เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
"ท่วมหนัก - แล้งซ้ำซาก" เป็นปรากฏการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย
.
หนึ่งในนั้นคือที่บริเวณแม่น้ำป่าสักซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของจังหวัดลพบุรีและสระบุรี เป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงคนในพื้นที่ทั้งการอุปโภค บริโภค รวมถึงด้านเกษตรกรรม การเลี้ยงสัตว์และการประมงมายาวนาน ในอดีตเคยเป็นหนึ่งพื้นที่น้ำท่วม-แล้งซ้ำซากทุกปี โดยเฉพาะเมื่อเกิดน้ำท่วม บ่อยครั้งก็จะกระทบมาถึงเขตเมืองอย่างกรุงเทพมหานคร
.
แต่ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกลและพระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทอดพระเนตรเห็นปัญหา และทรงคิดหาทางแก้ไขความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างไม่ทรงเหน็ดเหนื่อย จึงเกิดจุดเปลี่ยนสำคัญก่อเกิดเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริบริเวณแม่น้ำป่าสัก ที่ได้ทรงพระราชทานพระราชดำริ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532 ให้กรมชลประทานศึกษาความเหมาะสมของโครงการเขื่อนกักเก็บน้ำแม่น้ำป่าสักอย่างเร่งด่วน
.
โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำและบรรเทาอุทกภัยที่เกิดขึ้นกับประชาชน ซึ่งต่อมาคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ดำเนินการ วันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ.2537 โครงการนี้ใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปี ระหว่าง พ.ศ. 2537 - 2542 โครงการดังกล่าวจึงแล้วเสร็จ โดยพระองค์ได้พระราชทานนามว่า "เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์"
มีความหมายว่า เขื่อนแม่น้ำป่าสักที่เก็บกักน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2542 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงเสด็จไปทำพิธีเปิดเขื่อนฯ ด้วยพระองค์เอง และนับจากวันนั้นเป็นต้นมา เขื่อนแห่งนี้ได้สร้างคุณูปการมากมายตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
.
"ป่าสักชลสิทธิ์" เป็นเขื่อนกักเก็บน้ำที่ใหญ่ ยาว ลึก ที่สุดในประเทศไทย มีขนาดความจุอ่างเก็บน้ำ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มพื้นที่ชลประทาน 144,500 ไร่ และพื้นที่ส่วนขยาย 30,000 ไร่
.
หลังจากโครงการแล้วเสร็จ ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในการป้องกันและบรรเทาสถานการณ์น้ำท่วม น้ำแล้ง เป็นแหล่งน้ำอุปโภค-บริโภคเพื่อการเกษตร โดยสามารถส่งน้ำช่วยพื้นที่การเกษตรฤดูฝนถึง 2,200,00 ไร่ และส่งน้ำพื้นที่ชลประทานเปิดใหม่อีก 174,500 ไร่ ทำให้การปลูกข้าวนาปรังได้ผลผลิตมากขึ้น และยังช่วยการขาดแคลนน้ำ รวมถึงการส่งน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม
.
ขณะเดียวกัน ก็ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา และเป็นแหล่งประมงน้ำจืดขนาดใหญ่ เรียกว่านอกจากแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง ทำให้การจัดกันน้ำมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้วยังช่วยให้ระบบนิเวศดีขึ้น เอื้อประโยชน์ให้ระบบเศรษฐกิจและการอุตสาหกรรมรอบพื้นที่
.
นอกจากนั้นแล้วยังกลายเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญสำหรับการท่องเที่ยว เพราะสามารถโดยสารรถไปเที่ยวชมความงามของเขื่อนป่าสัก ทำให้ได้ทั้งความรู้และความสนุกสนานสำหรับครอบครัวด้วย
.
และหากย้อนเวลาไปไม่ไกลนัก ในปี 2564 ช่วงเดือนกันยายน ที่หลายพื้นที่เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องจากอิทธิพลของ "พายุเตี้ยนหมู่" ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่หลายพื้นที่ ช่วงนั้นเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กลายเป็นกุญแจสำคัญ ที่ช่วยรองรับมวลน้ำหลากมหาศาลไม่ให้ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ช่วยรับมือรวมถึงช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยได้อย่างมาก
.
การรับมือกับผลกระทบจากพายุเตี้ยนหมู่ เป็นเพียงหนึ่งสถานการณ์ที่ทำให้เห็นว่า "เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์" ได้ทำหน้าที่กักเก็บน้ำ บรรเทาอุทกภัยแก่ประชาชนอย่างเต็มประสิทธิภาพ
.
โดยเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาแหล่งน้ำจากสายพระเนตรอันยาวไกลของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยให้ประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย ที่อยู่ภายใต้ร่มเงาพระบารมีของพระองค์ท่านได้อย่างแท้จริง
.
#UTNToday
#UTNTodayอาสาสื่อสาร
#อาสาสื่อสาร
#สื่อออนไลน์ที่อาสามาสื่อสารด้วยใจ
#สร้างชาติStory
#ในหลวงรัชกาลที่9
#เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
