25 ต.ค. 2024 เวลา 11:03 • หนังสือ

ญาติกา

เคยเขียนถึงนวนิยายอิงประวัติศาสตร์สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายเรื่อง ‘สายโลหิต’ หนึ่งในผลงานที่สร้างชื่อเสียงที่สุดให้กับนักเขียนนามปากกา 'โสภาค สุวรรณ' ไปแล้ว
‘สายโลหิต’ เป็นเรื่องราวของความรักระหว่างขุนไกรกับแม่หญิงดาวเรือง ผสมผสานกับความรักชาติรักแผ่นดินที่พยายามปกป้องแผ่นดินให้รอดพ้นจากการถูกรุกราน จนสามารถกอบกู้เอกราชคืนมาได้ในที่สุด สถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานีแทน
ครอบครัวของขุนไกรและแม่หญิงดาวเรือง ย้ายมาปักหลักอยู่ที่คลองบางหลวง เติบโตในหน้าที่การงานเป็นใหญ่เป็นโต ได้รับบรรดาศักดิ์เป็นพระยาไกรสีห์ราชภักดีและคุณหญิงดาวเรืองในที่สุด
เรื่องราวของ ’สายโลหิต’ จบลงตรงนี้ แต่ที่ทิ้งท้ายไว้คือต้นตระกูลของขุนไกรมีดาบพระราชทานอยู่สองเล่มๆ หนึ่งอยู่กับขุนไกร อีกเล่มหนึ่งอยู่กับหลวงเทพผู้เป็นพี่ชาย หลังจากกรุงศรีอยุธยาแตก ได้ถูกทหารอังวะกวาดต้อนไปเป็นเชลย เนื่องจากเป็นข้าราชบริพารของขุนหลวงหาวัด หรือพระเจ้าอุทุมพรที่ขณะนั้นทรงผนวชอยู่
สองครอบครัวพลัดพรากจากกัน ลูกหลานเหลนเลยมีหน้าที่ ที่จะต้องตามหาดาบเล่มนั้นให้กลับมาอยู่คู่กันเหมือนเดิมให้จงได้ และนี่คือที่มาของ ’ญาติกา’
‘ญาติกา’ เป็นนวนิยายขนาดสองเล่มจบ สนุกเข้มข้นไม่แพ้สายโลหิต เสน่ห์ของนวนิยายเรื่องนี้อยู่ตรงที่เนื้อเรื่องที่ยากต่อการคาดเดา ตอนที่คนเขียนอ่านหนังสือเล่มนี้ อ่านไปจนจบเล่มแรกแล้ว ยังเดาทางไม่ถูก ยังไม่รู้เลยว่าใครคือพระเอกนางเอกในเรื่องนี้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกมากสำหรับนวนิยายไทย
อ่านไปเรื่อยๆ ถึงได้รู้ว่าเนื้อเรื่องดำเนินผ่านบรรพบุรุษรุ่นต่อรุ่นกว่าที่สมบัติของต้นตระกูลคือดาบทั้งสองเล่มนี้จะกลับมาอยู่คู่กันอีกครั้งในที่สุด
‘ญาติกา’ เคยถูกนำเสนอเป็นละครโทรทัศน์มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2539 ทางสถานีโทรทัศน์สีช่อง 7 แสดงนำโดยคุณสวิช เพชรวิเศษศิริ คุณนิ้ง กุลสตรี ศิริพงษ์ปรีดา คุณกวาง กมลชนก โกมลธิติ และคุณนุติ เขมมะโยธิน และได้ยินว่าประสบความสำเร็จไม่แพ้ละครสายโลหิตที่ออกอากาศไปก่อนหน้านี้
ใครที่ชอบอ่านนวนิยายเชิงประวัติศาสตร์ นิยายเรื่องนี้คืออีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ควรพลาด
ผลงานที่ ’โสภาค สุวรรณ’ ประพันธ์ขึ้นมาเพื่อเทิดทูนบรรพบุรุษตั้งแต่ครั้งโบราณที่เป็นต้นสกุลสุวรรณสาร วสันตสิงห์ พรหมนินดา บุนนาค และบุณยรัตพันธ์ ทั้งทางฝ่ายบิดาและมารดาของผู้แต่งนั่นเอง
.........………
โฆษณา