุนต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ที่ได้รับเลือกเข้ามาแทนอดีตนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ที่สิ้นสภาพการเป็นนายกรัฐมนตรีไปตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา
ในส่วนของฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนี S&P ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.28% โดยดัชนีปรับลดลงก่อนในช่วงต้นเดือนสิงหาคม หลังจากตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทำให้นักลงทุนมองว่าโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่สภาวะถดถอยมีสูงขึ้น อย่างไรก็ดี การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณชัดเจนที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงทำให้ดัชนีกลับมาปรับตัวสูงขึ้น
ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในปัจจุบันสะท้อนความคาดหวังของนักลงทุนต่ออัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะข้างหน้า ที่มองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีจะปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2.00% ภายในปี 2025 ตามทิศทางการดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายของธนาคารกลางหลัก
📌 ตลาดตราสารหนี้ :
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปีปรับลดลง 0.03% ปิดที่ระดับ 2.56% โดยในการประชุมคณะนโยบายการเงินในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2567 ที่ประชุมยังคงมีมติ 6-1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50% จากแนวโน้มการขยายตัวเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ไว้ ด้านหุ้นกู้ภาคเอกชน ส่วนต่างอัตราผลตอบแทน (credit spread) อายุ 5 ปี อันดับความน่าเชื่อถือ A ปรับเพิ่มขึ้น 0.06% ปิดที่ระดับ 1.22%
ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับลดลงต่ออีก 0.12% ในเดือนสิงหาคม 2567 ปิดที่ระดับ 3.90% โดยนาย Jerome Powell ยืนยันในการประชุม Jackson Hole Economic Symposium ว่าถึงเวลาที่ธนาคาร กลางสหรัฐฯจำเป็นจะต้องปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง หลังจากเงินเฟ้อกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายแล้ว และแนวโน้มตลาดแรงงานมีสัญญาที่อ่อนแอลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
📌 ตลาดหุ้นไทย :
สิงหาคม 2567 ปิดที่ระดับ 1,359 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 2.90% หากเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยมีปัจจัยบวกจากความชัดเจนทางการเมืองเพิ่มมากขึ้น หลังจากวันที่ 16 สิงหาคม 2567 คุณแพทองธาร ได้รับโหวตเลือกเป็นนายกฯ คนใหม่พร้อมจับขั้วกับพรรคร่วมเดิมเพื่อจัดตั้งรัฐบาล และคาดว่าการจัดตั้ง ครม. จะเสร็จสิ้นภายในช่วงครึ่งแรกของเดือน กันยายน 2567 ทำให้งบประมาณประจำปี 2568 ไม่ล่าช้า
ขณะที่นโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่างๆ เชื่อว่าจะมีการเดินหน้าต่อ ไม่เกิดสุญญากาศทางการเมือง นอกจากนี้สภาพัฒน์ฯ ประกาศตัวเลขอัตราการเติบโตของ GDP ไทยสำหรับไตรมาส 2/2567 ขยายตัว 2.30% หากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาด และสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้า อีกทั้งยังมองเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี จากภาคท่องเที่ยว และการลงทุนภาคร้ฐบาล
📌 มุมมองการลงทุน
📍 มุมมองการลงทุนตราสารหนี้: คงคำแนะนำให้ลงทุนในตราสารหนี้เท่ากับตัวชี้วัด แต่เพิ่มความระมัดระวังในการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในระยะนี้ ถึงแม้ว่าทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางทั่วโลกจะเข้าสู่ขาลงแล้ว แต่ในระยะสั้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอาจปรับตัวขึ้นได้จากปัจจัยภายในประเทศ
ทั้งอุปทานของพันธบัตรรัฐบาลที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นตามความต้องการกู้ยืมเงินของรัฐบาล และหากเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรัฐบาลสามารถเร่งการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการทางการคลัง อาจทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างที่ตลาดคาดการณ์ไว้
📍 มุมมองการลงทุนตราสารทุน :
มุมมองการลงทุนหุ้นในตลาดต่างประเทศ: ดัชนีตลาดหุ้นโลกส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม 2567 นำโดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้แก่ S&P500 (+2.3%), DJIA (+1.8%), Nasdaq (+0.7%) และตลาดหุ้นยุโรป ได้แก่ DAX (+2.2%), CAC40 (+1.5%), FTSE (+0.1%) หลังเห็นสัญญาณบวกจากการเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงภายในเดือน กันยายน 2567 ถือเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 5 ปี และถือเป็นปัจจัยบวกต่อการกลับมาเพิ่มสัดส่วนลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง
มุมมองการลงทุนหุ้นในตลาดไทย: คาด SET Index เดือนกันยายน 2567 ยังปรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยมีแรงหนุนจากความชัดเจนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี ภายหลังจากจัดตั้ง ครม. เสร็จสิ้น นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยคาดว่าจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์มูลค่ากว่า 1-1.5 แสนล้านบาท ซึ่งทำให้ทิศทาง Fund Flow ยังไหลเข้าตลาดหุ้นต่อเนื่อง
📌 คำแนะนำการลงทุน
📍 ตราสารทุน : รักษาวินัยการลงทุน สะสมการลงทุนในตราสารทุนเพื่อเป้าหมายการลงทุนระยะยาว โดยทยอยปรับสัดส่วนการลงทุนเข้าสู่เป้าหมายระยะยาว
📍 ตราสารหนี้ : ตลาดยังมีความผันผวนสูง ควรรักษาสภาพคล่องเพื่อหาจังหวะทยอยลงทุนในตราสารทุน ในขณะเดียวกัน ยังควรถือตราสารหนี้เพื่อจำกัดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน
แหล่งข้อมูล: “สรุปภาวะตลาดและมุมมองการลงทุนประจำเดือนกรกฎาคม 2567” โดย AIA Investments และ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2567
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป ผู้ใช้ต้องใช้ความระมัดระวังด้วยวิจารณญาณและรับผิดชอบในความเสี่ยงต่างๆ ด้วยตนเอง
เริ่มวางแผนการเงินระยะยาว กับบริการผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลการลงทุน AIA InvestPro และ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย)
ผ่านกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน เอไอเอ ยูนิต ลิงค์ ที่เหมาะกับคุณได้แล้ววันนี้
ติดต่อตัวแทน เอไอเอ หรือดูรายละเอียดได้ที่ : https://www.aia.co.th/th/our-products/save-invest/unit-linked
คำเตือน:
• ผู้ขอเอาประกันภัยควรทำความเข้าใจรายละเอียด เงื่อนไข ความคุ้มครองและข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย รวมทั้งศึกษาทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
• ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์
• การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
• ผลการดำเนินงานในอดีต / ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ติดตาม Community AIA Thailand ได้ที่ https://www.blockdit.com/aiathailand

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา