28 ก.ย. 2024 เวลา 11:00 • ข่าว

ถ้าไม่มีเงินเก็บ แก่ไปใครจะดูแล ?

คำถามใหญ่สำหรับคนไทยในช่วงเวลาที่ประเทศเราเข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ เมื่อประชากรเกิดใหม่น้อยลง ขณะเดียวกันผู้สูงอายุก็มากขึ้นเรื่อยๆ หากไม่รีบหากลไกมารองรับ การดูแลกลุ่มคนในภาวะพึ่งพิงที่เพิ่มขึ้นก็จะกลายเป็นภาระที่รัฐบาลแบกรับไม่ไหว ซึ่งมาตรการกระตุ้นให้ประชาชนเกิด "การออม" เป็นหนึ่งคำตอบที่ดีในการรับมือสถานการณ์ในอนาคต โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่เป็นแรงงานนอกระบบ หรือประกอบอาชีพอิสระ จำนวนกว่า 30 ล้านคน ที่ไม่มีระบบบำนาญรองรับ
"หวยเกษียณ" เป็นโครงการที่รัฐบาลปัจจุบันกำลังผลักดัน เป็นหนึ่งกลไกการออมผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. เพื่อรองรับการเกษียณ และสร้างแรงจูงใจให้กลุ่มแรงงานนอกระบบสะสมเงินออมได้อย่างเพียงพอ และต่อเนื่องในระยะยาวเพื่อใช้จ่ายในวัยสูงอายุ
และกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. นี่เอง ที่เป็นเครื่องมือในการวางรากฐานการส่งเสริมการออมอย่างเป็นระบบ ที่ทำได้ตั้งแต่วัยเยาว์ ซึ่งเป็นแนวทางที่ถูกทิ้งค้างไว้หลายรัฐบาล ตั้งแต่ พ.ร.บ. กองทุนการออมแห่งชาติ มีผลใช้บังคับตั้งแต่ พ.ศ. 2554
จนกระทั่ง "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" เร่งผลักดัน ให้เกิดขึ้นจริงได้ ตั้งแต่เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยเล็งเห็นปัญหาเชิงโครงสร้างประชากร ที่จะส่งผลถึงการจัดการในอนาคต หากไม่รีบหากลไกเพื่อช่วยจัดการแก้ปัญหา ช่วยแบ่งเบาภาระของประชาชน และรัฐบาลได้ในอนาคตเมื่อประเทศเราอยู่ในสังคมสูงวัย
20 สิงหาคม 2558 เป็นวันคิกออฟ ที่ "นายกฯ ลุงตู่" เป็นประธานในพิธีเปิดกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล และเป็นวันรับสมัครสมาชิกเพื่อเริ่มเข้าระบบการออมเป็นวันแรก ซึ่งหลังจากนั้น รัฐบาลลุงตู่ก็ได้กำหนดให้การออม เป็นวาระแห่งชาติด้วย
สำหรับหลักการทำงาน กองทุนการออมแห่งชาติ สมาชิกต้องไม่อยู่ในระบบเงินสมทบเพื่อรับบำเหน็จบำนาญอื่น ออมได้ตั้งแต่อายุ 15-60 ปี โดยส่งเงินออมสะสมขั้นต่ำ 50 บาทต่อครั้ง สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี โดยส่งได้เดือนละ 1 ครั้ง หรือตามความสมัครใจ ยอดเงินในแต่ละครั้งไม่จำเป็นต้องเท่ากัน ไม่ต้องส่งทุกเดือนก็ได้ ส่วนรัฐจะออกเงินสมทบ 50-100% ตามจำนวนเงินฝากและช่วงอายุของสมาชิก และเมื่ออายุครบ 60 ปี เงินออมก็จะถูกคำนวณออกมาเป็นจำนวนเงินบำนาญรายเดือนให้กับสมาชิก ไปจนถึงอายุ 80 ปี หรือหลังจากนั้นด้วย
จนถึงวันนี้ จำนวนสมาชิกในระบบการออม นับจากปี 2559 จากการรายงานของ กอช. ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2567 พบว่ามีสมาชิก 2,651,774 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ในช่วงวัย 31-50 ปีมากที่สุด ประมาณ 1.1 ล้านคน และกว่าครึ่งของสมาชิกทั้งหมดเป็นเกษตรกร
กอช. ที่ "รัฐบาลลุงตู่" เร่งผลักดันให้เป็นจริงตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่ใหม่ๆ พร้อมกับปลูกฝังค่านิยมการออมให้กับคนในสังคมอย่างต่อเนื่องโดยเริ่มตั้งแต่ในวัยเยาว์ รวมถึงการกำหนดให้การออมถูกหลักการเป็นวาระแห่งชาติ ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความจริงใจและความตั้งใจในการแก้ปัญหาเชิงระบบ รองรับโจทย์สำคัญในอนาคต และเป็นการปูพื้นฐานการทำงานให้กับรัฐบาลต่อมา ได้รับไม้ต่อ นำไปต่อยอดการทำงาน เพื่อสร้างความสุขที่ยั่งยืนให้กับประชาชนคนไทย โดยที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างแท้จริง
โฆษณา