คาเมล โทรฟี่ 4x4 โอลิมปิก
อีทีนี้ว่าความผจญภัยในนิยามความหมายของฝรั่งคนขาวอาจไม่เหมือนเราคนผิวเหลืองในแง่ที่ว่า คนขาวชอบสำรวจทรัพยากร ที่ไหนมีอะไรแปรเปนเงินได้ไหม อยากบุกอยากลุยไปในแดนที่ดูเหมือนจะเถื่อน แต่เชื่อว่ามีวัฒนะและอารยธรรมซ่อนอยู่ จนเมื่อได้พบความงามศิวิไลซ์ที่หลบมุมซ่อนกายอยู่ในความขมุกขมัวแห่งป่าทึบ หรือ ทะเลทรายเวิ้งว้างไกลโพ้น ก็จะนำมาซึ่งความยินดีสุดแสนจะปรีดา เปนความยินดีแกมดีใจจนเปนที่ปลาบปลื้มจนล้นพ้นประมาณที่สู้อุตส่าห์ฝ่าฟันความยากลำบากต่างๆนานามาจนได้ถึงจุดหมาย
อันว่าความยินดีลักษณะนี้ พี่คนขาวเขาเรียกว่า Trophy บ่งนิยามความหมายยินดีจนมีรางวัลที่ควรค่ากับความยากลำบากบุกเบิกเสี่ยงภัยจะได้พบของมีค่านั้นๆ!!
ในยุคปี 1980 ยังมีนักสำรวจชาวเยอรมันกลุ่มหนึ่งไปสำรวจปากน้ำแอมะซอนที่บราซิลใช้รถจี๊ปวิลลี่ cj-5 ของอเมริกาแต่งแบบลุยไปบุกสำรวจ โดยบุหรี่คาเมลตราอูฐ ของอเมริกาเขามาเปนสปอนเซอร์ให้ (สมัยนั้นยาสูบเปนอุตสาหกรรมที่ถูกกฎหมายและไร้ข้อห้ามโฆษณาประชาสัมพันธ์)
ยังไม่ทันไรเจ้าของและผู้ผลิต รถยนต์ขับสี่(ล้อ)ของอังกฤษ อย่างแลนด์ โรเวอร์ ก็ตกลงใจร่วมกิจกรรมบุกลุยนี้ด้วย และลงรถทำใหม่ดีๆมาให้ใช้ในการลุยป่าบุกดงแทนรถจี๊ป เส้นทางเป้าหมายจะให้ออกเดินทางมันก็แสนไกลเน้นที่ชื่อมันคลาสสิกแบบว่าไม่เคยมีใครเหยียบย่างเข้าไปมาก่อน อย่างเช่น ปาปัวนิวกินียังงี้ ไซบีเรียยังงี้ มาดากัสการ์ยังงี้
อีทีนี้อันว่างานแข่งขัน จะเอา รางวัลTrophy อย่างนี้มันมิใช่ว่า ใครขับรถดีๆได้เร็วๆเข้าโค้งเก่งๆแล้วจะชนะ มันเปนการแข่งขันทางไกลที่วิบากและหฤโหด สมาชิกในรถต้องทำงานเปนทีม ร่วมมือร่วมใจ เพราะอีเส้นทางที่ไปบางทีมันไม่มีถนน แถมยังมีหลุมขวากอุปสรรคธรรมชาติขวางอยู่อีกมาก บางคราวต้องตัดโค่นเอาไม้มาทำแพถ่อ บางคราวต้องช่วยเหลือคู่แข่งที่กำลังพลาดอยู่ในอันตราย (ทั้งที่ปล่อยตายไปก็ดี_จะได้ชนะง่ายๆ) เรียกได้ว่าเปนเครื่องพิสูจน์น้ำใจนักกีฬาของแท้ เหมาะยิ่งนักกับผู้ติดตามรับชมที่จะตื่นเต้นและสนุกได้ใจ
รถที่แลนด์ โรเวอร์จัดให้สำหรับไปลุยในงานรางวัลยอดอูฐ_Camel Trophy นี้จะมีธีมสีที่เหมือนกันหมดเรียกว่า สีทรายเรือง_sandglow yellow ซึ่งเปนสีทำนองกากีทะเลทรายที่สวยลึกลับ มีเสน่ห์ไม่มากไปน้อยไปและที่สำคัญดูมีพลังอย่างบอกไม่ถูก แปะสติกเกอร์อูฐหนึ่งหนอกเอาไว้ข้างรถก็หาไม่ ใช้วิธีติดตัวสะกดอย่างว่า font ประจำยี่ห้อยาสูบเอาไว้แทนเปนอักษรสีฟ้าหม่นตัดขอบ
ในรถจะติดตั้ง roll cage หรือ โครงเหล็กเสริมกันยุบ (เวลารถคว่ำได้ไม่โดนหนีบตาย) ใต้ท้องติดแผ่นเหล็กอกเต่า ไว้กันโดนกระแทก ติดกว้านเอาไว้ลาก โมดิฟายระบบไฟฟ้าใหม่ติดไฟสปอตไลท์ให้สว่างทั้งบนล่างหน้าหลัง ท้ายรถติดปากนกแก้วเหล็กไว้ลากเพื่อน ใส่ท่ออากาศอย่างสูงไว้เเนวหลังคากันเครื่องดับเวลาลงน้ำ แต่งท่อหายใจเกียร์ ใส่ยางลุยโคลน (M/T) เสริมถังน้ำมันสำรอง อัพเกรดช่วงล่างและโช้คอัพ เสริมระบบจุดระเบิดหน้าหนาว ฯลฯ
ขาดไม่ได้คือ แปะสติกเกอร์ สปอนเซอร์ผู้สนับสนุนหลักอย่างเปนทางการให้เรียบร้อย (ซึ่งระยะหลังๆต่อมานี้ คาเมลกลายเปนขายเสื้อผ้ายี่ห้อ Camel Trophy Adventure รวมถึงสิ่งอุปกรณ์ลุยป่า ทั้งเป้/รองเท้า/นาฬิกา) มีสติกเกอร์ผู้สนับสนุนร่วมอีกเช่น Lee Cougan, Sony, Warn, Malaysia Airlines, Superwinch, Royal Dutch Shell, Shell, Avon ฯลฯ เเล้วจึงออกเดินทาง
ตลอดระยะเวลา 20 ปี คาเมล โทรฟี่ จัดกิจกรรมต่อเนื่อง เปิดการเดินทางไปดินแดนไกลโพ้นอย่าง สุลาเวสี/ ตองก้า/ มาดากัสก้าร์/ มองโกเลีย/ ไซบีเรีย/ ปาปัวนิวกินี/ แทนซาเนีย/ บูรุนดี/ เอลซาลวาดอร์/ กาลิมันตัน/ กลุ่มเกาะเคปฮอร์น/ ฮอนดูรัส
ตั้งรางวัลพิเศษ เช่น Team Spirit Rewards ไว้ให้เข้าชิงด้วย เพราะดังได้เล่าแล้วว่าเพื่อดำเนินกิจกรรมให้รอดที่ผู้เข้าร่วมต้องเผชิญความหนาวเย็น ความร้อน ฝน โคลน แดด ซึ่งไม่เพียงแต่ต้องการความแข็งแกร่งทางร่างกาย ยังต้องอาศัยความยืดหยุ่นทางจิตใจ, ความมั่นคง/อดทนต่อความทุกข์ยาก, ไม่รวมถึงทักษะหลังพวงมาลัยและความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นตามเส้นทางที่บางครั้ง เกิน 3,000 ไมล์ ขึ้นภูเขาที่มีความชันสูง
รวมถึงฝ่าแม่น้ำที่ความลึกเกือบจะมิดหลังคา เรียกว่าอะไรที่ว่าโหดแล้ว มันโหดขึ้นไปอีกระดับถึงขั้นหฤโหด จนเกิดเปนคำพังเพยว่านี่ล่ะหนางานกีฬาโอลิมปิกของประดาชาว 4x4 off road!
หลังมานี้ งานคาเมล โทรฟี่ คล้ายจะต้องการเพิ่มการทดสอบสำหรับผู้เข้าร่วมในทักษะอื่นๆ เช่น ขี่จักรยานวิบากหรือพายเรือคายัค อันส่งผลให้ ความเปนจิตวิญญาณดั้งเดิมของการทดสอบความเปนคนกับรถ (Man & Machine) เริ่มจืดจางลงไป จน Land Rover ตัดสินใจยุติการร่วมงานด้วยเข้าใจว่ารถออฟโรดไม่ใช่พื้นฐานของกิจกรรมต่อไปอีก
ทว่ารถพาหนะที่ใช้ในการแข่งขัน Camel Trophy นี้มีคุณค่ามาก นักสะสมจ้องกันตาเปนมัน ไม่นานมานี้สถาบันการประมูลบอนแฮมส์ในอังกฤษ จัดการประมูลรถแลนด์ โรเวอร์ ดีเฟนเดอร์ ปี 1991 รุ่น 110 ซึ่งเคยพิชิตเส้นทางจาก Tanzania ไปถึง Burundi มาแล้วในฐานะรถสนับสนุนการถ่ายทำ วีดิโอ
ภายนอกตกแต่งด้วยสติกเกอร์และชุดสีทรายเรืองดั้งเดิมที่คนในวงการเห็นแล้วต้องหลงใหล เครื่องยนต์ 2.5 ลิตรturbodiesel inline-four เกียร์ 5-speed manual พร้อมระบบช่วยลุย Jetlock handbrake system, Snorkel, Roof basket ชุดใหญ่พร้อมไฟสปอตไลท์, Roll cage, Hella driving lights, CB radio, front bucket seats ล้อกระทะเหล็กขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง Mud-terrain และป้าย Camel Trophy ของแท้ตั้งแต่ปี 1991
พร้อมการรับประกันความแท้โดย British MotorIndustry Heritage Trust Certificate 1991 LAND ROVER CAMEL TROPHY ราคา $127,000 คือ 4.5 ล้านบาท ยังไม่รวมค่าประมูล และประดาภาษีต่างๆ
ส่วนท่านที่อยากซื้อมาซ่อมเอง บอนแฮมส์เคยจัดประมูล รุ่นเดียวกันปี 1995 ลงสนามปี 1996 จบประมูลไปในราคา 28,463 ปอนด์ ตกคันละเพิ่งจะ 1.24 ล้านบาท!
ส่วนถ้าว่าอยากได้คันใหม่เลยจำลองภาพ วันวาน แลนด์โรเวอร์ จัดให้แบบใหม่เอี่ยม ชื่อ “Land Rover Defender Works V8 Trophy” อัพเกรดใหม่ใส่เครื่องยนต์ V8 5.0 ลิตร ขุมกำลังความแรงสูง 399 แรงม้าแรงบิด 380 ปอนด์-ฟุต ไฟหน้า LED ส่องสว่างแต่ยังคงความคลาสสิคด้วยกระจังหน้า กราฟิกรอบคันและสีรถเบี่ยงออกนิดเปนสี Eastnor Yellow ภายในตกแต่งแบบสปอร์ตด้วยเบาะหนัง Windsor สีดำหรูเย็บตัดสลับด้วยตะเข็บสีเหลือง
งานนี้ผู้ซื้อจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ Land Rover Trophy ที่จะจัดขึ้นตอนปลายปีที่ Eastnor Castle ในอังกฤษอีกด้วย สนนราคาเริ่มต้นที่ 270,000 เหรียญ หรือประมาณ 8 ล้านบาท ไม่รวมภาษีนำเข้า!!
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
