22 ก.ย. 2024 เวลา 15:58 • หุ้น & เศรษฐกิจ

รู้หรือไม่ Netflix Nvidia หุ้นหลายร้อย หลายพันเด้ง เคยร่วงเกิน -50% มาแล้วหลายครั้ง..

ใครกำเงิน 1 ล้านบาท ซื้อหุ้น Netflix เมื่อ 22 ปีก่อน
แล้วทิ้งไว้ ไม่ไปยุ่งกับมัน
วันนี้ เงินก้อนนั้นจะกลายเป็นเงิน 586 ล้านบาท
แต่ถ้าโชคดี ลงทุนเร็วกว่านั้น และเลือกซื้อ Nvidia แทน เมื่อ 25 ปีก่อน
เงินก้อนที่ว่า จาก 1 ล้าน จะกลายเป็น 2,829 ล้านบาททันที..
ซึ่งนี้ยังไม่นับรวมเงินปันผลระหว่างทางที่ได้มา
1
แต่ต้องยอมรับความจริงว่า น้อยคนมาก หรือแทบจะไม่มีเลย ที่จะทนถือได้นานขนาดนั้น.. ต่อให้เขาไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินก็ตาม (เว้นแต่ซื้อไว้แล้วดันลืมขึ้นมาจริง ๆ..)
ทำไมเป็นอย่างนั้น ?
เพราะระหว่างทาง ที่เราถือหุ้น จะมีเรื่อง “ความผันผวน” ของตลาด เข้ามาหลอกหลอนเราอยู่เสมอ..
เมื่อมองย้อนกลับไป
Netflix Nvidia เป็นหุ้นที่สร้างผลตอบแทนมหาศาลให้กับนักลงทุน และมักถูกหยิบไปเป็นกรณีศึกษาในโลกการลงทุนอยู่มากมาย
แต่ไส้ในผลตอบแทนที่หอมหวานนั้น ในความเป็นจริง เต็มไปด้วยเส้นทางที่ขรุขระ มองเห็นไม่ทางข้างหน้า และทำให้นักลงทุนท้อใจ จนต้องจำใจขายหุ้นทิ้งระหว่างทางเป็นประจำ..
รู้หรือไม่ว่า ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000
ราคาหุ้น Netflix เคยร่วงมากกว่า -50% จากจุดสูงสุด มาแล้วอย่างน้อย 4 ครั้ง
-ไม่นานหลังจาก IPO ในปี 2002 ราคาหุ้น Netflix ร่วงลงมากกว่า -50%
-ปี 2011 Netflix ประกาศขึ้นราคา และแยกบริการ Streaming กับ DVD ออกจากกัน ส่งผลให้ราคาหุ้นร่วงลงมากกว่า -50%
-ช่วงปี 2015-2016 หุ้น Netflix ร่วงกว่า -50% จากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของจำนวนสมาชิก และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น
-ปี 2022 การเติบโตของจำนวนสมาชิกที่ชะลอตัว การแข่งขันที่รุนแรง และภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่ไม่แน่นอน ทำให้ราคาหุ้น Netflix ร่วงลงมากกว่า -70% ในเวลาไม่ถึงปี
ส่วนหุ้น Nvidia ก็ไม่ต่างกัน เคยดิ่งมากกว่า -50% จากจุดสูงสุด มานับครั้งไม่ถ้วน เช่น
-ช่วงวิกฤติฟองสบู่ดอตคอม ปี 2000-2002 ราคาหุ้น Nvidia ดิ่งลงมากกว่า -90% จากจุดสูงสุด..
-วิกฤติซับไพรม์ ปี 2008 ราคาหุ้นดิ่งลงมากกว่า -70% จากจุดสูงสุด
-ช่วงปลายปี 2018 Nvidia ร่วงลงมากกว่า -50% จากจุดสูงสุด เพราะความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และความต้องการชิปสำหรับขุดคริปโทที่ลดลง
1
และก็มีช่วงปี 2021-2022 ที่ราคาหุ้น Nvidia ดิ่งลงมากกว่า -60%
จะเห็นว่า หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่อย่างเช่น Netflix Nvidia กว่าจะมีวันนี้ได้ ก็มีวันที่มืดมน จนราคาหุ้นจมดินทั้ง -50% -60% -70% ไปจนถึง -90% เลยก็มี
จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมถึงไม่ค่อยมีใครสามารถทนถือหุ้นแห่งอนาคตเหล่านี้ ได้เป็นเวลานาน
ลองจินตนาการว่า จู่ ๆ ไม่กี่เดือน ราคาหุ้นที่เราถืออยู่แดงเถือก เงินเกินครึ่งมลายหายไป เหมือนถูกทานอสดีดนิ้วใส่
1
นักลงทุนส่วนใหญ่ ก็คงทนเห็นขาดทุนขนาดนั้นไม่ไหว และจำใจยอม Cut Loss เพราะคิดว่าอย่างน้อยก็พอได้เงินต้นคืนมาบ้าง
ส่วนคนที่ถือมาสักพักใหญ่ และได้กำไรมาเยอะแล้ว พอเห็นกำไรที่ตัวเองเคยได้ หายไปกว่าครึ่ง ก็คิดว่าถ้าไม่รีบขาย เดียวจะไม่เหลือกำไรอะไรไว้ให้กอบโกยอีก..
2
และก็อย่างที่รู้กัน หลังจากวิกฤติตลาดหุ้นสหรัฐทุกครั้ง ตลาดก็จะฟื้นกลับมา ทำจุดสูงสุดใหม่เสมอ
เฉกเช่นเดียวกับหุ้นที่ผลประกอบการยังเติบโต ดูมีอนาคต และไม่ล้มละลายไปเสียก่อน
เหมือน Netflix Nvidia ที่เจอวันมืดมนนับครั้งไม่ถ้วน แต่ราคาหุ้นก็กลับมาทำ New High ได้อีกทุกครั้ง
ซึ่งใครสามารถทนผ่านช่วงเวลาที่น่าเจ็บปวดนั้นมาได้ (ด้วยการถือหุ้นถูกตัว) ก็จะได้รับรางวัลที่งดงาม
แต่ความผันผวนของหุ้นที่รุนแรง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งมีอิทธิพลต่อสภาพจิตใจของนักลงทุนมาก
ทำให้นักลงทุนไม่สามารถทนถือหุ้น และเก็บเกี่ยวผลตอบแทนในระยะยาวได้อย่างเต็มที่
สิ่งที่จะช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจของนักลงทุน ให้มองข้ามความผันผวนระยะสั้น โฟกัสกับอนาคต และสบายใจมากขึ้นกับการถือหุ้น แม้ราคาหุ้นจะร่วงเป็นช่วง ๆ
1
สิ่งนั่นคือ ธุรกิจจริง ๆ ที่อยู่เบื้องหลังหุ้นตัวนั้น ๆ ซึ่งคอยผลิตเงินสดอย่างต่อเนื่อง ด้วยสินค้าและบริการ ที่ตลาดต้องการ
ธุรกิจที่มีแบรนด์แข็งแกร่ง มีแนวโน้มเติบโต มีรายได้และกำไรมากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป
เพราะธุรกิจที่ดี (และยังคงดีต่อไป) จะคอยดึงราคาหุ้น กลับสู่พื้นฐานที่ควรจะเป็นในที่สุด
 
เหมือนทุกวันนี้ ที่เราต้องสมัคร Netflix อยู่ เพื่อไว้ดูยามว่าง (หรือมีไว้ให้อุ่นใจ)
องค์กรต่าง ๆ ที่ต้องสั่งชิปจาก Nvidia อยู่ เพื่อเอาไปใช้งาน รวมถึงใช้พัฒนา AI
คำถามคือ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า หุ้นตัวไหนคือ “ของจริง” มีธุรกิจที่ดี และจะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้แบบ Netflix แบบ Nvidia
ในขณะเดียวกัน ตลาดหุ้น ราคาหุ้น ที่มีความผันผวนมาก และไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
เราจะสามารถรับมือกับมันได้ยังไง ?
มาหาคำตอบได้ที่งาน "ลงทุนนอก 2024"
1
การรวมตัวของนักลงทุนผู้มากประสบการณ์ ที่จะมาแบ่งปันความรู้ และกลยุทธ์ในการลงทุนต่างประเทศ
พร้อมทั้งมีการ Pitching และให้ความเห็นว่า Bull หรือ Bear จาก Commentator
ที่จะทำให้เราได้ความรู้ มุมมอง การวิเคราะห์หุ้นเชิงลึก รวมถึงการมองหาและจัดการความเสี่ยง
เพื่อเป็นอาวุธเอาไว้ต่อยอด หาหุ้นที่มีศักยภาพเติบโตในอนาคต และยืนหยัดได้ในยามตลาดหุ้นเกิดวิกฤติ
นอกจากนั้นผู้ถือบัตรลงทุนนอก สามารถลงทะเบียน WORKSHOP และรับชม RERUN ONLINE ทุก Session ฟรี
จองบัตรได้ที่ https://www.zipeventapp.com/e/longtunnork2024
โฆษณา