Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ในเงาของเวลา
•
ติดตาม
16 ต.ค. 2024 เวลา 17:07 • ประวัติศาสตร์
๙ มิถุนายน ๒๔๕๘
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
เสด็จพระราชดำเนิน'เมืองสายบุรี'
...
'เมืองสายบุรี' เดิมเรียกกันว่า 'เมืองสาย' ซึ่งมาจากภาษามลายูว่า 'นครีซา' มีความหมายว่า 'เมืองแห่งปฏัก' ซึ่งคำว่า 'ซา' มาจากคำว่า 'ซากาเยาะ' คือ ปฏัก (อุปกรณ์ที่ควาญช้างใช้บังคับช้าง)
เดิมเป็นหนึ่งในเจ็ดหัวเมืองประเทศราชมลายูของสยาม ชาวไทยเชื้อสายมลายํจะเรียกว่า 'ตะลุแบ' หรือในภาษามลายูที่ยืมมาจากภาษาสันสกฤต เรียกว่า สลินดงบายู หรือ ซือลินดงบายู ซือมาลันบุลัน มาตันดูวอ อันมีความหมายว่า เมืองกำบังลมพายุใต้แสงจันทร์ ณ ธารสองสาย
ในวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๕๘ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จพระราชดำเนินเมืองสายบุรี ดังปรากฏรายละเอียดใน 'จดหมายเหตุระยะทางเสด็จพระราชดำเนินเลียบมณฑลปักษ์ใต้' ซึ่ง มหาเสวกโทพระยาศรีวรวงศ์ (ม.ร.ว.จิตร สุทัศน์) เป็นผู้บันทึกในนาม 'สักขี' ความว่า
"...วันพุฒที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๕๘ กำหนดเสด็จขึ้นเมืองสายบุรีเวลาเช้า ๕ โมง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องเต็มยศเสือป่ากรมพรานหลวงรักษาพระองค์ ทรงสอดสายสะพายมหาจักรกรีบรมราชวงษ์ อำมาตย์เอก พระยาสุริยสุนทรบวรภักดี (นิอิตำ) ผู้ว่าราชการเมืองสายบุรี และรองอำมาตย์เอกหลวงอมัจกิจพิบูลย์ ปลัดเมือง พาเรือมารับเสด็จเมื่อจะเสด็จลงเรือพระที่นั่ง พระยาสายบุรีทูลเกล้าฯ ถวายเครื่องบูชายิ่งแลดอกไม้ธูปเทียน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินด้วยเรือพระที่นั่งกรรเชียง เรือยนต์จูงพร้อมด้วยเรือราชบริพาร และเรือฆ้องกลองแห่น้อมตามเสด็จเข้าลำน้ำเมืองสาย เสด็จขึ้นที่สพานน้ำน่าพระตำหนัก ซึ่งได้จัดปลูกสร้างไว้รับเสด็จ ครั้นที่กำหนดว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงจะเสด็จประพาศ หนทางที่เข้าไปแลเห็นเรือเจ้าพระยาเปนเรือเหล็กจมอยู่ใกล้โรงภาษี
เรือเจ้าพระยาลำนี้เปนเรือเก่า เดินระหว่างกรุงเทพฯ กับเมืองสิงคโปร์ หยุดรับคแสินค้าตามเมืองแหลมมลายูเหล่านี้ ตั้งแต่ ๒๐ ปีกว่ามาแล้ว เปนของพระยาพิสณฑ์สมบัติบริบูรณ์ (ยิ้ม) แต่ได้ขายเปลี่ยนเจ้าของกันมาหลายต่อเมื่อประมาณสัก ๕ ปีล่วงมานี้ มาจอดทอดสมออยู่ที่น่าเมืองสายบุรี ต้นฤดูมรสุมเกิดลมพายุใหญ่คลื่นซัดเอาเรือลำนี้เข้าไปจากทเล ถึงในปากน้ำจึงได้จมน้ำอยู่จนบัดนี้
ต่อเข้าไปอีกหน่อยแลเห็นแลเห็นหมู่บ้านใหญ่ๆ ราษฎรออกมานั่งคอยชมพระบารมรเปนหมู่ๆ แลเห็นภูเขาเมืองสวยอยู่ข้างน่า มีเสาธงกับศาลาอยู่บนยอดเขา มีปรำพระสงฆ์สวดถวายไชยมงคลตามทางแห่งหนึ่ง เมื่อจวนถึงเมืองได้ยินเสียงฆ้องกลองเครื่องมหรศพต่างๆ สนั่นอึงมี
มหรศพที่มีมีทั้งหนังมโนรา และมะยงเปนหลายแห่ง เสด็จพระราชดำเนินขึ้นสพานน้ำ พระสงฆ์มีพระธรรมโกษาเปนประธานสวดถวายไชยมงคล กองเสือป่าและนักเรียนตั้งแถวรับเสด็จ ในหมู่นักเรียนมีเด็กที่ได้คัดสำหรับเข้ากองลูกเสือ แต่งตัวเปนลูกเสืออยู่ด้วย และมีนักเรียนผู้หญิงด้วย นักเรียนร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี
การแห่นำตามเสด็จมีตำรวจราชองครักษ์ และกองทหารมหาดเล็กแต่งเต็มยศ เหมือนวันเสด็จขึ้นเมืองนราธิวาส ประทับที่พระตำหนักครู่หนึ่ง แล้วเสด็จลงจากพระตำหนัก พระยามหาอำมาตยาธิบดีนำ เจ๊ะแมะเจ๊ะเต๊ะ ภรรยาพระยาสายบุรี เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท แลในที่นั้นมีบุตร์ภรรยาข้าราชการเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาททูลเกล้าฯ ถวายผ้าพรรณแลของพื้นเมือง
มีพระราชดำรัสด้วยตามสมควร แล้วทรงพระเก้าอี้พระราชยานไปตามทางที่ตกแต่งด้วยเฟื่องใบไม้ประดับธงช้างแลอักษรพระปรมาภิธัย ถึงพลับพลาจตุรมุขเสด็จประทับบนพลับพลา ข้าราชการแลราษฎรประชุมเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทในปรำน่าพลับพลา ทูลเกล้าฯ ถวายดอกไม้ธูปเทียน
โต๊ะฮะยีซึ่งเปนที่นับถือของชาวมลายูทางศาสนา ร้องคำถวายไชยมงคล ราษฎรรับโห่ ๓ ลา แล้วพระโกชาฮิศหาก อ่านคำแสดงความจงรักภักดีและถวายไชยมงคลต่อใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาทในนามของพระยาสายบุรีข้าราชการแลราษฎร
แล้วมีพระราชดำรัสตอบใจความว่า ทรงขอบใจพระยาสายบุรีแลราษฎรเมืองนี้ในการที่แสดงวาจาต้อนรับพระองค์ ทรงมีพระราชหฤทัยยินดีเปนอันมาก ที่ได้มีพระบรมราชวโรกาศเสด็จมาถึงเมืองนี้ เพราะทรงรู้สึกว่า ถ้าได้เสด็จมาพบมาเห็นประชาชนที่ฝากตัวอยู่ในความปกครองของพระองค์แล้วจะเปนที่ทรงคุ้นเคย กิจการจะสำเร็จเรียบร้อยเมื่อเสด็จมาถึงที่นี้ ทอดพระเนตรเห็นราษฎรมีความยินดีรับเสด็จแขงแรงก็ทรงยินดีแลเชื่อถือด้วยคำที่แสดงน้ำใจถวายสัตย์ และเพื่อแสดงความที่ทรงพระเมตตาแก่ประชาชนทั้งหลายที่มีมาแล้วและจะมีต่อไป
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระแสงราชสาตราไว้ต่างพระองค์ ถึงพระองค์จะเสด็จอยู่ห่างไกลก็มีพระราชหฤทัยผูกพันธ์อยู่กับเมืองนี้ พระแสงนี้โปรดเกล้าฯ ให้ผู้ว่าราชการเมืองรับไว้เปนของแทนพระองค์ และให้รู้สึกน่าที่ราชการอันสำคัญสมควรที่เปนผู้ต่างพระเนตรพระกรรณ ต้องใช้อำนาจโดยบริสุทธิ์และเปนยุติธรรม จะได้เปนพระเกียรติยศในการที่ทรงแบ่งพระราชอำนาจพระราชทานไว้
และเปนพระเกียรติยศแก่ผู้ว่าราชการเมืองแลข้าราชการผู้ที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัย ทรงขอบใจผู้ว่าราชการเมือง กรมการแลราษฎรทั่วกัน แลพระราชทานพรให้ประชาชนทั่วน่ามีความศุขสวัสดิวัฒนา
พอสุดกระแสพระราชดำรัส โต๊ะฮะยีซร้องถวายไชยมงคล ราษฎรรับสาธุการพร้อมกัน ๓ ลา พระยาสายบุรีขึ้นไปรับพระแสงราชสาตราต่อพระราชหัตถ์ ขณะนั้นพระสงฆ์ ๕ รูป มีพระธรรมโกษาจารย์ เปนประธานสวดไชยมงคลคาถา อำมาตย์เอกพระยาสุริยสุนทรบวรภักดี ผู้ว่าราชการเมืองสายบุรี กล่าวคำเปนภาษาไทย รับกระแสพระบรมราโชวาทเหนือเกล้าเหนือกระหม่อม แลรับพระราชทานพระแสงราชสาตรารักษาไว้ต่างพระองค์ โดยความเคารพแลเพื่อเปนเกียรติยศและสวัสดิมงคลแก่เมืองสายบุรี
ถ้อยคำที่พูดเปนภาษาไทยอย่างไทยชาวกรุงเทพฯ ไม่ใช่ไทยชาวนคร แต่ประจงพูดช้าๆ และมีประหม่าสะทกสะเทิ้นบ้าง แล้วพระยาสายบุรีได้นำคำถวายไชยมงคลแลต้นไม้ทองเงิน มีครอบแก้วคู่ ๑ ซึ่งทำด้วยฝีมืออย่างประณีตขึ้นทูลเกล้าถวาย ราษฎรโห่ซร้องสาธุการอีก ๓ ลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จประทับน่าอาศน์สงฆ์ พระธรรมโกษาจารย์ถวายอดิเรก พระสงฆ์รับ 'ภวตุสัพ์พมังคล' แล้วเสด็จลงจากพลับพลา
พระยาสายบุรีเชิญพระแสงราชสาตราขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ทรงรับมาพระราชทานให้เจ้าหมื่นไวยวรนารถเชิญตามเสด็จพระราชดำเนิน
จากพลับพลาทรงพระราชยานต่อไป ประพาสตลาดเพื่อพระราชทานพระบรมราชวโรกาศให้ราษฎรชาวเมืองได้เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทตามหนทางเสด็จเห็นออฟฟิศไปรสนีย์โทรเลข โรงตำรวจภูธร ศาลากลางเมืองล้วนแต่ทำอย่างถาวรเรียบร้อย ถนนหนทางสอาดดี เสด็จประพาศจนถึงตลาดจีน ชาวบ้านตั้งเครื่องสักการบูชาและจุดประทัดถวายไชย แล้วเสด็จกลับสู่พระตำหนักที่พัก
เวลาเสด็จประพาศตลาดกำลังแดดงาม เพราะเปนเวลาอยู่ในระหว่างเที่ยงกับบ่ายโมง ข้าราชการที่ตามเสด็จแต่งเต็มยศอยู่ ตอนนี้หวังใจว่าผู้อ่านจะเข้าใจความรู้สึกของผู้ตามเสด็จว่าเปนอย่างไร แต่ท่านเจ้าพระยาอภัยราชาและท่านพระยาราชวัลภานุศิษฏ์ยังตามเสด็จทันและไม่บ่นว่ากระไร เปนแต่ทำหน้ายิ้มหัวเราะกระทำให้ผู้อื่นรื่นเริงไปด้วย
เวลาบ่ายโมงครึ่ง เสวยพร้อมด้วยข้าราชการที่พระตำหนัก และมีปรำเลี้ยงผู้ตามเสด็จทั่วกัน เปนของพระยาสายบุรี มีความยินดีจัดถวายและเลี้ยงทั้งสิ้น เปนกับเข้าแลของหวานอย่างมลายู ข้าพเจ้าแลผู้อื่นรู้สึกว่าอาหารที่เลี้ยงได้ปรุงรศโดยประณีต ผู้ที่เคยไปประเทศตุรกี รู้สึกว่ากับเข้ามลายูไม่เลี่ยนเหมือนกับเข้าตุรกี เพราะกับเข้าตุรกีเมื่อรับแขกไม่มีเกลือให้ประสมรศอาหารอื่นเลย ด้วยธรรมเนียมตุรกีถือว่าให้กินเกลือเสมอให้สบถสาบาล เห็นจะตรงกับที่เราว่า 'น้ำเกลือน้ำปลาร้า'
ส่วนของหวานมีใบไม้แช่อิ่มชนิดเกินหวานกรอบๆ เรียกว่าใบซูดุ คล้ายใบส้มเช้าของเรา ซึ่งใช้แต่ทำยาบำรุงโลหิต ใบสดมียางเหนียวกัดมือ แต่เมื่อแช่อิ่มแล้วดูรศชาดดีอยู่ ฝีมือกับเข้าคาวหวานเปนของภรรยาพระยาสายบุรี ประดิษฐทำโดยประณีตมาก
เวลาบ่าย ๓ โมง มีกีฬาในสนามน่าพระตำหนัก ในพวกกีฬามีแขกคู่ ๑ ออกมารำทำท่าจับกันไปจับกันมา สมมุติว่าชกมวย แต่ไม่มีใครเห็นว่าเปนมวยจริงจังอันใด
เสร็จการกีฬาแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมรูปทรงเครื่องเต็มยศเสือป่า กรมราบหลวงรักษาพระองค์แก่พระนราภิบาลสำหรับศาลากลางเมืองนราธิวาสองค์ ๑ พระราชทานพระบรมรูปเต็มยศเสือป่ากรมพรานหลวงรักษาพระองค์แก่พระยาสุริยสุนทรบวรภักดีสำหรับศาลากลางเมืองสายบุรีองค์หนึ่งกับพระยาสายบุรี ได้ทูลเกล้าฯ ถวายพัดขนนกหว้าขนาดใหญ่เท่าพัดอยู่งาน ซึ่งเปนฝีมือพระยาส่ยบุรีทำเอง แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับลงเรือพระที่นั่งกรรเชียง ราษฎรโห่ร้องถวายไชยส่งเสด็จพระราชดำเนิน
เสด็จถึงเรือพระที่นั่งอรรคราชวรเดชเวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เวลาเสด็จลงและเสด็จขึ้น เรือรบหลวงได้ยิงปืนถวายคำนับตามธรรมเนียม ส่วนมหาอำมาตย์ตรี พระยาเดชานุชิตืสมุหเทศาภิบาลสำเร็จราชการมณฑลปัตตานีกราบบังคมลาล่วงน่าไปคอยรับเสด็จที่เมืองปัตตานีโดยเรือศรีธรรมราช
อนึ่งเมื่อเสด็จขึ้นประทับพระตำหนักเมืองสายบุรีนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์ช้างเผือกชั้นที่ ๑ นิภาภรณ์แก่อำมาตย์เอกพระยาสุริยสุนทรบวรภักดี (นิอิตำ) ผู้ว่าราชการเมืองสายบุรี ๑ ช้างเผือกชั้นที่ ๕ ทิพยาภรณ์แก่รองอำมาตย์เอก หลวงอมัจกิจพิบูลย์ (อยู่) ปลัดเมืองสายบุรี ๑
ท่านผู้อ่านรายงานฉบับนี้คงเห็นได้ว่า พระยาสายบุรีผู้ว่าราชการเมืองนั้น เปนคนพื้นเมือง ข้าพเจ้าไปครั้งนี้ได้ทราบกิตติศัพท์ว่า พระยาสายเปนชาวมลายูผู้ ๑ ที่เอาใจใส่ในราชการและประกอบด้วยความสามารถจึงได้รับพระราชทานถานันดร และได้รับพระราชทานพระราชอำนาจเปนผู้ต่างพระเนตรพระกรรณในพระราชอาณาจักรส่วน ๑ อย่างผู้ว่าราชการเมืองทั้งหลายทั่วไป
เพราะฉะนั้นจึ่งเปนที่เห็นได้ชัดเจนว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราทรงตั้งพระราชหฤทัยจะทรงทำนุบำรุงข้าราชการของพระองค์ไม่เลือกชาติ ไม่เลือกภาษา และไม่เลือกศาสนา พระราชทานความเสมอภาคทั่วกัน
แลข้าพเจ้าเล็งเห็นว่า ชนชาวมลายูที่มีความสามารถในน่าที่ราชการเสมอด้วยคนไทยแล้ว อาจจะทรงพระกรุณาโปรด้กล้าฯ ชุบเลี้ยงในตำแหน่งถานันดรเช่นนี้ก่อนคนไทย เพื่อแสดงพระเมตตาธิคุณให้ทั่วถึงและทรงทำนุบำรุงสกุลวงษ์ให้เจริญทุกหมู่เหล่า..."
...
ภาพปก : ข้าราชการและราษฎรเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จบริเวณหน้าพลับพลาตรีมุข เมืองสายบุรี
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย