12 ต.ค. 2024 เวลา 01:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ทำความรู้จักกับ Short Sell: การลงทุนที่เดิมพันกับการตกของราคา

การลงทุนในตลาดหุ้นมีหลากหลายวิธีที่นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ หนึ่งในวิธีที่น่าสนใจและซับซ้อนกว่า คือ Short Sell หรือการขายชอร์ต (Short Selling) ซึ่งเป็นการลงทุนที่นักลงทุนคาดหวังว่าราคาหุ้นจะลดลง เพื่อทำกำไรจากความแตกต่างของราคาเมื่อหุ้นตกต่ำกว่าราคาที่ขายไปก่อนหน้านี้ แม้ว่าจะเป็นเทคนิคที่มีความเสี่ยง แต่ก็มีประโยชน์ในบางสถานการณ์สำหรับผู้ที่เข้าใจวิธีการนี้อย่างถ่องแท้
Short Sell คืออะไร?
Short Sell คือการขายหุ้นที่นักลงทุนไม่ได้เป็นเจ้าของ โดยจะกู้ยืมหุ้นมาจากโบรกเกอร์เพื่อขายออกไปก่อนในราคาปัจจุบัน เมื่อราคาหุ้นลดลงตามที่คาดหวัง นักลงทุนจะทำการซื้อหุ้นนั้นกลับคืนมาในราคาที่ต่ำกว่าเพื่อคืนให้กับโบรกเกอร์ ผลกำไรจะมาจากส่วนต่างระหว่างราคาที่ขายหุ้นออกไปกับราคาที่ซื้อหุ้นคืน
ยกตัวอย่างเช่น:
นักลงทุนกู้ยืมหุ้นจากโบรกเกอร์และขายในราคา 100 บาทต่อหุ้น
ต่อมาราคาหุ้นลดลงเหลือ 80 บาท นักลงทุนจึงซื้อหุ้นกลับมา
นักลงทุนได้กำไรจากส่วนต่างคือ 20 บาทต่อหุ้น
ขั้นตอนของการทำ Short Sell
1.กู้ยืมหุ้น: นักลงทุนจะกู้ยืมหุ้นจากโบรกเกอร์ ซึ่งโดยทั่วไปโบรกเกอร์จะมีสต็อกหุ้นที่ลูกค้าสามารถยืมเพื่อทำ Short Sell ได้
2.ขายหุ้นในตลาด: หุ้นที่กู้ยืมมาจะถูกขายในราคาปัจจุบัน ทำให้นักลงทุนได้ถือเงินสดจากการขาย
3.รอราคาหุ้นลดลง: นักลงทุนจะรอให้ราคาหุ้นลดลงตามที่คาดหวัง หากราคาหุ้นไม่ลดลงตามคาด อาจต้องพิจารณาซื้อหุ้นคืนเพื่อปิดสถานะในราคาที่ขาดทุน
ซื้อหุ้นคืน: เมื่อราคาหุ้นลดลงตามที่คาดหมาย นักลงทุนจะซื้อหุ้นคืนในราคาที่ต่ำกว่า
4.คืนหุ้นให้โบรกเกอร์: หลังจากซื้อหุ้นคืนแล้ว นักลงทุนจะนำหุ้นนั้นไปคืนให้กับโบรกเกอร์ การทำเช่นนี้จะเสร็จสิ้นการทำ Short Sell และผลต่างระหว่างราคาที่ขายและราคาที่ซื้อคืนจะเป็นกำไรหรือขาดทุน
ข้อดีของ Short Sell
1.ทำกำไรในตลาดขาลง: Short Sell ช่วยให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้แม้ในสภาวะตลาดที่ราคาหุ้นลดลง ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการทำกำไรไม่ว่าจะเป็นช่วงตลาดขาขึ้นหรือลง
2.ป้องกันความเสี่ยง (Hedging): Short Sell ยังสามารถใช้เป็นกลยุทธ์ในการป้องกันความเสี่ยงสำหรับนักลงทุนที่มีสถานะหุ้นยาว (Long Position) โดยการทำ Short Sell จะช่วยลดผลกระทบจากการตกของราคาหุ้นบางส่วนที่นักลงทุนถืออยู่
ข้อเสียและความเสี่ยงของ Short Sell
1.ความเสี่ยงสูงในการขาดทุน: การทำ Short Sell มีความเสี่ยงในการขาดทุนที่สูงกว่าการซื้อหุ้นทั่วไป เพราะราคาหุ้นสามารถขึ้นได้ไม่จำกัด ในขณะที่ราคาลดต่ำสุดคือ 0 บาท หากราคาหุ้นที่ขายชอร์ตไว้พุ่งสูงขึ้น นักลงทุนจะต้องซื้อคืนในราคาที่สูงกว่าที่ขายไป ทำให้ขาดทุน
2.ดอกเบี้ยจากการยืมหุ้น: การยืมหุ้นจากโบรกเกอร์มักมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในรูปแบบของดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียม ทำให้การทำ Short Sell ไม่เหมาะกับการถือครองนานๆ
3.ความผันผวนของตลาด: ตลาดหุ้นมักมีความผันผวนสูง และการคาดเดาการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นเป็นเรื่องที่ยาก หากนักลงทุนทำการขายชอร์ตผิดพลาด อาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการขาดทุนสูง
Short Sell เหมาะกับใคร?
การทำ Short Sell เหมาะกับนักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญและเข้าใจตลาดหุ้นเป็นอย่างดี เพราะต้องใช้ทักษะในการวิเคราะห์ทิศทางของตลาดและการจัดการความเสี่ยง นอกจากนี้ นักลงทุนควรมีเงินทุนเพียงพอในการรับมือกับความผันผวนของราคาหุ้น รวมถึงมีการวางแผนการบริหารเงินที่ดีเพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุนอย่างหนัก
สรุป
Short Sell เป็นเครื่องมือที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะในช่วงตลาดขาลง แต่การทำ Short Sell นั้นมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูง นักลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจให้ละเอียดก่อนทำการลงทุนเพื่อให้สามารถจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำความเข้าใจการทำงานของตลาดและการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจะช่วยให้นักลงทุนสามารถใช้ Short Sell เป็นกลยุทธ์เสริมเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โฆษณา