24 ต.ค. 2024 เวลา 02:16 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

ทำความรู้จักกับ Linux OS ระบบปฏิบัติการที่คุณควรลอง! | AlphaTech

เมื่อพูดถึงระบบปฏิบัติการ หลายคนอาจคุ้นเคยกับ Windows หรือ macOS มากกว่า แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีระบบปฏิบัติการที่เรียกว่า Linux อยู่ด้วย ซึ่งถูกใช้ทั้งในองค์กรขนาดใหญ่ ผู้พัฒนาโปรแกรม และแม้แต่ผู้ใช้งานทั่วไป Linux เป็นระบบปฏิบัติการที่มีความยืดหยุ่นสูง และที่สำคัญคือมันเป็น Open Source ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขปรับปรุงได้ตามต้องการ ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Linux ให้ลึกซึ้งขึ้น ตั้งแต่ที่มาจนถึงการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
Linux คืออะไร?
Linux คือระบบปฏิบัติการแบบโอเพนซอร์ส (Open Source Operating System) ซึ่งหมายความว่าทุกคนสามารถเข้าถึงซอร์สโค้ดได้และนำไปใช้งาน ปรับปรุง หรือแม้แต่พัฒนาต่อยอดได้ตามต้องการ โดยมีการพัฒนาและดูแลจากชุมชนผู้ใช้งานทั่วโลก แตกต่างจากระบบปฏิบัติการที่เรามักจะต้องซื้อหรือเสียค่าใช้งาน เช่น Windows และ macOS ที่มีซอฟต์แวร์ที่ปิดกั้นการเข้าถึงซอร์สโค้ด
Linux มี Kernel หรือแกนกลางที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ให้ทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการจัดการทรัพยากรทั้งหมดของเครื่อง ซึ่งส่วนนี้เป็นหัวใจของ Linux ที่ทำให้ระบบนี้สามารถทำงานได้หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องคอมพิวเตอร์ไปจนถึงซูเปอร์คอมพิวเตอร์
ประวัติความเป็นมา
Linux มีต้นกำเนิดจากโครงการที่ริเริ่มโดย Linus Torvalds นักศึกษาชาวฟินแลนด์ในปี 1991 ที่ต้องการพัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเอง โดยมีเป้าหมายให้มันฟรีและเปิดกว้างให้กับทุกคน Torvalds ได้รับแรงบันดาลใจจากระบบปฏิบัติการ MINIX ซึ่งในขณะนั้นถูกใช้งานเพื่อการศึกษา Torvalds ได้ทำการพัฒนา Kernel ของเขาเองโดยใช้พื้นฐานจาก UNIX และทำให้มันใช้งานได้จริง
1
หลังจากที่ Torvalds ปล่อยซอร์สโค้ดของ Linux Kernel ออกมาในชุมชนโอเพนซอร์ส ก็มีนักพัฒนาและผู้สนใจจากทั่วโลกเข้ามาช่วยพัฒนาและปรับปรุงระบบนี้อย่างต่อเนื่อง จนในปัจจุบัน Linux ได้กลายเป็นระบบปฏิบัติการที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ Linux ยังมีหลายรุ่นที่ถูกพัฒนาออกมาโดยชุมชนหรือองค์กรต่าง ๆ เช่น Ubuntu, Fedora, Debian ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกับการใช้งานของตน
การใช้งานในปัจจุบัน
1
ในปัจจุบัน Linux ไม่ได้ถูกจำกัดแค่ในหมู่นักพัฒนาหรือองค์กรอีกต่อไปแล้ว แต่ยังมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในหลายภาคส่วน ตั้งแต่การใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป เซิร์ฟเวอร์ ไปจนถึงอุปกรณ์ Internet of Things (IoT) อาทิเช่นโทรศัพท์มือถือที่ใช้ระบบ Android ก็มีพื้นฐานมาจาก Linux เช่นกัน
1
เซิร์ฟเวอร์มากกว่า 80% ของโลกทำงานบน Linux เพราะมันมีความเสถียร ปลอดภัย และสามารถจัดการทรัพยากรได้ดีมาก นอกจากนี้ Linux ยังเป็นที่นิยมในหมู่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ เนื่องจากมันมีเครื่องมือที่รองรับการเขียนโปรแกรมจำนวนมาก และยังเหมาะสำหรับการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชัน การใช้งานแบบ DevOps และงานด้าน Machine Learning
ประเภทของ Linux
Linux มีการพัฒนาต่อเนื่องจนเกิดระบบย่อยที่เราเรียกว่า "Linux Distribution" (ดิสโทร) ซึ่งแต่ละดิสโทรมีการปรับแต่งเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างดิสโทรที่เป็นที่นิยมและมีการใช้งานหลากหลายประเภทมีดังนี้:
1. Ubuntu
Ubuntu เป็นดิสโทรที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยมีความเป็นมิตรกับผู้ใช้ทั่วไปทั้งมือใหม่และมืออาชีพ ระบบมีการติดตั้งและใช้งานง่าย สามารถใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจนถึงเซิร์ฟเวอร์ Ubuntu ยังมีชุมชนขนาดใหญ่ที่ช่วยเหลือกัน ทำให้ได้รับการสนับสนุนที่ดี
2. Debian
Debian เป็นดิสโทรที่มีชื่อเสียงเรื่องความเสถียรและความปลอดภัยสูง ระบบนี้มักถูกใช้ในเซิร์ฟเวอร์และองค์กรขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังเป็นพื้นฐานของดิสโทรอื่นๆ เช่น Ubuntu Debian ถูกพัฒนาด้วยแนวคิดในการเป็นระบบปฏิบัติการที่เสรีและเปิดกว้าง ทำให้มีการอัปเดตเป็นระยะและได้รับความไว้วางใจ
4. Arch Linux
Arch Linux เป็นดิสโทรที่เน้นให้ผู้ใช้ปรับแต่งเองตามความต้องการ โดยจะให้ผู้ใช้ทำการติดตั้งและปรับแต่งระบบทุกอย่างด้วยตนเอง ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีประสบการณ์หรือผู้ที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการอย่างละเอียด Arch มีชุมชนที่เข้มแข็งและมักเน้นการอัปเดตซอฟต์แวร์ให้ทันสมัยที่สุดเสมอ
นี่เป็นเพียงบางตัวอย่างเท่านั้น ยังมีอีกหลายดิสโทรที่เราไม่ได้พูดถึง เพราะแต่ละดิสโทรมีข้อดีและลักษณะเฉพาะตัวที่ต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการใช้งานและความชำนาญของผู้ใช้ ดังนั้น การเลือกดิสโทรที่เหมาะสมจะช่วยให้การใช้งาน Linux มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างระบบที่มี Linux เป็นพื้อนฐาน : Ubuntu
Ubuntu เป็นหนึ่งในตัวอย่างของ Linux ที่ถูกพัฒนามาเพื่อการใช้งานทั่วไปในทุกระดับ ตั้งแต่ผู้ใช้ที่ไม่มีพื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์จนถึงผู้เชี่ยวชาญด้านไอที Ubuntu ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากการใช้งานง่าย มีซอฟต์แวร์พื้นฐานครบครัน และยังมีชุมชนขนาดใหญ่ที่ช่วยให้คำแนะนำและสนับสนุนการใช้งาน Ubuntu ยังเป็นที่รู้จักในฐานะระบบที่เสถียร ปลอดภัย และเหมาะสมกับการใช้งานตั้งแต่คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจนถึงเซิร์ฟเวอร์ระดับองค์กร
ความน่าใช้งาน
หลายคนอาจตั้งคำถามว่า Linux มีความน่าใช้จริงหรือไม่ ในความเป็นจริง Linux มีจุดเด่นหลายประการที่ทำให้มันน่าใช้ อย่างแรกคือ ความปลอดภัย Linux มีระบบการจัดการสิทธิ์ที่ซับซ้อนและทำให้ยากต่อการเจาะระบบ ประการที่สองคือ ความยืดหยุ่น ผู้ใช้สามารถปรับแต่งระบบให้เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเองได้ นอกจากนี้ยังมี ชุมชนที่เข้มแข็ง ที่พร้อมช่วยเหลือและแบ่งปันทรัพยากร ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเมื่อต้องการความช่วยเหลือ
ที่สำคัญที่สุดคือ ค่าใช้จ่าย Linux สามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้ฟรี ซึ่งทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายให้กับระบบปฏิบัติการแบบปิด อย่างไรก็ตาม สำหรับบางคนที่ยังคุ้นเคยกับ Windows หรือ macOS อาจต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และปรับตัว แต่หากผ่านพ้นช่วงแรกของการเรียนรู้ไปได้ Linux จะกลายเป็นระบบที่สะดวกและน่าใช้งานมากกว่าที่คิด
สุดท้ายนี้ Linuxนั้นเป็นระบบปฏิบัติการที่มีความยืดหยุ่นสูง ปลอดภัย และเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งตามความต้องการของตนเองได้ แม้จะไม่ได้มีส่วนแบ่งตลาดมากเท่ากับ Windows หรือ macOS แต่ก็มีผู้ใช้จำนวนไม่น้อยที่เลือก Linux เป็นระบบหลักในการทำงาน โดยเฉพาะในด้านเซิร์ฟเวอร์ การพัฒนา และการใช้งานทั่วไป ในโลกที่ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สมีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ Linux เป็นตัวเลือกที่ดีและควรค่าแก่การลองใช้งานนั่นเองครับ.
โฆษณา