26 ก.ย. 2024 เวลา 06:21 • ประวัติศาสตร์

ถ้าไทยมีป่าหิมพานต์และมักกะลีผล อาหรับก็มีเกาะWaqwaq และต้นไม้วิเศษ

ในดินแดนอันห่างไกล ท่ามกลางมหาสมุทรที่ไม่มีใครสามารถสำรวจได้จนสุดขอบฟ้า มีตำนานเล่าขานถึงสองสถานที่ที่ซ่อนเร้นและเป็นปริศนา ป่าหิมพานต์จากดินแดนตะวันออก และเกาะ Waqwaq จากดินแดนอาหรับ
#มักกะลีผล หรือนารีผล ในป่าหิมพานต์ เป็นผลจากต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ออกผลเป็นหญิงสาวงาม ตามวรรณคดีไทย มักกะลีผลเมื่อสุกจะกลายเป็นหญิงสาวอายุราว 16 ปี ลักษณะพิเศษของมักกะลีผลคือศีรษะยังมีขั้วติดอยู่ นิ้วมือทั้ง 5 ยาวเท่ากัน ผมยาวสีทอง ตากลมโต คอเป็นปล้อง ไม่มีโครงกระดูก แต่สามารถส่งเสียงได้เหมือนมนุษย์จริง ๆ
มักกะลีผลที่ยังอ่อนจะมีลักษณะเหมือนคนนั่งคู้เข่าอยู่ เมื่อโตขึ้นขาจะเหยียดออกก่อน จนโตเต็มที่จึงยืนตรงเหมือนคนจริง ๆ บรรดาฤๅษี กินร วิทยาธร และคนธรรพ์ที่ยังมีตัณหา จะมารวมตัวกันที่โคนต้นเพื่อรอเวลาที่ผลจะสุก จากนั้นจะแย่งชิงกันเด็ดผลไปเป็นภรรยา การแย่งชิงนี้อาจรุนแรงถึงขั้นทำร้ายกันจนถึงแก่ชีวิต ผู้ที่เหาะได้ก็เหาะขึ้นไปเก็บ ส่วนผู้ที่เหาะไม่ได้ก็ใช้ไม้สอยหรือปีนขึ้นไป ผลมักกะลีผลมีชีวิตอยู่เพียง 7 วัน ก่อนจะเน่าเปื่อยสลายไป
มักกะลีผล
ขณะที่ในดินแดนตะวันตก มีตำนานเล่าถึง " เกาะ Waqwaq " สถานที่ลึกลับกลางมหาสมุทรที่ยังไม่เคยมีใครสำรวจได้ทั้งหมด เกาะนี้ถูกปกคลุมด้วยหมอกหนาทึบและคลื่นลมที่โหมกระหน่ำ ทำให้ผู้ที่พยายามเข้าไปมักจะหลงทางและไม่สามารถกลับออกมาได้
เกาะ Waqwaq มีต้นไม้วิเศษที่เป็นที่รู้จักมาก Waqwaq ยังปรากฏในวรรณกรรมอาหรับหลายเรื่อง รวมถึง "อาหรับราตรี" (One Thousand and One Nights) ต้นไม้เหล่านี้ไม่เหมือนต้นไม้ทั่วไปในโลกมนุษย์ ตำนานเล่าว่าต้นไม้ที่นี่ออกผลเป็นหัวสัตว์ต่างๆด้วย เช่น ม้า ช้าง เสือ ควาย แพะ และมนุษย์ บางตำนานเล่ามีหัวที่สามารถพูดและให้คำพยากรณ์ได้ กล่าวกันว่าอเล็กซานเดอร์มหาราชก็เคยได้พบต้นไม้ ที่มีหัวคนพูดได้ต้นหนึ่ง
ต้นที่มีผลเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะผลที่มีรูปร่างเป็นหญิงสาว จะความงดงามอย่างยิ่ง ห้อยลงมาด้วยผม เมื่อผลสุกจะส่งเสียงร้องว่า "Waqwaq" คล้ายเสียงร้องไห้ เป็นที่มาของชื่อเกาะ ผลเหล่านี้มีรูปร่างและผิวสัมผัสเหมือนมนุษย์จริง ๆ นักเดินทางที่เดินทางมาไกลและห่างเหินจากภรรยามานาน จึงมักจะเด็ดลงมาเพื่อมีเพศสัมพันธ์ แต่สุดท้ายแล้วมันก็เป็นเพียงผลไม้ของต้นเท่านั้น ว่ากันว่าเมื่อเวลาผ่านไป 2 วัน ผลเหล่านี้จะเหี่ยวเฉาและร่วงหล่นจากต้น กลายเป็นส่วนหนึ่งของผืนดินบนเกาะแห่งนี้
เรื่องราวจากนักเดินทางที่ได้มาเยือนเกาะ Waqwaq เล่าว่านอกจากต้นไม้ที่ออกผลเป็นหญิงสาวแล้ว เกาะนี้ยังเต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติอันหายาก เช่น ทองคำและอัญมณีจำนวนมากที่ซ่อนอยู่ใต้ดิน ทรัพยากรเหล่านี้ดึงดูดนักสำรวจและพ่อค้าจากทั่วโลกให้พยายามเดินทางมายังเกาะนี้ แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถไปถึง บางคนไม่อาจทนต่อความลึกลับและสิ่งเหนือธรรมชาติบนเกาะได้ บางคนก็ไม่สามารถหาทางกลับออกมาได้
ตำนานของ Waqwaq จึงกลายเป็นตำนานที่ผสมผสานความลึกลับ ความงดงาม และความกล้าหาญของผู้ที่พยายามค้นหาดินแดนนี้ ตำนานนี้ถูกเล่าขานในหมู่นักเดินทางและพ่อค้าชาวอาหรับ และกลายเป็นเรื่องราวที่สะท้อนถึงการผจญภัยและการค้นหาความจริงในโลกที่ยังไม่ถูกค้นพบ
แม้ว่า มักกะลีผล และ Waqwaq จะมาจากสองวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน แต่ทั้งสองตำนานต่างก็สะท้อนถึงความเชื่อในสิ่งมหัศจรรย์และความลึกลับของธรรมชาติ ที่ยังคงซ่อนเร้นอยู่ในโลกใบนี้ เป็นตำนานที่ยังคงมีชีวิตและส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ผู้คนตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและสิ่งที่ยังไม่ถูกเปิดเผย
นอกจากนี้ ตำนานเกี่ยวกับต้นไม้ที่ออกผลเป็นหญิงสาวยังปรากฏในวัฒนธรรมอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่นอินเดีย และกรีก ซึ่งมีเรื่องราวคล้ายคลึงกัน แต่ละเรื่องเล่าถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างธรรมชาติและมนุษย์ในรูปแบบที่แตกต่างกันไป
โฆษณา