28 ต.ค. 2024 เวลา 02:49 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

Don’t Move ไม่ถึงกับทำให้เป็นอัมพาต แต่ก็ทำให้หยุดนิ่งจนจบได้

Don’t Move เป็นหนังทริลเลอร์สยองขวัญที่พยายามจะดึงผู้ชมให้รู้สึกอึดอัดไปกับชะตากรรมของตัวเอกที่ถูกฆาตกรต่อเนื่องฉีดยาทำให้ตกอยู่ในอาการเหมือนเป็นอัมพาต แม้ว่าตัวหนังอาจจะไม่ถึงขั้นทำให้เราลืมหายใจ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เราหยุดนิ่งดูจนจบได้
เรื่องราวเริ่มต้นกับไอริส แม่ที่จมอยู่ในความเศร้าจากการสูญเสียลูกชายอย่างไม่คาดฝัน เธอได้พบกับริชาร์ดชายหนุ่มที่ดูมีมิตรไมตรีเข้ามาชวนคุยทำให้เธอล้มเลิกความคิดฆ่าตัวตายชั่วคราว แต่ทว่าริชาร์ดไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด เขาฉีดยาที่ทำให้เธอเป็นอัมพาตและลากเธอไปยังบ้านพักร้างกลางป่า เพื่อเติมเต็มความต้องการภายในของเขา ไอริสต้องดิ้นรนหาทางเอาชีวิตรอดขณะที่ร่างกายของเธออ่อนแรงลงทุกวินาที จนถึงขั้นบังคับร่างกายไม่ได้อีกต่อไป
ความระทึกขวัญแบบนี้อาจชวนให้นึกถึงผลงานระทึกขวัญอย่าง Don't Breathe แต่ Don’t Move กลับขาดการสร้างความลึกให้กับตัวละครทั้งฆาตกรและเหยื่อ ริชาร์ดกลายเป็นเพียงตัวร้ายหน้าตายิ้มแย้ม ดูเป็นมิตร ขณะที่บทของไอริสก็ยังไม่ค่อยทำให้เราเข้าถึงความรู้สึกในใจเธอเต็มที่ถึงการดิ้นรนต่อสู้กับริชาร์ดเพื่อมีชีวิตต่อ ทั้งที่เธอหมดอาลัยตายอยากในชีวิตไปแล้ว อะไรคือจุดเปลี่ยนของความคิด
ตัวละครกลับขาดมิติและทำให้เรารู้สึกเอาใจช่วยได้ไม่เต็มที่ แม้ไอริสจะพยายามถ่ายทอดความเจ็บปวดด้วยสายตาและการเคลื่อนไหวที่จำกัดก็ไม่สามารถช่วยเสริมให้รู้สึกเห็นใจหรือเข้าใจเธอมากขึ้น หนังไม่ได้หาทางออกที่สร้างสรรค์เพื่อให้เราเข้าใจเธอมากกว่าที่เรารู้ในสิบนาทีแรก ซึ่งน่าเสียดายจริงๆ
แม้ Don’t Move มีปัญหาด้านการเล่าเรื่องและเทคนิคด้านภาพที่ไม่เนียนพอ รวมถึงเสียงดนตรีประกอบที่รู้สึกรกรุงรังเกินไป อย่างไรก็ตาม หนังกลับสร้างความลุ้นระทึกได้ดีในฉากนาทีระทึกขวัญ ทั้งการเปชิญหน้าระหว่างไอริสกับริชาร์ด และจังหวะที่ตัดสลับในขณะการไล่ล่าคือสิ่งที่ทำได้ดีจนชวนให้ใจเต้นแรง
6/10
โฆษณา