Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
นิยายรัก อมยิ้มรสขม
•
ติดตาม
22 ต.ค. 2024 เวลา 06:00 • หนังสือ
ตอนที่ 1: การพบกันครั้งแรก
“โอ้ ไม่!” เสียงร้องตะโกนออกมาจากปากเมญ่าเมื่อเธอเห็นว่าแก้วกาแฟในมือหลุดร่วงลงพื้นก่อนจะกระเด็นแตกเป็นเสี่ยง ๆ เธอรีบก้มลงเก็บเศษแก้วที่กระจัดกระจาย แต่ท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้น เธอกลับรู้สึกว่ามีคนกำลังจ้องมองอยู่
“ทำอะไรอยู่?” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นข้างๆ ทำให้เมญ่าหันไปมอง และเธอรู้สึกเหมือนเวลาได้หยุดลง เมื่อเห็นผู้ชายรูปงามในชุดสูทที่สวมใส่ลงตัว เขามีใบหน้าคมคาย ดวงตาเฉียบแหลมที่ส่องแสงอันเย็นชา นั่นคืออัคร ลูกชายของเจ้าของธุรกิจใหญ่ที่มีชื่อเสียงในเมืองนี้
“ฉัน... ขอโทษค่ะ!” เมญ่าพูดเสียงสั่น ขอโทษอย่างจริงใจ ขณะที่ความรู้สึกอับอายแล่นเข้ามาในใจอย่างรวดเร็ว เธอเป็นแค่ลูกสาวของแม่ค้ากาแฟที่ต้องทำงานเพื่อช่วยครอบครัว ในขณะที่อัครคือคนที่มักจะเดินอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความหรูหราและฐานะ
“ระวังหน่อยสิ” เขากล่าวพลางเหลือบตามองไปที่เศษแก้วบนพื้น ก่อนจะเดินจากไปอย่างไม่ใส่ใจ ปล่อยให้เมญ่ายืนอยู่ในความรู้สึกไม่สบายใจ
เมญ่ามองตามหลังอัคร ความรู้สึกอับอายและความประทับใจยังคงอยู่ในใจเธอ ไม่ใช่แค่เพราะเขาเป็นลูกชายของเจ้าของธุรกิจ แต่เพราะเขาทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ทำไมฉันต้องรู้สึกแบบนี้?” เมญ่าถามตัวเอง ในขณะที่เธอก้มลงทำความสะอาดที่เกิดจากความผิดพลาดของเธอ สายตาของผู้คนในร้านเริ่มจับจ้องมาที่เธอ ทำให้เธอรู้สึกยิ่งอับอายมากขึ้น แต่เธอก็เลือกที่จะทำงานต่อไปด้วยความพยายามที่จะไม่ให้ความรู้สึกนี้ทำลายวันของเธอ
ขณะที่ทำงานอยู่ เมญ่าก็ได้ยินเสียงพูดคุยของกลุ่มลูกค้าที่นั่งอยู่ที่โต๊ะใกล้ๆ กัน “เห็นมั้ย? นั่นคือเมญ่าคนทำกาแฟ ที่เป็นข่าวโดนโจมตีเมื่อเดือนที่แล้ว” หนึ่งในนั้นพูดขึ้น ทำให้เมญ่าหยุดทำงานชั่วคราวและหันไปมอง
“เขาไม่เหมาะสมกับอัครหรอก” อีกคนหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงดูถูก “น่าสงสารจัง ต้องมาทำงานแบบนี้”
เมญ่ารู้สึกเหมือนถูกแทงด้วยมีด การพูดคุยนี้ทำให้เธอรู้สึกถึงการถูกตัดสินจากคนที่ไม่รู้จักเธอเลย เธอถอนหายใจและพยายามทำให้ตัวเองเข้มแข็งขึ้น กลับไปทำงานด้วยความตั้งใจเพื่อให้ได้เงินที่จำเป็นต้องใช้จ่าย
แต่ความคิดถึงอัครก็ยังวนเวียนอยู่ในใจ เมญ่ารู้ดีว่าเขาเป็นคนที่อยู่ในโลกที่แตกต่างจากเธอ มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้เธอรู้สึกถึงอุปสรรคในความสัมพันธ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
“ไม่ว่าฉันจะรู้สึกยังไง ฉันก็ต้องมีชีวิตของตัวเอง” เมญ่าพูดกับตัวเองอย่างมั่นใจ แม้ว่าโลกภายนอกจะไม่เห็นค่าในตัวเธอ แต่เธอก็จะไม่ยอมให้ความรู้สึกนี้หยุดยั้งเธอได้
ด้วยความตั้งใจแน่วแน่ เธอกลับไปทำงานโดยไม่สนใจสายตาของคนรอบข้าง ในใจเธอรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นที่ตัวเอง และไม่มีอะไรที่เธอจะต้องกลัวอีกต่อไป
---
ตอนที่ 2: ความลำบาก
“อีกแล้วเหรอ?” เมญ่าพูดเบา ๆ เมื่อเห็นว่าลูกค้าที่สั่งกาแฟของเธอกำลังตำหนิเธออย่างไม่พอใจเมื่อกาแฟของเขาไม่ตรงตามที่สั่ง เมญ่ารู้สึกเหนื่อยและเครียดจากการทำงานที่ต้องพบกับลูกค้าที่มีความต้องการมากมาย เธอจึงพยายามทำใจเย็นและยิ้มให้กับลูกค้าแม้ในใจจะรู้สึกแย่
“ฉันขอโทษค่ะ เดี๋ยวทำใหม่ให้ค่ะ” เมญ่าตอบกลับเสียงอ่อนโยน พลางหันไปยังเครื่องชงกาแฟเพื่อทำกาแฟใหม่ให้ลูกค้า เธอรู้ดีว่าอารมณ์ที่ไม่ดีของลูกค้าจะทำให้การทำงานในวันนี้ยากขึ้น
เมื่อทำกาแฟใหม่เสร็จ เมญ่าก็ส่งให้ลูกค้าอย่างระมัดระวัง “นี่ค่ะ ขออภัยในความไม่สะดวก” เธอพูดพร้อมยิ้มให้กับเขา ลูกค้ารับกาแฟไปแต่ยังคงไม่พอใจ จนกระทั่งเขาเดินออกจากร้านไปด้วยท่าทางที่ไม่สบอารมณ์
“อาทิตย์นี้ฉันทำงานทั้งวันเลย” เมญ่าบ่นกับตัวเองเมื่อมองไปที่นาฬิกาบนกำแพง ที่บอกเวลาใกล้จะห้าโมงเย็นแล้ว เธอทำงานมาทั้งวันตั้งแต่เช้า โดยไม่มีเวลาพักผ่อนแม้แต่ครึ่งชั่วโมง เพื่อที่จะหาเงินให้พอเพียงสำหรับค่าใช้จ่ายในบ้าน รวมถึงค่ารักษาพยาบาลของน้องชายที่เจ็บป่วย
นึกถึงน้องชายของเธอ เมญ่าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คข้อความ และพบข้อความจากแม่ที่ส่งมาหาเธอ “เมญ่าลูก มีเงินพอให้หมอไหม? ยาแพงมาก” ข้อความสั้น ๆ แต่ทำให้หัวใจของเมญ่าหดหู่ลง เธอส่งข้อความตอบกลับว่า “เดี๋ยวหนูจะส่งให้ค่ะ” โดยที่ในใจกลับนึกถึงความลำบากที่เธอจะต้องประสบ
หลังจากปิดร้านและกลับถึงบ้าน เมญ่าก็เห็นแม่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาและน้องชายที่นอนอยู่บนเตียง มีรอยเหงื่อไหลออกมาจากหน้าผากของเขา แม่ส่งยิ้มให้เมญ่า แต่ดูเหมือนจะซ่อนความกังวลเอาไว้ “ทำงานเหนื่อยไหมจ๊ะ?” แม่ถามด้วยเสียงเบา
“ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ แค่มีลูกค้าที่ดุหน่อย” เมญ่าตอบกลับพร้อมยิ้มเล็กน้อย แม้ในใจจะรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมากก็ตาม
“แม่ขอโทษนะลูก ที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้มากกว่านี้” แม่พูดด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด ทำให้เมญ่ารู้สึกหนักใจยิ่งขึ้น เธอจึงพยายามบอกให้แม่ไม่ต้องกังวล “หนูโอเคค่ะ แค่พยายามหามาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
เมญ่ากับแม่ใช้เวลาคุยกันในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนที่แม่จะหลับไปบนโซฟา เมญ่าจึงเข้าไปนั่งข้าง ๆ น้องชาย และมองดูเขาที่หลับใหลอย่างสงบ “ถ้าหนูหาเงินได้มากกว่านี้ หนูจะพาเธอไปหาหมอที่ดีที่สุด” เมญ่าพูดเบา ๆ ขณะกุมมือของน้องชายไว้แน่น
วันต่อมา เมญ่าต้องกลับมาทำงานที่ร้านกาแฟอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอรู้สึกหนักใจมากกว่าทุกครั้ง เมื่อได้เห็นกลุ่มลูกค้าที่มาที่ร้านและพูดถึงความสำเร็จของคนอื่น พวกเขาพูดคุยกันอย่างอวดอ้างถึงการเดินทางท่องเที่ยวและการใช้ชีวิตที่หรูหรา เมญ่ารู้สึกเหมือนมีบางอย่างกดดันอยู่ในใจ
“ทำไมฉันไม่สามารถเป็นแบบนั้นได้บ้าง?” เมญ่าถามตัวเองในใจ เธอรู้ว่าเธอทำงานหนัก แต่ทำไมความรู้สึกยังคงว่างเปล่าอยู่เสมอ แม้จะมีความหวังที่จะพาน้องชายไปหาหมอ แต่เธอก็รู้สึกว่าโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองช่างห่างไกล
ขณะที่เธอกำลังคิด ฟ้าก็เริ่มมืด เมญ่าจึงเร่งทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้ร้านกาแฟปิดได้ทันเวลา ในใจของเธอมีความตั้งใจแน่วแน่ว่าเธอจะไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าเธอจะต้องเจออะไร
หลังจากปิดร้าน เมญ่าได้ยินเสียงกริ่งของประตู เมื่อเธอมองไปก็เห็นอัครยืนอยู่หน้าร้านกับเพื่อนของเขา เขาดูสง่างามและมั่นใจในตัวเอง ท่ามกลางแสงสลัว เมญ่ารู้สึกใจเต้นรัว แต่ก็พยายามเก็บความรู้สึกนี้ไว้ในใจ
“กาแฟเหมือนเดิมไหม?” เธอถามอัครด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้มั่นใจ ขณะที่พยายามห้ามไม่ให้ตัวเองรู้สึกประหม่า
“ใช่ แต่เพิ่มความหวานหน่อย” เขาตอบกลับ โดยยังคงมองเธอด้วยดวงตาที่เข้มข้น เมญ่ารู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในโลกที่แตกต่าง เมื่อเธอทำกาแฟให้เขา เธอก็อดคิดไม่ได้ว่าเขาจะมีชีวิตอย่างไรในโลกของเขา
“เขาคือคนที่ฉันไม่ควรเข้าใกล้” เมญ่าพูดกับตัวเองในใจ ขณะที่มือของเธอสั่นเล็กน้อยระหว่างทำกาแฟ
อัครรับกาแฟจากมือเธอและกล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่ในใจของเมญ่ากลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก อัครกับเพื่อนของเขาเดินออกไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ แต่ในใจเมญ่า กลับมีความรู้สึกที่ซับซ้อนที่ไม่สามารถอธิบายได้
ในขณะที่เธอมองดูพวกเขาเดินจากไป เมญ่าเริ่มสงสัยในความรู้สึกของตัวเอง เธอรู้ว่าอัครคือคนที่อยู่ห่างไกลจากชีวิตของเธอ แต่กลับไม่สามารถลบเขาออกจากใจได้
“ทำไมชีวิตมันถึงเป็นแบบนี้นะ?” เมญ่าเผลอถามตัวเองเสียงเบา ขณะยิ้มให้กับความหวังที่ยังคงส่องแสงอยู่ในใจ แม้ว่าอนาคตจะมืดมนและลำบากเพียงใด แต่เธอจะพยายามต่อไป ไม่ยอมแพ้ในทุกสิ่งที่เธอรัก
---
ตอนที่ 3: การเผชิญหน้าในฝัน
เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้น เมญ่าตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ก่อนที่ฟ้าจะสาง เพื่อเตรียมอาหารเช้าให้กับน้องชายและแม่ เธอยืนอยู่ในครัวเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของข้าวต้มร้อน ๆ ขณะที่เธอคิดถึงความฝันที่เมื่อคืนนี้ ซึ่งยังคงติดอยู่ในใจ
ในความฝันนั้น เมญ่าเห็นตัวเองยืนอยู่ในงานเลี้ยงใหญ่ มีผู้คนมากมายที่แต่งตัวหรูหรา และมีอัครยืนอยู่ที่กลางห้อง ดวงตาของเขามองมาที่เธอด้วยความอบอุ่น พร้อมกับรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอพยายามเข้าไปหเขา กลับมีบางอย่างดึงเธอให้ถอยหลัง ทำให้เธอรู้สึกถึงความอ้างว้าง
“มันคงจะไม่เกิดขึ้นจริง” เมญ่ากล่าวกับตัวเองขณะที่กำลังเตรียมอาหาร เช้านี้มีความรู้สึกหนักใจจากการคิดถึงความลำบากที่เธอต้องเผชิญ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีความหวังในใจว่าบางสิ่งจะเปลี่ยนไป
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เมญ่าก็เตรียมตัวออกไปทำงานที่ร้านกาแฟอีกครั้ง เมื่อเดินเข้าไปในร้าน เธอก็ได้เห็นบรรยากาศที่เหมือนเคย มีลูกค้าคนเดิม ๆ ที่มานั่งรอทานกาแฟและขนมเบเกอรี
แต่ในวันนี้ มีความรู้สึกพิเศษบางอย่างที่เต้นอยู่ในใจของเธอ เมื่อเห็นว่ามีลูกค้าที่คุ้นเคยกำลังนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งในร้าน นั่นคืออัครและกลุ่มเพื่อนของเขา เมญ่ารู้สึกตื่นเต้นและประหม่าในเวลาเดียวกัน
“วันนี้สั่งอะไรดี?” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้มั่นใจ ขณะที่เข้าไปใกล้โต๊ะของเขา
“คาปูชิโน่แบบเดิม” อัครตอบกลับ พร้อมกับมองไปที่เมญ่าด้วยสายตาที่เข้มข้น ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก “แล้วเธอล่ะ? สั่งอะไร?”
“กาแฟปกติค่ะ” เมญ่าตอบด้วยเสียงเบาและพยายามไม่ให้เขารู้ว่าเธอกำลังรู้สึกอย่างไร
ขณะที่เมญ่ากำลังชงกาแฟให้กับอัคร สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นนลิน นางร้ายที่มีชื่อเสียงในโรงเรียนและเป็นเพื่อนของอัครกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะถัดไป นลินมองมาที่เมญ่าแล้วแสดงออกถึงความไม่พอใจ ก่อนจะหันไปพูดกับเพื่อน ๆ ของเธอเสียงดัง “ทำไมถึงให้คนแบบนั้นมาทำงานที่นี่? มันน่าเกลียดชะมัด”
เมญ่ารู้สึกถึงความกดดัน แต่พยายามไม่สนใจเสียงของนลิน เธอทำกาแฟให้เสร็จและนำไปส่งให้กับอัคร แต่ในใจกลับรู้สึกไม่สบายใจเมื่อได้ยินคำพูดของนลิน
“เธอไม่ต้องสนใจพวกเขาหรอก” อัครพูดเบา ๆ ขณะที่เมญ่าเขย่าตัวเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงของนลิน “พวกเขาแค่ไม่เข้าใจ”
“ขอบคุณค่ะ” เมญ่าตอบกลับด้วยความรู้สึกขอบคุณ แต่ในใจยังมีความลังเล เนื่องจากอัครคือคนที่มีฐานะสูงกว่ามาก เธอรู้ว่าตนเองไม่เหมาะสมกับเขา และความรู้สึกนี้ทำให้เธอรู้สึกเป็นกังวล
เมื่อวันเวลาผ่านไป เมญ่าต้องเจอกับลูกค้าที่มีความต้องการมากมายและบางครั้งก็ทำให้เธอรู้สึกกดดัน แต่เธอพยายามทำงานอย่างเต็มที่ในทุกวัน เพื่อให้ได้เงินพอที่จะช่วยเหลือครอบครัว
แต่แล้ว เมื่อถึงช่วงบ่าย ความเครียดก็เพิ่มขึ้น เมื่อเธอได้รับโทรศัพท์จากแม่ที่บอกว่าน้องชายมีอาการแย่ลง เมญ่ารู้สึกเหมือนโลกทั้งใบถล่มลงมา นี่คือสิ่งที่เธอกลัวที่สุดในชีวิต
“เมญ่าต้องหาทางช่วยเขาให้ได้” เมญ่าพูดกับตัวเองในใจ ในขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงน้ำตาที่ไหลออกมา แต่เธอก็ไม่ยอมให้มันหลั่งออกมาเมื่ออยู่ที่ร้านกาแฟ เธอจะต้องเข้มแข็ง
เมื่อทำงานเสร็จ เมญ่ารีบกลับบ้านทันทีและพบว่าน้องชายกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง โดยมีแม่คอยดูแลอยู่ข้าง ๆ เธอเข้าไปนั่งข้าง ๆ และยิ้มให้กับน้องชายอย่างอบอุ่น แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
“ถ้าฉันมีเงินมากกว่านี้ คงจะช่วยเขาได้มากกว่านี้” เมญ่าคิดในใจ
คืนวันนั้น เมญ่าตัดสินใจเปิดคอมพิวเตอร์และเริ่มค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการหาเงินเพิ่ม แม้ว่าเธอจะรู้ว่ามันยาก แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้
“ฉันต้องทำให้ได้” เมญ่าพูดกับตัวเองด้วยความมั่นใจ ขณะที่มองดูน้องชายหลับอย่างสงบในห้องที่เต็มไปด้วยความหวังและความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขา
---
ตอนที่ 4: คำเชิญที่ไม่คาดคิด
รุ่งเช้าวันใหม่ เมญ่าตื่นขึ้นด้วยความรู้สึกหนักใจในใจ เพราะอาการของน้องชายยังไม่ดีขึ้น เธอพยายามทำให้ตัวเองสดชื่นขึ้นด้วยการอาบน้ำและเตรียมอาหารเช้า แต่ความวิตกกังวลยังคงอยู่ในใจของเธอ
“วันนี้ต้องทำงานหนักอีกแล้ว” เมญ่าพูดกับตัวเองในกระจก ก่อนที่จะหยิบกระเป๋าแล้วออกจากบ้านไปอย่างมีจุดหมาย
ในร้านกาแฟ วันนั้นกลับมีลูกค้าจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนที่มักจะมาใช้เวลาอยู่ที่นั่น เมื่อเมญ่าเดินเข้าไปในร้าน เธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยที่อึกทึกของพวกเขา รวมถึงเสียงของอัครที่กำลังนั่งอยู่กับเพื่อน ๆ ที่มุมร้าน
“มาคุยเรื่องโปรเจคกันเหรอ?” เมญ่าทักทายเสียงเบา เมื่อเข้าไปหาพวกเขา
“ใช่! แต่ยังไม่มีอะไรมากนัก” อัครตอบด้วยรอยยิ้ม แต่ก็ทำให้เมญ่ารู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
แต่ขณะนั้นนลินก็มองมาที่เมญ่าและแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเธอไม่ชอบเมญ่าจริง ๆ “พวกเธอไม่คิดจะเลือกคนที่เหมาะสมกว่านี้หรือ?” เธอพูดเสียงดังพอที่จะทำให้คนในร้านหันมามอง
เมญ่ารู้สึกถึงความกดดันทันที แต่เธอก็พยายามที่จะไม่สนใจ เธอจึงเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อเตรียมกาแฟให้กับอัครและเพื่อนของเขา ขณะที่ทำกาแฟ ความรู้สึกกังวลเกี่ยวกับน้องชายกลับมาอีกครั้ง
“ถ้าต้องการเงินก็ให้พวกเขาสมัครงานหรือมีส่วนร่วมทำอะไรกับการจัดงานที่กำลังจะมาถึง” เสียงของพนักงานที่ทำงานอยู่เคาน์เตอร์ข้าง ๆ ทำให้เมญ่าหันไปมอง “ทุกปีเราจะมีการจัดงานระดมทุนเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่ป่วย มันเป็นโอกาสที่ดีที่เธอจะได้เข้าร่วม”
เมญ่ารู้สึกตื่นเต้นในทันที เธอรู้ว่าการมีส่วนร่วมในกิจกรรมแบบนี้อาจช่วยให้เธอมีโอกาสทำเงินเพิ่มขึ้น แต่ก็รู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับความสามารถของตัวเอง “ฉันจะทำได้หรือเปล่านะ?”
ในช่วงบ่าย เมญ่าตัดสินใจพูดคุยกับเจ้าของร้านเกี่ยวกับการเข้าร่วมในงานระดมทุน และได้รับการตอบรับอย่างดีจากเขา “ยินดีเลย เมญ่า! เธอจะสามารถช่วยทำขนมและกาแฟได้มากมาย” เขากล่าว
ขณะที่เมญ่ารู้สึกตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสนี้ ทันใดนั้น อัครเดินเข้ามาหาเธอ “ฉันได้ยินว่าเธอจะเข้าร่วมงานระดมทุน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง
“ใช่ค่ะ ฉันคิดว่ามันจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการช่วยเหลือเด็ก ๆ และอาจจะหาเงินได้เพิ่มขึ้นด้วย” เมญ่าตอบอย่างมุ่งมั่น
“เธอทำได้ดีมากเลย” อัครยิ้มให้ ทำให้หัวใจของเมญ่าหวั่นไหว “ถ้าเธอต้องการความช่วยเหลือ หรือถ้าต้องการกำลังใจ ฉันยินดีที่จะช่วย”
เมญ่ารู้สึกอบอุ่นใจที่ได้ยินคำพูดนั้น แต่ในขณะเดียวกันก็กังวลว่าอัครจะรู้สึกเกี่ยวกับเธออย่างไร “ขอบคุณค่ะ แต่นี่มันก็เป็นเรื่องของฉัน” เมญ่าตอบกลับด้วยความสุภาพ แต่ในใจเธออยากให้เขารู้สึกสนใจในตัวเธอมากกว่านี้
เมื่อสิ้นสุดวันทำงาน เมญ่ากลับบ้านด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเมื่อคิดถึงงานระดมทุนที่กำลังจะมาถึง ในใจของเธอมีความหวังว่าอาจจะมีโอกาสดี ๆ เกิดขึ้นในงานนั้น
คืนวันนั้น เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะทำการบ้านของน้องชายและเตรียมตัวสำหรับงานที่จะมาถึง เธอเปิดโน้ตบุ๊กและเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำขนมและการจัดงาน ในขณะที่กำลังค้นคว้าอยู่ เธอก็ได้รับข้อความจากอัคร
“หวังว่าคุณจะทำได้ดีในงานนะ เมญ่า ถ้าต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม หรือถ้าเธอต้องการแรงใจ บอกได้เสมอ”
หัวใจของเมญ่าพองโตขึ้นเมื่ออ่านข้อความนั้น เธอไม่สามารถเชื่อว่าคนที่เธอชื่นชอบกำลังส่งข้อความให้กำลังใจเธอ “เขาจริงจังหรือเปล่านะ?” เธอถามตัวเอง ขณะที่เธอยิ้มให้กับความรู้สึกดี ๆ ที่เริ่มเกิดขึ้นในใจ
“ไม่ว่ายังไง ฉันจะต้องทำให้ดีที่สุด” เมญ่าคิดในใจ ก่อนที่จะเริ่มต้นเตรียมงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกอย่างพร้อมสำหรับวันงานที่กำลังจะมาถึง
ตอนที่ 5: วันงานระดมทุน
วันที่เมญ่ารอคอยมาถึงแล้ว วันงานระดมทุนสำหรับเด็ก ๆ ที่ป่วยได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยมีการจัดงานที่ลานกลางแจ้งในเมืองที่มีการตกแต่งอย่างสวยงามเต็มไปด้วยไฟประดับและบูธต่าง ๆ ที่จัดเตรียมไว้สำหรับขายสินค้าและของกิน
เมญ่ามาถึงสถานที่ตั้งแต่เช้าตรู่ เธอช่วยเจ้าของร้านกาแฟจัดเตรียมบูธและตกแต่งให้สวยงาม ก่อนที่ผู้คนจะเริ่มทยอยเข้ามา เธอรู้สึกตื่นเต้นและประหม่าในเวลาเดียวกัน เพราะนี่คือโอกาสที่เธอจะได้แสดงฝีมือและมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่สำคัญนี้
“มาเถอะ เมญ่าต้องช่วยขายกาแฟกับขนมให้ได้มากที่สุด” เจ้าของร้านบอก พร้อมยิ้มให้กำลังใจ
เมญ่าพยักหน้าและเริ่มตั้งใจทำงาน เมื่อเวลาผ่านไป ความคิดวิตกกังวลเริ่มลดลง เมื่อเห็นว่าผู้คนมาให้ความสนใจและซื้อของจากบูธของเธอมากมาย โดยเฉพาะการขายคุกกี้ที่เธอทำเอง
ระหว่างนั้น เมญ่ามองไปรอบ ๆ และเห็นอัครเดินมาที่บูธของเธอ เขายิ้มให้กับเธอและมีเพื่อน ๆ ตามมา “สวัสดี เมญ่า! นี่คือคุกกี้ที่เธอทำเหรอ?” เขาถามด้วยความสนใจ
“ใช่ค่ะ ฉันทำเอง” เมญ่าตอบด้วยความภูมิใจเล็กน้อย “ลองชิมดูได้เลยค่ะ”
อัครหยิบคุกกี้ไปชิมและแสดงสีหน้าชื่นชม “อร่อยมาก! ฉันต้องสั่งอีกแล้ว” เขาพูดพร้อมยิ้มให้กับเธอ ทำให้หัวใจของเมญ่าหวั่นไหวอีกครั้ง
“ขอบคุณค่ะ” เมญ่าตอบพร้อมยิ้มไปด้วย
แต่ทันใดนั้น นลินก็เดินเข้ามาหาอัครด้วยความมั่นใจ “เฮ้ อัคร! ฉันอยากให้เธอไปที่บูธของเรานะ มีของดี ๆ รออยู่” นลินพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูโอ้อวด
เมญ่ารู้สึกถึงความอึดอัด แต่พยายามเก็บอารมณ์ “เธอไปเถอะค่ะ ฉันมีงานต้องทำ” เธอตอบอย่างสุภาพ แต่ภายในใจกลับรู้สึกไม่สบายใจ
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เมญ่าจะทำงานได้ดี” อัครพูดอย่างมั่นใจ “ถ้าเธอต้องการความช่วยเหลือ ฉันอยู่ตรงนี้”
การพูดเช่นนั้นทำให้เมญ่ารู้สึกอบอุ่นใจ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงรู้สึกไม่แน่ใจเกี่ยวกับความรู้สึกของเขา หลังจากที่อัครเดินไปกับนลิน เมญ่าก็ทำงานต่อไปโดยพยายามไม่ให้ความรู้สึกที่ซับซ้อนมารบกวนจิตใจ
งานดำเนินไปอย่างสนุกสนาน มีผู้คนมากมายเข้ามาร่วมงานและให้ความสนใจกับกิจกรรมต่าง ๆ แต่ทว่าความตึงเครียดกลับเกิดขึ้นเมื่อมีผู้ใหญ่ที่ดูเหมือนเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินของงานเดินมาที่บูธของเธอ
“เธอทำงานอะไรอยู่?” เขาถามเมญ่าด้วยน้ำเสียงที่เป็นทางการ
“ฉันทำขนมและกาแฟค่ะ เพื่อระดมทุนให้กับเด็ก ๆ ที่ป่วย” เมญ่าตอบอย่างมุ่งมั่น
“โอเค ฉันสนใจธุรกิจของเธอ” เขาพูดแล้วหยิบคุกกี้ขึ้นมากิน “รสชาติดี แต่เธอต้องพัฒนาการนำเสนอให้ดีกว่านี้”
เมญ่ารู้สึกถึงแรงกดดัน “ขอบคุณค่ะ ฉันจะพัฒนาต่อไป” เธอตอบอย่างจริงจัง แต่ในใจกลับรู้สึกเครียด
เวลาเลื่อนลอยไป จนถึงช่วงเวลาที่งานเริ่มมืดลง มีการแสดงดนตรีสดจากนักเรียนในโรงเรียนของเมญ่า ทำให้บรรยากาศสนุกสนานขึ้นอีกครั้ง อัครและเพื่อน ๆ นั่งอยู่ใกล้กับบูธของเมญ่าตลอดเวลา และเขายังคงมาเยี่ยมเธอเป็นระยะ ๆ
“สนุกไหม?” เขาถามเมื่อมีโอกาส
“สนุกมากค่ะ ฉันรู้สึกดีที่ได้ช่วยเหลือเด็ก ๆ” เมญ่าตอบด้วยรอยยิ้ม
“เธอทำได้ดีมาก ถ้าต้องการให้ฉันช่วยทำอะไร บอกได้เลย” อัครยิ้มให้
แต่ในขณะเดียวกัน นลินก็พยายามเข้ามาแทรกกลาง “อัคร, อย่ามาเสียเวลากับเธอเลย! ไปดูที่บูธของเรากันเถอะ” เธอพูดอย่างเฉียบขาด
เมญ่ารู้สึกท้อแท้ แต่เมื่อมองไปที่อัคร เธอก็เห็นเขาพยายามจะเอาชนะความกดดันของนลิน “เดี๋ยวฉันจะไปดูที่บูธของเธอนะ นลิน แต่ต้องให้เมญ่าทำงานด้วย” เขาตอบอย่างสุภาพ
ในขณะที่ความรู้สึกที่สับสนในใจของเมญ่ากำลังเพิ่มขึ้น เธอทำงานต่อไปจนถึงตอนเย็น พอถึงเวลาที่งานใกล้จะสิ้นสุด เธอกลับรู้สึกพึงพอใจเมื่อรู้ว่าพวกเขาสามารถระดมทุนได้มากกว่าที่คาดหวัง
เมื่อถึงช่วงเวลาที่งานจบลง เมญ่ารู้สึกดีใจเมื่อเห็นยอดเงินที่สามารถรวบรวมได้ เธอได้รับคำชมจากเจ้าของร้านและผู้เข้าร่วมงานมากมาย
“ขอบคุณมากที่ช่วยกันนะ เมญ่าตั้งใจมากเลย” เขาพูดด้วยความยินดี
ในขณะที่ทุกคนเตรียมตัวกลับบ้าน อัครเดินมาหาเมญ่า “วันนี้เธอทำได้ยอดเยี่ยมจริง ๆ” เขายิ้มให้ พร้อมกับจับมือเธอไว้เบา ๆ “ฉันดีใจที่ได้ช่วยเป็นส่วนหนึ่งในงานนี้”
เมญ่ารู้สึกเหมือนมีไฟลุกโชนในหัวใจ “ขอบคุณค่ะ อัคร ฉันรู้สึกดีมากที่ได้ทำงานนี้”
เมื่อได้อยู่กับอัคร เธอเริ่มรู้สึกถึงแรงดึงดูดบางอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา แต่แล้ว เมญ่าก็ได้ยินเสียงนลินตามมาที่ด้านหลัง “อัคร! ไปกันเถอะ ฉันรออยู่!”
เมญ่ารู้สึกถึงความกดดันจากคำพูดของนลิน แต่เธอก็พยายามรักษาสีหน้าให้สงบ “ไปเถอะค่ะ ฉันยังมีงานที่ต้องจัดการ” เมญ่าตอบอย่างตั้งใจ
“ฉันจะกลับไปช่วยเธอ” อัครพูดอย่างมั่นใจ แต่เมญ่ารู้สึกว่าตนไม่ควรเป็นภาระให้เขา “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจัดการเองได้”
อัครยิ้มให้ก่อนจะหันไปทางนลินและเพื่อน ๆ “โอเค ฉันไปก่อน แต่ถ้าเธอต้องการอะไร บอกได้เลย”
เมญ่าพยักหน้าอย่างมุ่งมั่น และเมื่อเขาเดินจากไป หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความหวังและความวิตกกังวลพร้อม ๆ กัน
“วันหนึ่ง…ฉันจะทำให้เขาเห็นว่าฉันมีค่า” เมญ่าคิดในใจขณะที่มองดูผู้คนที่เริ่มทยอยกลับบ้าน ในขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงความมุ่งมั่นในการต่อสู้เพื่ออนาคตที่ดีขึ้นสำหรับน้องชายและตัวเธอเอง
ตอนที่ 6: คืนที่ไม่หลับใหล
คืนหลังจากงานระดมทุน เมญ่ากลับบ้านพร้อมความรู้สึกเหนื่อยล้า แต่ก็ดีใจที่ได้ทำสิ่งที่มีประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ในใจเธอกลับเต็มไปด้วยความกังวลและคำถามมากมายเกี่ยวกับอนาคต
“เราจะทำยังไงต่อไปดีนะ?” เธอพูดกับตัวเองขณะนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานมุมเล็ก ๆ ของห้องนอน คิดถึงสถานการณ์ของน้องชายที่ป่วยอยู่ และค่าใช้จ่ายที่ต้องแบกรับ เมญ่ารู้ดีว่าถึงแม้เธอจะสามารถหาเงินจากการทำงานได้ แต่ก็ยังไม่พอสำหรับการรักษาน้องชาย
เธอนั่งเขียนบันทึกประจำวันเพื่อบรรเทาความเครียด แต่คำพูดของนลินยังคงหลอกหลอนอยู่ในใจ "เธอไม่คู่ควรกับอัครหรอก" ประโยคนี้วนเวียนอยู่ในหัวใจของเมญ่าตลอดทั้งคืน
ขณะที่เธอกำลังนั่งคิดอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ทำให้เธอตกใจ เธอหยิบขึ้นมาแล้วเห็นว่าเป็นข้อความจากอัคร
“หวังว่าเธอจะได้พักผ่อนหลังจากทำงานหนักในวันนี้นะ ฉันมีความสุขมากที่ได้อยู่ที่นั่น”
เมญ่ารู้สึกอบอุ่นใจเมื่อได้อ่านข้อความนั้น รู้สึกว่าการที่เขาคอยให้กำลังใจเธอทำให้ความหนักใจบางอย่างลดน้อยลง “ขอบคุณค่ะ อัคร ฉันรู้สึกดีมากที่ได้มีโอกาสทำงานนี้” เธอตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว
“ถ้าเธอต้องการออกไปข้างนอกหรือทำอะไรสนุก ๆ บอกได้เลยนะ” อัครตอบกลับมาอีก
ความคิดถึงการออกไปข้างนอกทำให้เมญ่ารู้สึกตื่นเต้น แต่เธอก็รู้ว่าตนไม่สามารถหาความสนุกได้ในขณะนี้ เพราะน้องชายยังต้องการการดูแลและค่าใช้จ่ายสูงมาก
“ฉันคิดว่าคงไม่สะดวกตอนนี้ค่ะ เพราะฉันต้องดูแลน้องชาย” เมญ่าตอบด้วยความจริงใจ
“เข้าใจแล้ว ถ้าเธอว่างเมื่อไหร่ บอกได้เลยนะ” อัครตอบกลับและทำให้เมญ่ารู้สึกว่าเขาเป็นห่วงเธอจริง ๆ
ในคืนนั้น เมญ่าพยายามที่จะพักผ่อน แต่ความคิดถึงอนาคตของเธอยังคงวนเวียนอยู่ในหัว จนกระทั่งเช้าตรู่ เมญ่าเริ่มรู้สึกเครียดจนไม่สามารถหลับได้
วันถัดมา เมญ่าต้องการออกไปหาข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาน้องชาย แต่ในใจเธอก็รู้ว่าควรทำงานพาร์ทไทม์เพื่อหารายได้เพิ่มเติม
หลังจากเตรียมตัวเสร็จ เมญ่าตัดสินใจไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพน้องชายของเธอ ในขณะที่นั่งรออยู่ที่ห้องตรวจ เธอได้เห็นคนไข้หลายคนและรู้สึกถึงความทุกข์ที่พวกเขาต้องเผชิญ
“ถ้าฉันมีเงินมากกว่านี้ คงจะช่วยน้องได้มากกว่านี้” เมญ่ากล่าวกับตัวเองอย่างหนักใจ
เมื่อเข้าพบคุณหมอ เขาให้ข่าวดีว่าน้องชายมีอาการดีขึ้น แต่ยังต้องใช้เวลารักษาตัวอีกสักระยะหนึ่ง เมญ่ารู้สึกโล่งใจในใจ แต่กลับมีความวิตกเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
ระหว่างที่กลับบ้าน เมญ่าได้เห็นประกาศรับสมัครงานในร้านอาหารใกล้ ๆ เธอคิดว่านี่อาจเป็นโอกาสดีที่เธอจะหารายได้เพิ่ม เลยตัดสินใจเดินเข้าไปสอบถามทันที
“สวัสดีค่ะ ฉันสนใจสมัครงานค่ะ” เมญ่าพูดกับเจ้าของร้านที่ยิ้มให้เธอ
“เราต้องการพนักงานเสิร์ฟ พอมีประสบการณ์ไหม?” เจ้าของร้านถาม
“มีค่ะ ฉันเคยทำงานในร้านกาแฟมาก่อน” เมญ่าตอบด้วยความมั่นใจ
หลังจากสนทนากับเจ้าของร้าน เมญ่ารู้สึกว่าตนมีโอกาสได้งานจริง ๆ การสัมภาษณ์ผ่านไปได้ด้วยดี และเจ้าของร้านให้เธอเริ่มงานได้ในวันถัดไป
เมื่อกลับบ้าน เมญ่ารู้สึกตื่นเต้นและมีความหวังใหม่ ที่จะสามารถทำงานหนักและช่วยน้องชายได้ในเวลาเดียวกัน
ขณะที่นั่งอยู่บนเตียง เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและส่งข้อความถึงอัคร “ฉันได้งานใหม่แล้ว จะเริ่มในวันพรุ่งนี้”
“ดีใจด้วยนะเมญ่าถ้าเธอต้องการให้ฉันช่วยอะไรก็พูดได้เลย” อัครตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว
เมญ่ารู้สึกว่าชีวิตเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นบ้าง แต่ในใจลึก ๆ เธอรู้ดีว่าหนทางข้างหน้ายังเต็มไปด้วยความท้าทายและอุปสรรคมากมาย
ก่อนที่จะนอน เมญ่ามองออกไปนอกหน้าต่างเห็นดวงดาวที่ส่องแสงอยู่บนฟ้า “สักวันหนึ่ง ฉันจะต้องทำให้ทุกคนเห็นว่าฉันสามารถทำได้” เธอกล่าวกับตัวเองอย่างมุ่งมั่น
ตอนที่ 7: การเริ่มต้นใหม่
เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นด้วยความตื่นเต้นและความกังวลในใจของเมญ่า เธอลุกขึ้นมาเตรียมตัวไปทำงานที่ร้านอาหารแห่งใหม่ ที่เธอหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการช่วยเหลือน้องชาย เธอสวมชุดทำงานที่ดูสะอาดเรียบร้อย พร้อมกับทำผมให้เรียบร้อยเพื่อให้ดูดีที่สุด
“อย่าลืมทานอาหารเช้านะลูก” แม่ของเมญ่าที่อยู่ในครัวพูดขึ้น
“ค่ะ แม่ ขอบคุณค่ะ” เมญ่าตอบด้วยเสียงสดใส แต่ภายในใจกลับเต็มไปด้วยความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำงานใหม่ เธอไม่เคยทำงานในร้านอาหารมาก่อน นั่นทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นและกลัวไปพร้อม ๆ กัน
เมื่อถึงร้าน เมญ่าก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าของร้านและพนักงานคนอื่น ๆ พวกเขาช่วยสอนวิธีการทำงานและการเสิร์ฟอาหารอย่างมืออาชีพ ในระหว่างที่กำลังเรียนรู้การทำงาน เมญ่ารู้สึกว่าเธอเข้ากับบรรยากาศที่นี่ได้ดี และทำให้เธอมั่นใจมากขึ้น
“ทำดีมากนะเมญ่า” หนึ่งในพนักงานกล่าวให้กำลังใจขณะทำอาหารอยู่ “ถ้าติดขัดตรงไหนก็บอกได้เลย”
เมญ่ารู้สึกถึงการสนับสนุนและความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน ทำให้เธอมีความหวังว่าจะสามารถทำงานได้ดีและเรียนรู้ได้เร็ว
ในช่วงบ่าย เมญ่าต้องเสิร์ฟอาหารให้กับลูกค้า ซึ่งนั่นคือช่วงเวลาที่เธอรู้สึกตื่นเต้นที่สุด ขณะที่เธอเดินไปยังโต๊ะที่มีลูกค้ารออยู่ เธอได้เห็นอัครนั่งอยู่กับนลินที่โต๊ะข้าง ๆ
“อัคร!” เมญ่าตกใจเล็กน้อยและรู้สึกไม่แน่ใจเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ นลินหันมามองและยิ้มอย่างมีชัย “หวังว่าเธอจะไม่ทำให้เขาผิดหวังนะ” นลินพูดด้วยน้ำเสียงที่เยาะเย้ย
เมญ่ารู้สึกถึงความกดดันและความวิตกกังวลที่กลับมาท่วมท้นอีกครั้ง แต่เมื่อเธอมองไปที่อัคร เขากลับยิ้มให้เธออย่างอบอุ่น “ทำดี ๆ นะเมญ่าก็ทำได้” เขาพูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยกำลังใจ
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” เมญ่าตอบกลับก่อนจะทำการเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะนั้น
ระหว่างการเสิร์ฟ เมญ่าพยายามทำให้ดีที่สุด แม้เธอจะรู้สึกกังวลเกี่ยวกับสายตาของนลินที่จ้องมองมาที่เธออยู่ เธอพยายามทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่เรียนรู้มา และความพยายามของเธอก็ส่งผลดี ลูกค้าดูพอใจกับบริการที่เธอให้
เมญ่ารู้สึกดีใจเมื่อทำงานเสร็จในวันนั้น และเมื่อจบงานอัครก็เดินมาหาเธอ “วันนี้เธอทำได้ดีมาก” เขายิ้มให้
“ขอบคุณค่ะ อัคร ฉันรู้สึกดีใจที่ผ่านไปได้” เมญ่าตอบด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความสุข
“ถ้าต้องการให้ช่วยอะไรก็บอกได้เลยนะ” เขาพูดอย่างจริงจัง ทำให้เมญ่ารู้สึกอบอุ่นใจอีกครั้ง
แต่ก่อนที่เธอจะพูดอะไรต่อไป นลินก็เดินเข้ามา “อัคร เราไปกันเถอะ” นลินพูดอย่างไร้เยื่อใย เธอจ้องมองเมญ่าด้วยแววตาที่ไม่เป็นมิตร
“ขอโทษนะ นลิน ฉันอยากอยู่คุยกับเมญ่าก่อน” อัครตอบอย่างมั่นใจ ทำให้เมญ่ารู้สึกประหลาดใจ
“เธอนี่นะ แค่พนักงานเสิร์ฟจะมาเสียเวลากับเธอทำไม” นลินพูดอย่างกดดัน ก่อนจะหันไปทางอัคร “ไปเถอะ เรามีธุระกัน”
“แต่นี่คือเพื่อนของฉัน” อัครยืนยันเสียงแข็ง
ในขณะนั้น เมญ่ารู้สึกได้ถึงความตึงเครียดที่เกิดขึ้นระหว่างอัครกับนลิน และรู้สึกอึดอัดใจในสถานการณ์นี้ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันสามารถทำงานต่อไปได้” เมญ่าพูดขึ้นอย่างพยายามทำให้บรรยากาศดีขึ้น
อัครหันมามองเมญ่าและพยักหน้า “ถ้าเธอต้องการให้ฉันช่วยเมื่อไหร่ บอกได้เลย”
เมญ่ารู้สึกอบอุ่นใจจากคำพูดของเขา แต่เมื่อเขาหันหลังกลับไปที่นลิน ความรู้สึกไม่สบายใจในใจของเธอก็กลับมาอีกครั้ง
หลังจากที่อัครและนลินกลับไป เมญ่าก็รู้สึกท้อแท้ เธอไม่แน่ใจว่าจะสามารถต่อสู้กับความรู้สึกไม่พอใจและอุปสรรคที่เกิดขึ้นได้อย่างไร
กลับบ้านในคืนนั้น เมญ่าได้พบกับน้องชายของเธอที่กำลังนอนหลับอยู่ “อย่าเป็นห่วงนะ ฉันจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด” เธอกล่าวกับน้องชายแล้วนั่งลงข้าง ๆ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
ในค่ำคืนที่มืดมิด เมญ่ากลับมาคิดถึงอนาคตและความรักที่เธอรู้สึกต่ออัคร เธอรู้สึกถึงความหวังที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองและครอบครัว แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความยากลำบากมากมาย แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้
“สักวันหนึ่ง ฉันจะต้องทำให้เขาเห็นว่าฉันมีค่า” เมญ่าคิดในใจและนอนหลับไปด้วยความมุ่งมั่นที่สูงขึ้น
ตอนที่ 8: หึงหวงในความเงียบ
เช้าวันใหม่ เมญ่าตื่นขึ้นมาโดยมีความรู้สึกสดชื่นและกระตือรือร้นที่จะทำงาน หลังจากที่ผ่านวันที่ยากลำบากและความกดดันจากการทำงานในร้านอาหาร แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงแรงกดดันจากนลินที่คอยสร้างอุปสรรคให้กับเธออยู่เสมอ
“วันนี้ฉันต้องทำให้ดีที่สุด” เมญ่าพูดกับตัวเองก่อนออกจากบ้าน มั่นใจว่าการทำงานหนักจะช่วยให้เธอมีโอกาสได้ดีขึ้น
เมื่อถึงร้านอาหาร เมญ่าพบกับเพื่อนร่วมงานคนใหม่ชื่อ “มาร์ค” ที่เป็นพนักงานเสิร์ฟที่ทำงานอยู่ที่ร้านมานาน เขามีรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาหล่อเหลา และเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าหญิงอยู่เสมอ
“สวัสดีครับ เมญ่า ยินดีที่ได้รู้จัก” มาร์คยิ้มให้เธอและช่วยสอนวิธีการเสิร์ฟอาหารให้มีประสิทธิภาพ
ในระหว่างที่ทำงาน มาร์คมักจะเข้ามาพูดคุยกับเมญ่าและคอยช่วยเธอ ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มสนิทสนมกันขึ้น โดยเฉพาะเมญ่าที่เริ่มรู้สึกสบายใจและมีความสุขกับการทำงาน
“ทำไมเธอถึงเลือกมาทำงานที่นี่?” มาร์คถามขณะเตรียมอาหาร
“ฉันต้องดูแลน้องชายและต้องหาเงินให้ได้มากที่สุด” เมญ่าตอบอย่างตรงไปตรงมา
“นี่คือสิ่งที่ทำให้เธอพิเศษนะ ความมุ่งมั่นของเธอ” มาร์คยิ้มและเพิ่มความมั่นใจให้เมญ่า
ในขณะเดียวกัน อัครที่มาที่ร้านอาหารเพื่อเยี่ยมเมญ่ากลับรู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นมาร์คยิ้มและพูดคุยกับเธออย่างสนิทสนม อัครยืนอยู่ที่มุมห้องและมองดูทั้งสองคนด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความหึงหวง
“ทำไมเขาต้องเข้ามาใกล้เธอขนาดนั้น?” อัครคิดในใจ พลางกัดฟันเมื่อเห็นเมญ่าหัวเราะและพูดคุยกับมาร์คอย่างมีความสุข
เมญ่ารู้สึกได้ถึงสายตาที่มองมาจากด้านหลัง แต่เมื่อหันไปเห็นอัครยืนอยู่ที่มุมห้อง เธอก็ยิ้มให้เขาอย่างจริงใจ “อัคร! สวัสดีค่ะ” เธอเรียกและเดินไปหาพระเอก
“มาเฝ้าฉันเหรอ?” เมญ่าถามด้วยเสียงที่เป็นกันเอง
“อืม แค่แวะมาเห็นว่าเธอทำงานอย่างไร” อัครตอบสั้น ๆ แต่ไม่สามารถซ่อนความรู้สึกหึงหวงได้
“วันนี้ฉันทำงานดีมากเลยค่ะ” เมญ่ากล่าวอย่างตื่นเต้น
“ดีแล้ว” อัครพยักหน้า แต่ในใจกลับมีความรู้สึกไม่พอใจเมื่อมาร์คเดินเข้ามาใกล้ เมญ่ามากขึ้น
“ถ้าเธอต้องการความช่วยเหลือ หรือต้องการให้ฉันทำอะไรก็บอกได้เลยนะ” อัครพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
เมญ่าหันมามองอัครแล้วตอบด้วยเสียงเต็มไปด้วยความหวัง “ฉันจะทำให้ดีที่สุดค่ะ ขอบคุณนะอัคร”
ขณะที่อัครยังคงจ้องมองมาร์คที่คอยใกล้ชิดกับเมญ่า ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอยู่ภายใน จนกระทั่งมาร์คเดินเข้ามาและพูดว่า “ถ้าเธอทำงานเสร็จ เราไปหาอะไรกินกันไหม เมญ่าคุณต้องลองชิมอาหารของร้านนี้”
“เอ่อ…อาจจะดีนะ” เมญ่าตอบอย่างลังเล มันคือโอกาสที่เธอจะได้สนิทสนมกับมาร์คมากขึ้น แต่ในใจเธอกลับรู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นท่าทีของอัครที่ไม่พอใจ
“ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไรครับ” มาร์คตอบด้วยน้ำเสียงที่เข้าใจ
“เดี๋ยวฉันถามอัครก่อน” เมญ่าตอบกลับ
อัครยิ้มและแทรกขึ้นทันที “ถ้าจะไปก็ไปเถอะ” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความหึงหวง แต่พยายามไม่ให้เมญ่ารู้สึก
“ฉันขอโทษนะ อัคร ฉันไม่อยากให้ใครคิดว่าฉันต้องการให้ใครมาเอื้ออำนวยให้” เมญ่าพูดด้วยความรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรหรอก” อัครพูดเสียงแข็ง ก่อนจะหันหลังเดินไปนั่งที่มุมร้านด้วยท่าทีที่ดูหงุดหงิด
เมญ่ารู้สึกได้ถึงความไม่สบายใจในใจของอัครและไม่อยากให้เขารู้สึกแบบนั้น แต่กลับไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้
ในตอนเย็น ขณะที่เมญ่าและมาร์คกำลังทำงานด้วยกัน เมญ่ารู้สึกถึงความเครียดจากสายตาที่อัครส่งมาให้ตลอดทั้งวัน เธออยากจะไปคุยกับเขา แต่การทำงานที่ต้องรับผิดชอบอยู่ก็ทำให้เธอไม่สามารถหลีกหนีไปได้
“เธอคิดว่าอัครจะโอเคไหม?” มาร์คถามเมญ่า
“อาจจะ…” เมญ่าตอบเสียงเบา “เขาแค่รู้สึกหึงหวง”
“อืม มันก็เป็นเรื่องธรรมดา” มาร์คตอบ ก่อนจะยิ้มให้เมญ่า “ฉันหวังว่าเขาจะเข้าใจนะ”
“ใช่ค่ะ” เมญ่ารู้สึกว่าตนเองต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ทั้งอัครและมาร์คเข้าใจความรู้สึกของเธอ แต่ตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน
เมื่อเสร็จสิ้นวันทำงาน เมญ่ารู้สึกกดดันจากทุกทิศทาง เธอจึงตัดสินใจไปหอพักของอัครเพื่อพูดคุยกับเขา
เมื่อไปถึง อัครนั่งอยู่บนโซฟาและดูเหมือนเขาจะรู้สึกไม่ค่อยดี เมญ่าก้าวเข้าไปใกล้แล้วพูดว่า “อัคร ฉันขอโทษนะ”
“ทำไมเธอต้องไปคุยกับมาร์คขนาดนั้น?” อัครถามเสียงเคร่งเครียด
“เขาแค่เข้ามาช่วยสอนงานให้ฉัน” เมญ่าพยายามอธิบาย
“ฉันไม่ชอบที่เขาเข้าใกล้เธอ” อัครตอบเสียงห้วน
“อัคร ฉันทำงานที่นี่เพื่อหาเงินให้กับครอบครัว ฉันไม่อยากให้เรื่องนี้ทำให้เราทะเลาะกัน” เมญ่าพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงความกังวล
“ฉันแค่ห่วงเธอ” อัครพูดขึ้นอย่างจริงใจ
“ขอบคุณนะ แต่ฉันอยากให้เราสบายใจกันมากกว่านี้” เมญ่ากล่าว
“แล้วฉันจะทำให้เธอรู้สึกสบายใจได้อย่างไร?” อัครมองเข้าไปในตาของเธออย่างจริงจัง
“แค่เชื่อใจฉัน” เมญ่าตอบด้วยเสียงอ่อนโยน และความรู้สึกอบอุ่นเริ่มกลับมาที่ใจของเธอ
อัครเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้า “โอเค ฉันจะพยายาม”
ในค่ำคืนที่เงียบสงบ เมญ่าและอัครเริ่มทำความเข้าใจกันมากขึ้น แต่ความรู้สึกหึงหวงจากอัครและความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสามคนยังคงอยู่ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความรักที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและความท้าทายในอนาคต!
ตอนที่ 9: ความรู้สึกที่ซ่อนอยู่
เช้าวันใหม่ เมญ่าเดินทางไปทำงานด้วยความกระตือรือร้น แม้จะยังรู้สึกถึงบรรยากาศอันตึงเครียดจากเมื่อวานก็ตาม เธอคิดถึงอัครและหวังว่าเขาจะเข้าใจความรู้สึกของเธอได้ดียิ่งขึ้น แต่ในใจของเธอก็ยังรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับมาร์คที่เข้ามาในชีวิตของเธอ
เมื่อถึงร้านอาหาร เมญ่าก็ได้พบกับมาร์คที่ยิ้มให้เธออย่างเป็นกันเอง “สวัสดีครับ เมญ่า วันนี้เรามาทำงานกันให้เต็มที่นะ”
“สวัสดีค่ะ มาร์ค” เมญ่าตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม แม้จะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเกี่ยวกับอัคร แต่ก็ไม่อยากให้บรรยากาศการทำงานตึงเครียด
ขณะที่ทำงาน เมญ่ามักจะเห็นมาร์คเข้ามาช่วยเธอและคอยเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการเสิร์ฟอาหาร บางครั้งเขาก็หยอกล้อเธออย่างสนุกสนาน จนทำให้เธอเริ่มรู้สึกสบายใจ
“วันนี้ฉันมีแผนจะทำกิจกรรมสนุก ๆ หลังเลิกงานนะ จะไปด้วยกันไหม?” มาร์คถามอย่างมีความหวัง
“เอ่อ…อาจจะ” เมญ่าตอบด้วยเสียงลังเล ความจริงเธอไม่แน่ใจว่าอัครจะรู้สึกอย่างไร
ในระหว่างที่พวกเขากำลังเตรียมอาหาร อัครก็เข้ามาที่ร้านอีกครั้ง เขายืนอยู่ที่มุมห้องมองมาร์คกับเมญ่าทำงานร่วมกันอย่างสนิทสนม สายตาของเขาดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“วันนี้เมญ่าดูมีความสุขมากนะ” อัครพูดขึ้นอย่างเสียงแข็ง ก่อนจะเดินไปที่เคาน์เตอร์ของร้าน
“อัคร สวัสดีค่ะ” เมญ่าทักทายเขาอย่างเป็นมิตร แต่เขากลับไม่ตอบรับ เธอเริ่มรู้สึกถึงความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้น
“เธอทำงานดีมาก ฉันแค่เข้ามาเช็กงาน” อัครกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจริงจังนัก
เมญ่ารู้สึกได้ถึงความตึงเครียดในอากาศ เมื่ออัครหันไปมองมาร์คด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวงแหน “หวังว่าเธอจะไม่ลืมว่าตัวเองเป็นใครนะ” เขาพูดอย่างชัดเจน
มาร์คยิ้มและตอบกลับ “ไม่ต้องห่วงครับ ผมแค่ช่วยเมญ่าทำงานเท่านั้น”
เมญ่ารู้สึกอึดอัดเมื่อได้ยินคำพูดของอัครที่มีน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ้าของ แต่กลับไม่กล้าพูดอะไรออกไป ในใจของเธอเริ่มรู้สึกถึงความขัดแย้งระหว่างความรู้สึกที่มีต่ออัครและมาร์ค
เมื่อเสร็จสิ้นการทำงานในช่วงบ่าย มาร์คขอให้เมญ่าไปสนุกกับกิจกรรมหลังเลิกงานอีกครั้ง “มาร่วมสนุกกันเถอะนะ เมญ่า รับรองว่ามันจะสนุกมาก” เขายิ้มให้เธออย่างชักชวน
“ฉันจะคิดดูนะ” เมญ่าตอบเสียงเบา
ขณะที่เมญ่ากำลังคิดว่าจะตอบอย่างไร อัครกลับเดินเข้ามาใกล้และแทรกขึ้น “ถ้าจะไปก็ไปเถอะ ฉันไม่ห้าม” น้ำเสียงของเขาฟังดูเหมือนจะเฉยชา แต่เมญ่ารู้ดีว่ามันไม่ใช่
“อัคร…” เมญ่าพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขากลับไม่ให้เธอพูด
“ทำตามที่เธอต้องการ” อัครตอบแล้วหันหลังไปอย่างหงุดหงิด
เมญ่ารู้สึกหัวใจเต้นแรงด้วยความรู้สึกผิด เธอไม่อยากให้เขาหงุดหงิด แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
หลังจากวันทำงาน เมญ่าเดินกลับบ้านด้วยใจที่เต็มไปด้วยความสับสน เมื่อถึงบ้านเธอได้โทรหาอัครเพื่อขอโทษที่เขาหงุดหงิด “อัคร ฉันขอโทษที่ทำให้เธอรู้สึกแบบนั้น”
“ไม่ต้องขอโทษ” เขาตอบเสียงเย็นชา “ถ้าเธออยากไปกับมาร์ค ก็ไปเถอะ”
“อัคร…ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้” เมญ่าพูดอย่างพยายามขอให้เขาเข้าใจ แต่เขาก็ยังนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง
“ฉันแค่ห่วงเธอ” อัครพูดเสียงต่ำ “แต่ถ้าเธออยากใช้เวลากับเขา ฉันก็ไม่สามารถห้ามได้”
“อัคร ฟังฉันนะ ฉันเพียงแค่ทำงาน…” เมญ่าพยายามอธิบาย
“ฉันรู้ แต่มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะเห็นเธอสนิทสนมกับเขา” อัครพูดพลางกัดฟัน ไม่สามารถควบคุมความรู้สึกโกรธและหึงหวงได้
เมญ่ารู้สึกถึงความผิดหวังในใจ เธอไม่รู้จะทำอย่างไรเพื่อให้เขาเข้าใจความจริง เธอพยายามยืนยันความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพวกเขา แต่กลับเห็นว่าอัครพยายามจะสร้างระยะห่าง
คืนนี้ เมญ่ารู้สึกว่าทุกอย่างเต็มไปด้วยความซับซ้อน เธอไม่รู้ว่าอัครจะหายโกรธหรือไม่ และความสัมพันธ์ของเธอกับมาร์คจะไปในทิศทางไหน
ในความเงียบสงบ เมญ่าตัดสินใจว่าจะต้องทำให้ชัดเจนเกี่ยวกับความรู้สึกของเธอในวันพรุ่งนี้ เธอไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของเธอกับอัครต้องสั่นคลอนเพราะความหึงหวง และต้องการให้เขารู้ว่าตัวเธอรักเขาจริง ๆ
“ฉันจะทำให้เขาเข้าใจ” เมญ่าพูดกับตัวเองก่อนจะหลับตาลง ด้วยความมุ่งมั่นที่จะปรับความเข้าใจกันในครั้งต่อไป
ตอนที่ 10: การตัดสินใจที่ยากลำบาก
เช้าวันใหม่ เมญ่าตื่นขึ้นมาอย่างกระตือรือร้นพร้อมกับความมุ่งมั่นที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น แม้ว่าจะรู้สึกหนักใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอัคร แต่เธอก็เชื่อว่าความรักสามารถแก้ไขปัญหาได้
เมื่อถึงร้านอาหาร เมญ่าเห็นอัครนั่งอยู่ที่มุมห้อง และรู้สึกถึงความตึงเครียดในอากาศอีกครั้ง เมญ่าตัดสินใจเดินไปหาพระเอกและทักทาย “สวัสดีค่ะ อัคร วันนี้ทำงานดี ๆ นะ”
“อืม” อัครตอบสั้น ๆ โดยไม่สบตาเธอ เมญ่ารู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นท่าทีที่ไม่เต็มใจของเขา
“ฉันขอโทษที่ทำให้เธอรู้สึกไม่ดีเมื่อวาน” เมญ่าพยายามพูดให้ตรงไปตรงมา
“ไม่ต้องขอโทษหรอก ฉันไม่ได้รู้สึกไม่ดี” อัครตอบกลับ แต่เสียงของเขากลับเต็มไปด้วยความเย็นชา
ในขณะที่เมญ่ากำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดี มาร์คเข้ามาทักทายด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีครับ เมญ่าคุณพร้อมที่จะทำงานแล้วหรือยัง?”
“พร้อมค่ะ” เมญ่าตอบอย่างมีพลัง แม้ว่าจะรู้สึกถึงอัครที่นั่งอยู่ห่าง ๆ
“ดีมาก! วันนี้เรามีงานเยอะเลย” มาร์คกล่าวพร้อมกับเริ่มต้นทำงานร่วมกัน
เมื่อทั้งสามคนเริ่มทำงาน ความตึงเครียดระหว่างอัครและเมญ่ากลับมาอีกครั้ง ในระหว่างที่ทำงาน มาร์คทำการเสนอความคิดเห็นและแนะนำให้เมญ่า พวกเขาหัวเราะและมีช่วงเวลาที่สนุกสนาน ทำให้เมญ่ารู้สึกมีความสุข
“ดูเหมือนคุณสองคนจะสนิทสนมกันมากนะ” อัครแทรกขึ้นโดยไม่พอใจ น้ำเสียงของเขาฟังดูขุ่นมัว
“เราแค่ทำงานร่วมกัน” เมญ่าตอบกลับโดยพยายามรักษาบรรยากาศให้ดี แต่รู้สึกได้ถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงของเขา
ในช่วงพักเที่ยง มาร์คขอให้เมญ่าร่วมรับประทานอาหารกลางวันด้วยกัน “ไปกินข้าวกันเถอะ เมญ่าฉันมีที่ร้านอร่อย ๆ มาแนะนำ”
เมญ่าตั้งใจจะตอบตกลง แต่สายตาของอัครที่มองมาอย่างไม่พอใจทำให้เธอเปลี่ยนใจ “อืม…อาจจะวันอื่นก็ได้ค่ะ” เธอตอบกลับอย่างลังเล
อัครยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยิน แต่เมญ่ารู้สึกว่าเขาอาจจะรู้สึกมีความสุขมากเกินไปที่เธอไม่ไปกับมาร์ค
“ดีแล้วที่เธอไม่ไป” อัครพูดขึ้นในขณะที่มองไปที่มาร์ค “ถ้าจะไป ก็ไม่ต้องบอกฉัน”
เมญ่ารู้สึกไม่พอใจกับท่าทีของอัคร และเริ่มคิดว่าทำไมเขาถึงต้องแสดงออกแบบนี้ “อัคร ทำไมคุณต้องหงุดหงิดแบบนี้? ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนี่”
“เธอพูดแบบนี้ได้ยังไง?” อัครขมวดคิ้ว “ฉันแค่เป็นห่วงเธอ”
“การห่วงใยไม่จำเป็นต้องแสดงออกมาอย่างนี้นะ” เมญ่าตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฉันจะพูดอะไรอีกได้ล่ะ?” อัครตอบกลับอย่างหงุดหงิด “เธอจะทำตามที่ใจอยากทำก็ได้”
เมญ่ารู้สึกโกรธแต่ก็กังวลเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ เธอตัดสินใจว่าไม่ควรรอให้สถานการณ์เลวร้ายไปกว่านี้ ก่อนที่อารมณ์จะทำให้พวกเขาต้องแตกหักกัน
“อัคร ฉันอยากให้เราคุยกันให้เข้าใจกว่านี้” เมญ่ากล่าวอย่างมั่นใจ “เราสามารถพูดคุยกันได้ไหม?”
“พูดคุยเกี่ยวกับอะไร?” อัครถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“เกี่ยวกับความรู้สึกของเรา และสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรา” เมญ่าพูดออกมาจากใจ
“ฉันรู้ว่ามันไม่ง่าย แต่ฉันอยากให้เราเข้าใจกัน” เมญ่าทำเสียงหนักแน่น
ในขณะนั้น มาร์คที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รู้สึกอึดอัดและถามขึ้น “ต้องการให้ฉันไปไหม? ฉันไม่อยากรบกวน”
“ไม่เป็นไรค่ะ มาร์ค” เมญ่าตอบกลับ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าสถานการณ์นี้จะเป็นอย่างไร
“เอาเถอะ ฉันจะไป” อัครพูดขึ้นเสียงขุ่น “เราจะคุยกันเมื่อไหร่ก็ได้ ฉันจะทำงานของฉันต่อ” เขาหันหลังเดินไปที่มุมห้อง
เมญ่ารู้สึกท้อแท้และอยากจะเรียกเขากลับมา แต่รู้ว่าตอนนี้เขาต้องการเวลาคิดเรื่องต่าง ๆ ด้วยตัวเอง
ในขณะที่มาร์คกำลังเตรียมอาหารให้ลูกค้า เมญ่าตัดสินใจเดินไปหาพระเอกอีกครั้ง “อัคร! ฉันขอโทษถ้าทำให้คุณรู้สึกไม่ดี”
“ไม่เป็นไรหรอก” เขาตอบโดยไม่หันมามอง “ฉันแค่ไม่อยากให้เธออยู่ใกล้กับมาร์คมากเกินไป”
“ฉันรู้ว่าคุณห่วง แต่การหึงหวงจะไม่ช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น” เมญ่าพยายามอธิบาย
“เธออาจจะไม่รู้ว่ามาร์คเป็นใครก็ได้” อัครกล่าวเสียงต่ำ “แต่ฉันรู้ว่าผู้ชายคนนี้อาจจะทำให้เธอผิดหวัง”
“อัคร!” เมญ่าตะโกนออกมา “ทำไมคุณถึงไม่เชื่อใจฉัน? ฉันแค่ทำงานให้ดีที่สุด”
“เชื่อใจ? ฉันแค่ต้องการให้เธอปลอดภัย” เขาตอบกลับเสียงเย็น
เมญ่าหยุดชะงัก เธอรู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นมีน้ำหนักมาก และไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป
“ถ้าคุณไม่เข้าใจว่าฉันเป็นใคร ฉันคงไม่มีประโยชน์ต่อคุณ” เมญ่าพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า
“ไม่ใช่แบบนั้น ฉันแค่…” อัครพูดติดขัด “ฉันแค่ต้องการปกป้องเธอ”
เมญ่ารู้สึกถึงอารมณ์ที่ซับซ้อนในคำพูดของเขา เธอต้องการให้เขารู้ว่าเธอรักเขาและต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี แต่ในเวลาเดียวกันก็ไม่ต้องการให้เขาเข้าใจผิดเกี่ยวกับมาร์ค
“ฉันอยากให้คุณรู้ว่าฉันจะไม่ไปไหน” เมญ่าพูดด้วยเสียงที่หนักแน่น “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะอยู่เคียงข้างคุณ”
อัครมองเธอด้วยสายตาที่อ่อนลงเล็กน้อย “ฉันจะพยายามเข้าใจ” เขาพูดเสียงเบา
“ดีแล้วค่ะ” เมญ่าตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่หวังว่ามันจะช่วยลดความตึงเครียดระหว่างกันได้
ในช่วงเวลานั้น เมญ่ารู้สึกว่าแม้จะมีอุปสรรคมากมาย แต่ความรักและความเข้าใจอาจจะสามารถก้าวข้ามผ่านมันไปได้ เมื่อวันสิ้นสุดลง เธอหวังว่าจะมีโอกาสได้พูดคุยกันอย่างจริงจังอีกครั้งในวันต่อไป
ตอนที่ 11: ช่วงเวลาที่เปลี่ยนไป
“เสียงระเบิด! เสียงดังกึกก้องสะท้อนไปทั่วร้านอาหาร!”
เมญ่าแทบจะล้มลงเมื่อได้ยินเสียงนี้ ข้าวของแตกกระจาย เกิดความตื่นตระหนกในบรรยากาศที่เคยสงบสุขของร้านอาหารที่เธอทำงานอยู่ ผู้คนตะโกนและวิ่งไปหาที่หลบภัย เมญ่าหันไปมองอัครที่ยืนอยู่ไม่ไกล เขาดูตกใจแต่ยังคงมีสติ
“เมญ่า! มาที่นี่!” อัครตะโกนสั่ง ขณะที่เขารีบวิ่งเข้ามาหาเธอ
“เกิดอะไรขึ้น?” เมญ่าถามเสียงสั่น แต่ไม่มีเวลาให้ตอบคำถาม เธอรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากพื้นดินและเสียงตะโกนของลูกค้า
“ไปที่หลังร้าน!” อัครจับมือเมญ่าไว้แล้วพาเธอวิ่งไปที่ประตูหลังของร้าน ในใจของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย
เมื่อมาถึงที่ปลอดภัย พวกเขาหยุดหายใจอย่างโล่งอก อัครหันไปมองเมญ่าด้วยความวิตก “เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ไม่ค่ะ ฉันไม่เป็นไร” เมญ่าตอบพร้อมกับมองไปที่อัคร เขาดูเครียดมากกว่าที่เธอคิด
“ดีแล้ว” เขาพูดเบา ๆ แล้วถอนหายใจอย่างหนัก “แต่เรายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
ในขณะนั้น เสียงไซเรนรถพยาบาลและตำรวจดังขึ้นเรื่อย ๆ ความตึงเครียดเริ่มกลับมาอีกครั้ง เมื่ออัครดึงโทรศัพท์ออกมาดูข่าว
“ระเบิดเกิดขึ้นที่ตลาดใกล้ ๆ นี่” เขากล่าวเสียงสั่น “หลายคนได้รับบาดเจ็บ ต้องมีการอพยพ”
“ฉันต้องไปดูคนอื่น” เมญ่าพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “เราไม่สามารถปล่อยให้คนอื่นอยู่ที่นั่นเพียงลำพังได้”
“ไม่! เธอจะต้องอยู่ที่นี่” อัครพูดเสียงหนักแน่น “มันอันตรายเกินไป”
“แต่…แต่พวกเขาอาจต้องการความช่วยเหลือ” เมญ่าพยายามพูดให้เขาเข้าใจ
“เราต้องให้หน่วยงานช่วยเหลือมา ไม่ใช่เราสองคน” เขาตอบกลับ พร้อมกับเอื้อมมือไปจับเธออีกครั้ง “และฉันจะไม่ปล่อยให้เธอไปไหน”
ในขณะนั้น มาร์คปรากฏตัวขึ้น เขามองไปที่ทั้งสองอย่างตื่นตระหนก “พวกคุณโอเคไหม? เราต้องทำอะไรบางอย่าง”
“เราต้องโทรหาตำรวจและหน่วยแพทย์” อัครตอบกลับ “และเราต้องให้คนอื่นออกจากที่นั่น”
“ให้ฉันช่วย!” มาร์คเสนออย่างเร่งรีบ “ฉันรู้ว่าที่ไหนจะสามารถช่วยคนได้มากที่สุด”
เมญ่ามองไปที่มาร์คและอัคร ความตึงเครียดในอากาศยังคงอยู่ เมื่อทุกคนเริ่มทำงานร่วมกันเพื่อช่วยเหลือคนที่ได้รับบาดเจ็บ เมญ่ารู้สึกถึงความรู้สึกที่หลากหลาย เธออยากจะช่วยคน แต่ก็กลัวอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
“ฟังนะ!” อัครพูดเสียงดังเพื่อเรียกร้องความสนใจ “เราไม่ควรแยกกัน! เราจะทำทุกอย่างร่วมกัน”
เมญ่ารู้สึกถึงความเป็นหนึ่งเดียวในคำพูดของเขา เธอรู้สึกว่าแม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ ความสัมพันธ์ของพวกเขายิ่งแน่นแฟ้นขึ้น
“เราไปกันเถอะ” เมญ่าตอบรับและรู้สึกมีแรงบันดาลใจจากความตั้งใจของอัคร
ทั้งสามคนมุ่งหน้าออกไปที่บริเวณที่เกิดเหตุ ขณะที่เสียงไซเรนยังดังไม่หยุด เสียงตะโกนและเสียงของความวุ่นวายสามารถได้ยินอย่างชัดเจน พวกเขาเข้าไปช่วยเหลือผู้คนที่ได้รับบาดเจ็บและพยายามให้ความช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ
“นี่คือโอกาสของเราในการช่วยเหลือคนอื่น” เมญ่าพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เธอไม่สามารถนั่งเฉย ๆ ได้ในสถานการณ์แบบนี้
เมื่อการช่วยเหลือเริ่มขึ้น อัครอยู่ข้าง ๆ เมญ่าตลอดเวลา เขาไม่ห่างเธอเลยแม้แต่วินาทีเดียว
“ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอตลอดไป” เขากล่าวด้วยความมุ่งมั่น
ในขณะที่พวกเขาทำงานร่วมกัน เมญ่ารู้สึกว่าความรักและความห่วงใยที่อัครมีให้เธอทำให้เธอมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ในที่สุด ทั้งสามคนสามารถช่วยคนที่ได้รับบาดเจ็บออกมาได้อย่างปลอดภัย
เมื่อสถานการณ์สงบลง เมญ่ารู้สึกถึงความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ในใจ แม้ว่าจะมีเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นและน่าตกใจ แต่เธอก็รู้ว่าความรักและความเป็นทีมสามารถทำให้พวกเขาผ่านพ้นทุกอย่างไปได้
“เราทำได้!” เมญ่าตะโกนด้วยความดีใจ ในขณะที่ทั้งสามคนยิ้มให้กัน การผจญภัยในวันนี้ทำให้พวกเขาเข้าใจถึงความสำคัญของการสนับสนุนและรักกันมากขึ้น
ตอนที่ 12: ความจริงที่เปิดเผย
“เสียงกรีดร้องของคนที่อยู่รอบข้างยังดังก้องอยู่ในหูเมญ่า ขณะที่เธอเดินกลับมาที่ร้านอาหารหลังจากเหตุการณ์ระเบิดที่ทำให้ทุกคนต้องระมัดระวัง”
วันรุ่งขึ้น หลังจากที่พวกเขาได้ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เมื่อคืน เมญ่ารู้สึกว่าสถานการณ์กลับมาปกติ แต่เธอก็ไม่สามารถลืมสิ่งที่เกิดขึ้นได้
“ทุกคนกลับมาแล้วนะ” มาร์คพูดขึ้นเมื่อเห็นเมญ่าเข้ามาในร้าน “ดีใจที่คุณโอเค”
“ฉันก็ยินดีที่ทุกคนปลอดภัย” เมญ่าตอบพร้อมกับยิ้มให้ แต่รู้สึกถึงความเครียดที่ยังคงอยู่ในอากาศ
อัครเดินเข้ามาหาเมญ่าและมาร์ค เขาดูเหมือนจะหงุดหงิดอยู่ “เหตุการณ์เมื่อคืนมันไม่ควรเกิดขึ้น” เขาพูดเสียงเครียด
“เราได้ช่วยคนที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว ไม่ใช่เหรอ?” เมญ่าตอบกลับ
“มันยังไม่จบ” อัครบอกด้วยความกังวล “เรายังไม่รู้ว่าใครเป็นคนวางระเบิด”
“นั่นสิ” มาร์คพูดเสริม “ฉันอ่านข่าวมา มีการจับตาดูเรื่องนี้อยู่”
เมญ่ารู้สึกกังวลกับความไม่แน่นอนในสถานการณ์นี้ “เราควรทำอะไรสักอย่างหรือเปล่า?”
“เราควรรวมตัวกันและช่วยกันทำงานในฐานะทีม” อัครกล่าว “ถ้าเรารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะสามารถช่วยป้องกันเหตุการณ์แบบนี้ได้”
เมญ่ารู้สึกถึงความมุ่งมั่นในตัวอัคร “ฉันจะช่วยในทุกวิถีทางที่สามารถทำได้”
วันนั้นพวกเขาได้ประชุมร่วมกับทีมงานในร้านอาหาร เพื่อวางแผนในการรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ทุกคนต่างพูดคุยเกี่ยวกับการป้องกันและการช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน
เมื่อการประชุมเสร็จสิ้น เมญ่ารู้สึกเหนื่อยล้า แต่ก็มีความหวังอยู่ในใจ
“เราต้องการคนที่สามารถช่วยในการรักษาความปลอดภัยที่ร้าน” อัครพูดขึ้น “ฉันจะติดต่อกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อให้พวกเขามาช่วยเหลือเรา”
“เยี่ยมเลย!” มาร์คตอบกลับด้วยความกระตือรือร้น
ในขณะที่ทุกคนเริ่มแยกย้ายกันไป เมญ่าหยุดอัครไว้ “เดี๋ยวก่อน อัคร”
“อะไรเหรอ?” เขาถาม
“ฉันรู้ว่าเราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ แต่เราต้องคุยกันเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน” เมญ่าพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เราจะคุยกันได้ในภายหลัง” อัครตอบอย่างรวดเร็ว
“ทำไมคุณถึงไม่ต้องการคุย? คุณรู้สึกยังไงเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้?” เมญ่าตั้งคำถาม
“มันแค่เป็นเรื่องที่เราต้องจัดการให้เรียบร้อย” เขาตอบอย่างไม่สบอารมณ์
“ไม่ใช่แค่เรื่องนั้น! มันมีอะไรที่ลึกซึ้งกว่านั้น!” เมญ่ากล่าวด้วยความโมโห “เราทุกคนต่างรู้สึก และคุณต้องเปิดใจพูดคุย”
อัครหันไปมองเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยน “ฉัน… ฉันแค่ไม่อยากให้เธอกังวล”
“แต่ฉันก็กังวล” เมญ่าตอบกลับ “และฉันต้องการให้เราเข้าใจกันมากขึ้น”
“โอเค…เราจะคุยกัน” อัครยอมรับ แต่ยังคงมีความลังเลอยู่ในน้ำเสียง
ในขณะที่พวกเขานั่งลงที่มุมหนึ่งของร้าน อัครเริ่มเล่าเรื่องราวที่ทำให้เขารู้สึกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อคืน “เมื่อฉันเห็นเธออยู่ในสถานการณ์อันตราย ฉันรู้สึกว่าไม่สามารถปกป้องเธอได้”
“ฉันรู้ว่าคุณห่วง แต่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้เสมอไป” เมญ่าพยายามให้กำลังใจ “สิ่งสำคัญคือเราต้องอยู่เคียงข้างกัน”
“ทำไมเธอถึงพูดแบบนั้น?” อัครถาม “เธออาจจะคิดว่าฉันแค่ทำตามหน้าที่ แต่ความจริงคือฉัน…” เขาหยุดพูด
“คืออะไร?” เมญ่าถามเสียงเบา
“ฉันกลัวที่จะสูญเสียเธอ” อัครเผยความรู้สึกในใจของเขาอย่างไม่เต็มใจ
“แล้วคุณรู้ไหมว่าฉันก็รู้สึกเหมือนกัน?” เมญ่าพูดด้วยน้ำเสียงเบา “ฉันก็ไม่อยากสูญเสียคุณ”
ในช่วงเวลานั้น ทั้งสองคนมองตากัน และรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขายิ่งแน่นแฟ้นขึ้น แม้ว่าสถานการณ์จะยากลำบาก แต่ความรักและความเข้าใจก็เริ่มก่อตัวขึ้นในใจของพวกเขา
“ถ้าเราต้องเผชิญกับสิ่งนี้ด้วยกัน ฉันมั่นใจว่าเราจะผ่านมันไปได้” เมญ่าพูดด้วยความมั่นใจ
“ฉันสัญญาว่าจะปกป้องเธอ” อัครกล่าวเสียงหนักแน่น “และจะไม่มีอะไรสามารถทำให้เราห่างกันได้”
ในที่สุด เมญ่ารู้สึกว่าแม้สถานการณ์จะไม่แน่นอน แต่พวกเขาสามารถทำให้มันดีขึ้นได้ด้วยกัน
ตอนที่ 13: แผนการและการแตกหัก
“เสียงโทรศัพท์ของเมญ่าดังขึ้นท่ามกลางความเงียบในร้านอาหาร ขณะที่ทุกคนเริ่มกลับสู่กิจวัตรปกติ”
เมื่อเมญ่าเห็นหมายเลขที่โทรเข้า เธอรู้สึกแปลกใจ นี่เป็นเบอร์ของผู้จัดการร้านที่เธอไม่ค่อยได้ติดต่อ เขาเสียงเครียดเมื่อพูด “เมญ่า! เราต้องการให้คุณเข้ามาคุยเรื่องสำคัญที่สำนักงานด่วน”
“เรื่องอะไรเหรอคะ?” เมญ่าถามกลับด้วยความกังวล
“มีข่าวสำคัญเกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดเมื่อคืน” เขาตอบ
“โอเคค่ะ ฉันจะรีบไป” เมญ่าตัดสินใจและวางสาย เธอมองไปที่อัครที่นั่งอยู่ข้างๆ “ฉันต้องไปที่สำนักงานเดี๋ยวนี้”
“ฉันไปด้วย!” อัครกล่าวเสียงหนักแน่น เขาไม่ต้องการให้เมญ่าต้องเผชิญสถานการณ์นี้เพียงลำพัง
มาร์คเห็นจึงพูดขึ้น “ให้ฉันไปด้วยนะ ถ้าเกิดอะไรขึ้น เราจะได้ช่วยกัน”
ทั้งสามคนรีบไปยังสำนักงานของผู้จัดการร้าน และเมื่อถึงที่นั่น พวกเขาพบกับทีมงานทั้งหมดกำลังรออยู่
“ดีใจที่ทุกคนมาที่นี่” ผู้จัดการร้านกล่าว “เรามีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการสอบสวนที่ตำรวจได้ดำเนินการ”
“มีอะไรเหรอคะ?” เมญ่าถามด้วยความวิตก
“ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ตลาด และพวกเขาเห็นคนที่เข้ามาในพื้นที่ก่อนเกิดเหตุ” ผู้จัดการร้านพูดต่อ “และดูเหมือนว่ามีคนที่รู้จักกับร้านของเรามีส่วนเกี่ยวข้อง”
อัครและมาร์คมองหน้ากันด้วยความตกใจ “หมายความว่าไง?” อัครถาม
“หมายความว่าอาจมีคนในที่นี้ที่รู้เรื่องการวางระเบิด” เขาอธิบาย “เราอาจมีหนอนบ่อนไส้ในร้านนี้”
“เราไม่สามารถให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้!” เมญ่าพูดขึ้น “เราต้องระวังตัวให้มากขึ้น!”
“แน่นอน” ผู้จัดการร้านพูดด้วยเสียงมั่นใจ “แต่เรายังต้องหาทางแก้ไข และจำเป็นต้องระดมกำลังในการรักษาความปลอดภัย”
ในขณะเดียวกัน เมญ่ารู้สึกถึงความเครียดที่เพิ่มขึ้น และไม่สามารถปิดบังความวิตกกังวลในใจได้ “เราควรทำอะไรบางอย่างเพื่อป้องกันเหตุการณ์แบบนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีก”
“เราอาจจะต้องติดตั้งกล้องเพิ่มเติมและจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย” มาร์คเสนอความคิดเห็น “ให้พวกเขามาเฝ้าร้านตลอด 24 ชั่วโมง”
“นั่นเป็นความคิดที่ดี” อัครกล่าว “แต่เราต้องการคนที่ไว้ใจได้”
“คุณหมายถึงใคร?” เมญ่าถาม “เพราะตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าใครเป็นคนมีส่วนเกี่ยวข้อง”
“เราควรเริ่มสอบถามพนักงานของเราเพื่อดูว่ามีใครรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้บ้าง” ผู้จัดการร้านเสนอ
เมญ่าตัดสินใจ “ถ้าอย่างนั้นเราควรทำการประชุมร่วมกันกับพนักงานทุกคน เพื่อให้พวกเขาได้พูดคุยและแชร์ข้อมูล”
“เราจะจัดการประชุมในวันนี้เลย” อัครยืนยัน “เพราะเราไม่สามารถปล่อยให้เรื่องนี้เงียบไปได้”
หลังจากการประชุม ผู้จัดการร้านให้ทุกคนกลับไปที่หน้าที่ของตัวเอง เมญ่ารู้สึกว่าวันนี้มีความสำคัญมากกว่าที่คิด การสื่อสารจะเป็นกุญแจสำคัญในการค้นหาความจริง
เมื่อกลับมาที่ร้าน เมญ่ารู้สึกตึงเครียดเมื่อเห็นทุกคนทำงานกันอย่างหนัก “ทุกคนสู้ๆ นะคะ” เธอพยายามให้กำลังใจพนักงานที่ยังคงรู้สึกวิตกกังวลจากเหตุการณ์เมื่อคืน
ระหว่างที่ทำงานอยู่ เมญ่ารู้สึกได้ถึงการจับตามองจากบางคน เธอหันไปมองและเห็นว่าอัครยืนอยู่ข้างๆ พร้อมกับสีหน้าที่เข้มงวด “ฉันจะคอยดูเธอ” เขาพูดเสียงเข้ม
“ฉันรู้ว่าคุณห่วง แต่เราต้องทำงานร่วมกัน” เมญ่าตอบกลับ
“ฉันไม่สามารถทิ้งเธอไว้โดยไม่มีการปกป้อง” อัครย้ำ
ในขณะนั้น เสียงของมาร์คดังขึ้น “อ้าว เมญ่าฉันมีข่าวมาบอก!” เขาเข้ามาใกล้ “ฉันได้ยินมาว่ามีคนในร้านที่ไม่ค่อยสบายใจเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้”
“จริงเหรอ?” เมญ่าถามด้วยความสนใจ
“ใช่! มีบางคนบอกว่าพวกเขาเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่แปลกหน้าเข้ามาในร้านเมื่อไม่นานนี้” มาร์คเปิดเผย
“เราต้องตรวจสอบเรื่องนี้ทันที!” อัครกล่าวด้วยความตื่นเต้น “ให้ฉันโทรหาตำรวจ”
เมญ่ารู้สึกใจเต้นอย่างรุนแรงเมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ที่ว่าคนร้ายอาจอยู่ใกล้ๆ พวกเขา “ถ้าอย่างนั้นเราต้องทำให้แน่ใจว่าทุกคนจะปลอดภัย”
“เราจะต้องวางแผนกันให้ดี” อัครกล่าว และทั้งสามคนเริ่มวางแผนในการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง
ในช่วงเวลาที่พวกเขาหมกมุ่นอยู่กับการวางแผน เมญ่ารู้สึกถึงความกดดันและความตึงเครียด แต่ก็รู้ว่าการทำงานร่วมกันจะเป็นกุญแจสำคัญในการค้นหาความจริงและทำให้ร้านปลอดภัยขึ้น
“เราจะไม่ยอมให้คนร้ายมาทำลายสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาได้” เมญ่าพูดด้วยความมุ่งมั่น
“เราจะทำให้แน่ใจว่าไม่มีใครถูกทำร้ายอีก” อัครกล่าวพร้อมกับมองเธอด้วยสายตาที่หนักแน่น
เมญ่ารู้สึกได้ถึงความเชื่อมั่นในตัวพวกเขา และรู้ว่าพวกเขาจะสามารถผ่านพ้นอุปสรรคนี้ไปได้ด้วยกัน
ตอนที่ 14: ความหวาดกลัวในคืนที่มืดมิด
“เสียงเคาะประตูดังขึ้นในเวลาที่มืดมิด ทำให้เมญ่าตื่นขึ้นจากความคิดที่ยังไม่สิ้นสุด”
คืนนี้ เมญ่ารู้สึกไม่สบายใจ หลังจากการประชุมที่สำนักงานและการวางแผนจัดการกับคนร้าย เธอนอนไม่หลับและต้องการหาความสงบในใจ แต่เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้เธอรีบลุกไปเปิดประตู
“ใครนะ?” เมญ่าถามเสียงเบาเมื่อเห็นว่าเป็นอัครที่ยืนอยู่ข้างนอก
“ฉันเอง” เขาตอบ พร้อมกับเข้ามาในห้อง “ฉันมาดูเธอ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง”
“ฉันโอเค แค่…” เมญ่าหยุดพูด เพราะเธอรู้สึกถึงความวิตกกังวลที่ลอยอยู่ในอากาศ “ฉันแค่รู้สึกไม่ค่อยดี”
“อย่าให้มันเกาะกินใจเธอมากเกินไป” อัครบอก และเขานั่งลงข้างๆ “เราต้องเข้มแข็งกัน”
เมญ่ารู้สึกว่าความกังวลในใจของเธอถูกคลายลงเล็กน้อยเมื่อมีอัครอยู่ข้างๆ “ขอบคุณที่มา” เธอกล่าว
“ฉันไม่สามารถทิ้งเธอไว้ได้” เขายิ้มให้ “และคืนนี้ฉันจะนอนอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องเธอ”
เมญ่ามองหน้าเขาและรู้สึกอบอุ่น แต่ก็ยังมีความกลัวในใจ เธอรู้ดีว่ามีภัยอยู่ใกล้ตัวและไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“ฉันยังไม่รู้เลยว่าใครคือคนร้าย” เมญ่าพูดอย่างวิตก “แล้วถ้าพวกเขาเข้ามาหาเราอีกล่ะ?”
“อย่าคิดมากนัก” อัครพูดเสียงหนักแน่น “เราจะไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น”
“ทำไมคุณถึงกล้าทำแบบนี้?” เมญ่าถามเสียงต่ำ “ทำไมคุณถึงเสี่ยงตัวเองเพื่อฉัน?”
“เพราะฉันห่วงเธอ” อัครตอบตรงไปตรงมา “และฉันไม่อยากให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยว”
การพูดคุยระหว่างทั้งคู่ทำให้บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความอบอุ่น แม้จะมีความวิตกกังวลอยู่ในใจ แต่การที่มีอัครอยู่ใกล้ทำให้เมญ่ารู้สึกปลอดภัยมากขึ้น
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ขณะที่พวกเขานั่งอยู่ในความเงียบ อัครจู่ๆ ก็มองไปที่หน้าต่าง “เธอได้ยินเสียงนั้นไหม?” เขาพูดอย่างกังวล
“เสียงอะไรเหรอ?” เมญ่าเงยหน้าขึ้น “เสียงอะไร?”
“เหมือนมีเสียงอะไรบางอย่างที่น่าสงสัย” เขาพูดเสียงต่ำ “เราควรไปดูไหม?”
เมญ่ารู้สึกตื่นเต้นและกลัวในเวลาเดียวกัน “ถ้าอย่างนั้นเราควรไป”
ทั้งสองคนค่อยๆ เดินไปที่หน้าต่าง และมองออกไปข้างนอก ในความมืดมิด พวกเขาเห็นเงาเล็กๆ เดินไปมาอยู่ที่มุมของร้านอาหาร
“ใครน่ะ?” เมญ่าถามเสียงสั่น “ทำไมถึงมีคนอยู่ที่นั่น?”
“ฉันไม่แน่ใจ แต่เราต้องระวัง” อัครตอบ เขาค่อยๆ เลื่อนประตูออกไป
เมญ่ารู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นในอากาศ ขณะที่ทั้งสองคนเดินออกไปที่ด้านนอก อัครยืดหูฟังเสียงและมองไปที่มุมมืดอย่างระมัดระวัง
“เธออยู่ข้างหลังฉัน” เขากล่าวเสียงเข้ม “ไม่ต้องกลัว”
เมื่อถึงมุมของร้าน พวกเขาเห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่ที่นั่น กำลังพยายามเปิดประตูหลังร้าน
“หยุด!” อัครตะโกนเสียงดัง ทำให้ชายคนนั้นสะดุ้งและหันกลับมาที่พวกเขา
“คุณเป็นใคร!” เมญ่าถามเสียงสูง “ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่?”
ชายคนนั้นไม่ตอบ เขาหันหลังและพยายามวิ่งหนีไป
“ไปตามเขา!” อัครสั่ง พร้อมกับวิ่งตามชายคนนั้นไป เมญ่ารู้สึกถึงความตื่นเต้นและกลัวในเวลาเดียวกัน แต่ก็ไม่กล้าที่จะหยุด
การไล่ล่ากลายเป็นความตื่นเต้นและน่าหวาดเสียว ทั้งคู่วิ่งตามชายคนนั้นไปจนถึงถนนที่มืดมิด อัครพยายามทำให้ตัวเองอยู่ข้างหน้าขณะที่เมญ่าตามเขาไป
“เขาอยู่ไหน?” เมญ่าตะโกนถาม ขณะที่ทั้งสองคนยังวิ่งตาม
“อยู่ข้างหน้า!” อัครตอบกลับ ขณะที่พวกเขาเข้าใกล้ชายคนนั้นมากขึ้น
ในที่สุด พวกเขาก็สามารถจับชายคนนั้นได้ที่มุมถนน เขาหันหน้ามาหาอัครและเมญ่าด้วยความตกใจ “ปล่อยฉันเถอะ! ฉันไม่มีอะไรทำผิด!”
“ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่?” อัครถามเสียงต่ำ “คุณเป็นใคร?”
“ฉันแค่เข้ามาดูร้าน ฉันไม่ได้ทำอะไร!” ชายคนนั้นพูดเสียงสั่น
“เราจะไม่เชื่อคุณง่ายๆ” เมญ่าพูดด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น “ถ้าคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ บอกเรามา!”
ชายคนนั้นนิ่งไปสักครู่ก่อนจะยอมพูด “โอเค! ฉันได้ยินคนพูดถึงเรื่องแปลกๆ และคิดว่ามันน่าสนใจ”
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย