ความสำเร็จของเราเกิดขึ้นได้ยังไง
แปลว่าเราจะต้องมีเป้าหมายในชีวิตก่อนเป็นอันดับแรก.
แล้วเป้าหมายชีวิตของเราคืออะไร
เราจะรู้ได้ยังไงว่านั่นคือเป้าหมายของเรา
มันก็เป็นเรื่องแปลกเพราะตั้งแต่เป็นเด็กเราก็ไม่ได้รู้หรอกว่า จริงๆแล้วเป้าหมายในชีวิตของเรามันคืออะไร และนั่นคือปัญหา
จนอยู่มาวันหนึ่งเราจะเริ่มรู้สึกว่าเราอยากจะค้นหาตัวตนของตัวเอง เราอยากรู้ว่าการประสบความสำเร็จในชีวิตของเรามันจะต้องเป็นแบบไหนกันนะทำไมเราจะต้องมีชีวิตที่ดีและชีวิตที่ดีอย่างที่ว่ามันคืออะไร ใครจะเป็นคนตอบคำถามให้เราได้
มีบททดสอบมากมายอยากให้เราลองทำดู แต่สุดท้ายแล้วมันก็ยังหาตัวตนของเราไม่เจอ
แต่สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้เราเริ่มรู้แล้วว่า
การจะหาตัวตนของตัวเองนั้นมันก็คือการลองผิดลองถูกเราแค่ตัดสิ่งที่ไม่ใช่ออกไป นั่นแปลว่าชีวิตเราจะต้องผ่านสิ่งต่างๆมากมายทั้งที่ใช่และไม่ใช่
เราจะเลือกเก็บส่วนที่ใช่เอาไว้และตัดส่วนที่ไม่ใช่ออกไปและทำมันซ้ำๆไปจนกว่าเราจะได้คำตอบว่าสิ่งสิ่งนั้นมันให้ความสุขกับชีวิตของเราจริงๆ
#ความสุขกับชีวิตของเราจริงๆ
แล้วมันคืออะไรล่ะความสุขที่ว่ามันคืออะไร.....
เคยไหมที่หลายครั้งของชีวิตเราพยายามหา...ค้นหาตัวตนและสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเองแต่สุดท้ายแล้วหลังจากนั้นซัก 2-3 วันหรือมากที่สุดก็ประมาณ 1-2 สัปดาห์พลังในตัวตนที่เราเคยมีหลังการประชุมมันก็หมดสิ้นลงจนไม่เหลือเยื่อใยเอาไว้ ทำให้ครั้งต่อไปเราจึงต้องเข้าอบรมหรือพัฒนาตัวเองบ่อยๆครั้ง แล้วอะไรล่ะที่จะเป็นตัวบอกได้ว่าเราจะสร้างพลังให้กับตัวเองโดยไม่พึ่งคนอื่น...#มันเป็นไปได้ไหม
พอโตขึ้นเราได้เรียนรู้ว่าจริงๆแล้วคนเราเกิดมา
จากนั้นเราก็จะแก่ เราก็จะเจ็บ และเราก็จะตายไปในที่สุด
ลองมาคิดกลับกันสิว่าสุดท้ายแล้วเราต้องตายแล้วเราจะทำอะไรต่อ.....
คำถามที่เกิดขึ้นในหัวคือ........นั่นแหละสิ่งที่เกิดขึ้นในหัวมันคือคำตอบของชีวิตของเราจุดมุ่งหมายของชีวิตเราจะไปทางไหน มันอยู่ที่คำถามในหัวของเราต่างหาก
เพราะสุดท้ายแล้วคำตอบที่ดีที่สุดมันขึ้นอยู่กับ #คำถามที่ดีที่สุดต่างหาก
ถ้าเรารู้ว่าวันหนึ่งเราจะตายเราจะไม่ต้องทำอะไรเลยเพราะยังไงเราก็ต้องตาย
หรือเราเลือกที่จะทำอะไรบางอย่างเพื่อความสุขของเราเพื่ออะไรบางอย่างและมีความสุขก่อนตาย
1 ในสิ่งสิ่งนั้นคือคำว่า living will ซึ่งความหมายของมันก็คือการสร้างพินัยกรรม ไว้ก่อนตายเพื่อที่จะบอกให้คนรุ่นหลังหรือคนที่อยู่ใกล้ชิดนั้นได้รับรู้ว่าสิ่งที่เราคาดหวังไว้ก่อนจะตายมันคืออะไร และถ้าในวันหนึ่งเราไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองหรือทำอะไรได้แล้วคนๆนั้นจะเป็นคนสานต่อจุดมุ่งหมายสำคัญที่สุดครั้งสุดท้ายของเรา....living will
แต่ก่อนจะถึงจุดนั้นเราต้องตั้งคำถามตัวเองว่าแล้วก่อนจะตายเราต้องการทำอะไรล่ะ....
หนังสือเล่มนี้จะเป็นการคิดย้อนกลับเพื่อให้เราได้รู้ว่าปัจจุบันขณะที่เราควรจะเป็น มันคืออะไรกันแน่แต่อย่าเพิ่งสับสนไปเพราะตอนนี้เรายังไม่มี living will
เอาล่ะเริ่มต้นเรามาสร้าง living will กันก่อนดีกว่า
ให้เราลองคิดว่าถ้าสมมุติเรามีเวลาอยู่ 3 ปีสิ่งที่เราอยากจะทำมากที่สุด 3 อย่างคืออะไรให้เขียนลงไป
จากนั้นตั้งคำถามต่อว่าแล้วถ้าเราเหลือเวลาอยู่ 1 เดือนสิ่งที่เราอยากจะทำมากที่สุดคืออะไรและเขียนมันลงไป
ถามตัวเองกลับไปอีกว่า...ถ้าเรามีเวลาอยู่แค่ 2 สัปดาห์สิ่งที่สำคัญที่สุดที่อยากจะทำตอนนี้มันคืออะไรเราเขียนมันลงไป
แล้วถ้าเรามีเวลาเหลือแค่ 3 วันสิ่งที่สำคัญที่สุดที่อยากจะทำตอนนี้คืออะไรแล้วเขียนมันลงไป
และถ้าเราเหลือเวลาแค่วันนี้เพียงวันเดียวสิ่งสำคัญที่สุดที่เราอยากจะทำตอนนี้คืออะไรเราเขียนมันลงไป
มันอาจจะเป็นเหมือนบททดสอบง่ายๆแต่มันเป็นสิ่งที่ยากมากที่เราจะคัดกรองทุกอย่างลงไปแต่มันคือสิ่งที่ดีที่สุด ณ ขณะนี้ จงทำมันและลองคัดสรรดู
จากนั้นเราจะรู้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราอยากทำมากที่สุด ณ ตอนนี้คืออะไร
และหลังจากนั้นเราก็จะเอามันมาเรียงลงไปตามความสำคัญจากคำถามสุดท้ายเรียงไปถึงคำถามแรก
เอาละมาถึงตอนนี้แล้วสิ่งที่เราจะต้องทำคือเริ่มตัดสินใจทำข้อที่ 1 ก่อน
พอเราได้เป้าหมายสูงสุดแล้วเราจะมีประเด็นไว้ว่า living will ของเราคืออะไรและเป้าหมายของเรา ณ
ตอนนี้คืออะไร แล้วเราค่อยทยอยแยกชิ้นส่วนออกมาว่าเราจะทำอะไรเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา
นั่นคือการวางแผนชีวิตก่อนตาย
ใช่มันคือการวางแผนชีวิตก่อนตาย
เพราะอย่างน้อยสิ่งที่เราอยากจะทำมากที่สุดในวันสุดท้ายเราได้ทำมันไปเรียบร้อยแล้วและที่เหลือมันคือเรื่องรอง
แล้วที่เหลือมันเป็นแค่ส่วนยิบย่อย
จากนั้นเราจะโฟกัสไปจนถึงเป้าหมายของเราและหามันให้เจอว่ามันคืออะไร
เราอาจจะหลุดโฟกัสได้ แต่จงจำไว้ว่า เป้าหมายจะยังคงอยู่กับเราเสมอ
หลังจากนั้นเราอาจจะเสียเวลาวางแผนสักหน่อยแต่เราจะยังเดินไปข้างหน้าต่อไปเพื่อหาความสุขและประสบการณ์ที่จะผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา
หลักการที่เราจะสร้างแรงบันดาลใจและกำหนดพลังของตัวเองไม่ให้เสื่อมถอยลงนั้นมีวิธีง่ายๆซึ่งบางทีเราอาจจะมองข้ามไป
จริงๆแล้วมันก็เหมือนกับการเข้าไปในห้องประชุมในการสัมมนาใหญ่ครั้งหนึ่งเพื่อที่จะให้คนคนหนึ่งสร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตแล้วพอเราหมดพลังเราก็กลับเข้าห้องประชุมใหม่
แต่เราจะไปเสียเวลาแบบนั้นทำไมในเมื่อเรารู้แล้วว่าสิ่งที่เราจะสร้างแรงบันดาลใจของตัวเองนั้นคืออะไรง่ายที่สุดแล้วมันก็คือสร้างจากตัวตนภายในของเรา
แต่บอกก่อนนะสิ่งที่ง่ายที่สุดย่อมยากเสมอเพราะมันแลกมากับวินัยทั้งชีวิต
..
.
.
.
.
.
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
