คิดแบบนี้ไม่มีทางรวย ทำอะไรก็สำเร็จยาก
คุณผู้อ่านเคยเจอหรือเคยเห็นคนที่ขยันทำงาน ตั้งไจทำงานมากๆ หาคอร์สเรียนต่างๆ จนไม่มีแม้กระทั่งเวลาดูแลตัวเองหรือคนรอบข้างกันไหมครับ แต่คุณภาพชีวิตคุณภาพการเงินของพวกเขาทำไมไม่ดีขึ้นเลย หรือใครที่กำลังเป็นแบบนี้อยู่ลองฟังบทความนี้ดูครับ
ทุกคนอาจเคยเห็นหรือเคยได้ยินผ่านๆหูกันมาบ้าง เกี่ยวกับการทำธุรกิจ ทำไมคนส่วนมากถึงไปกันไม่รอดทั้งทั้งที่เค้าก็พยายามกันเต็มที่ทำตามสูตรทำตามแผนเป๊ะ แต่ก็เจ๊งไม่เป็นท่า มันอาจจะเกิดจากปัจจัยเล็กๆที่เรามองข้ามกันก็ได้
สิ่งเหล่านี้ ล้วนเกิดจากตัวของพวกเค้าเองทั้งนั้นไม่ใช่เพราะโชคชะตาหรือใครมากำหนด เเต่เป็นเพราะผู้คนเหล่านี้มองเงินตัวร้าย มองเงินไม่ดีตั้งแต่แรก ผมพูดมาแบบนี้หลายคนคงเถียงหรือคิดในใจ ใครมันจะไปมองเงินแบบนั้นกัน ถูกไหมครับ
ผมจะพาคุณมารู้จักกับคำว่า financial blueprint หรือพิมพ์เขียวการเงิน พิมพ์เขียวการเงิน หรือโปรแกรมทางความคิดเกี่ยวกับการเงิน จะเป็นตัวแปรที่เข้ามามีบทบาทในด้านการจัดการการเงิน รวมถึงการกำหนดเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน สามารถบริหารพัฒนา กลยุทธ์เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับคุณ
ยกตัวอย่างเช่น เวลาเราจะสร้างบ้านอาคารหรือแม้กระทั่งเครื่องจักร ล้วนแต่ต้องมีเอกสารที่ชื่อว่าว่าพิมพ์เขียว เพราะถ้าไม่มีเอกสารนี้ผู้รับเหมาจะสามารถสร้างบ้านออกมาให้มีคุณภาพได้ยังไง ถ้าคุณเป็นเจ้าของคุณจะอยากจ้าง อยากจ่ายเงินไหมครับ
เพราะในพิมพ์เขียวนั้นมีรายละเอียดที่สำคัญ เช่น ขนาด สัดส่วน วัสดุก่อสร้าง รวมไปถึงการจัดวาง และขั้นตอนการก่อสร้างหรือผลิต ถึงคุณจะย้ายไปที่ไหนถ้ามีพิมพ์เขียวนี้ไปด้วยผู้รับเหมาก็จะสามารถสร้างบ้านให้คุณออกมาได้เหมือนเดิม การเงินก็เช่นกันถ้าคุณมีพิมพ์เขียวบิดเบี้ยวหรือไม่ดีขยันอย่างไรผลลัพธ์ก็ออกมาแย่ครับ
ถ้าคุณเป็นคนที่อยากลุกขึ้นมาเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาฐานะการเงินให้ดีขึ้น คุณต้องเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการเงินใหม่ แต่สิ่งที่เป็นปัญหาหรือพบบ่อยในคนส่วนใหญ่เค้าไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังมีมุมมองต่อเงินแบบผิดๆ จึงพยายามผลักเงินออกจากตัวเองอยู่ตลอดเวลาโดยไม่รู้ตัว
แล้วก็สงสัยว่าทำไมทำงานหนัก ทำตามโค้ดคนนั้นคนนี้สอนแล้วทำไมไม่สำเร็จ ไม่เติบโตสักที ผมเชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาบ้างแล้วไม่ว่าจากคนอื่นหรือเจอมากับตัวเอง
แล้วคุณล่ะครับกำลังมองเงินอย่างไร แน่นอนครับถ้าเราได้ยินคำถามนี้เราก็ต้องตอบไปใน ทิศทางเดียวกันชอบเงินอยู่แล้ว อยากรวยอยู่แล้ว ใครจะพังเงินออกจากตัวเองกัน แต่พอลองทำแบบฝึกหัดก็รู้ทันทีว่าคุณไม่ได้ชอบเงินขนาดนั้น ดังนั้นวันนี้เราจะมาทำแบบทดสอบกันว่าคุณมีพิมพ์เขียวการเงินที่ดีหรือไม่
ให้คุณลองให้คะแนนประโยคเหล่านี้ดูว่าเต็ม 10 ควรจะได้สักเท่าไหร่ เห็นด้วยมากให้เต็ม 10 ไม่เห็นด้วยอย่างมากให้ศูนย์
1. คนรวยโลภ
2. คนรวยโกง
3. คนรวยเอาเปรียบ
4. คนคนเราจะมีเงินได้ต้องมีเงินมาก่อน
5. เศรษฐกิจไม่ดียุคนี้รวยไม่ได้หรอก
6. คนรวยขี้อวด
เมื่อได้คำตอบทั้ง 6 ข้อแล้วนำคะแนนทั้ง 6 ข้อมารวมกันดูนะครับ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าผลลัพธ์ของแบบทดสอบนี้คำตอบคือศูนย์คะแนน ใช่ครับได้ยินไม่ผิด ถ้าใครไม่เป็นศูนย์ต้องจัดการเปลี่ยนมุมมองต่อเงินใหม่ทันที
คนรวยส่วนมากมีแนวโน้มตอบคำถามทั้งหกข้อแล้วได้คะแนนเป็นศูนย์ หรือไม่ก็มีแนวโน้มเข้าใกล้ศูนย์มาก ในขณะที่คนฐานะปานกลางกับคนจนกับรวมคะแนนเข้าใกล้ 60 เหตุผลที่เป็นเช่นนี้เพราะมุมมองความคิดหรือ mind set ของคนสองกลุ่มนี้ไม่เหมือนกัน
คุณอาจจะเคยเห็นคนรวยโกง คนรวยขี้อวด คนรวยขี้เอาเปรียบมาบ้างอ แต่อย่าลืมว่าคนจนหรือคนฐานะปานกลาง โกง โลภ ขี้อวด ก็มีนะ ในทางกลับกันค้นด้วยที่ดีดีแบ่งปัน บริจาคช่วยเหลือผู้อื่น คนรวยที่ใช้ชีวิตสมถะ ถ่อมตัว ไม่อวดก็เช่นกัน
วันนี้หากคะแนนของคุณยังไม่เข้าใกล้ 0 ก็ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะ mindset สามารถเปลี่ยนกันได้ โดยตัวช่วยที่ทำให้คุณปรับมุมมองได้ง่ายขึ้น คือ การมองหาหลักฐานและความเชื่อใหม่ใหม่ ที่พิสูจน์ว่าสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าเป็นจริง มันเป็นจริงได้ มันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว ตัวอย่างเช่นคนที่เขาประสบความสำเร็จ จากการพลิกชีวิตตัวเอง ซึ่งมีมากมายเลยในสังคมเรา
ตอนนี้ถึงเวลาแล้วครับ ถึงเวลาเปลี่ยนพิมพ์เขียวทางการเงินใหม่ แล้วก็เตรียมรอรับความเปลี่ยนแปลงที่จะตามมาได้เลย ขอแอบกระซิบเพิ่มเติมนิดหนึ่งว่า mind set ดีๆ ยังสามารถนำไปสร้างแรงบันดาลใจกับเรื่องอื่นๆ ได้อีกด้วย ไม่ใช่แค่เรื่องเงินเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น
1. ด้านการทำงาน
2.ด้านความสัมพันธ์
3. ด้านการพัฒนาตัวเอง
ด้านการทำงานก็จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการทำงาน ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ทุ่มเต็มที่มองเห็นโอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็น คิดบวกเมื่อต้องเผชิญกับอุปสรรค
ส่วนด้านความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณสร้างและรักษาความสัมพันธ์ให้แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครอบครัว คนรัก คนใกล้ตัวหรือแม้กระทั่งหัวหน้างาน
ส่วนด้านการพัฒนาตัวเอง จะทำให้คุณกล้าที่จะเสี่ยง กล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ใหม่ แม้ไม่มั่นใจ 100% เพราะคุณคิดว่าถึงผิดพลาดฉันก็ได้เรียนรู้ กล้าที่จะเผชิญหน้ากับความกลัว คนที่กล้าหาญจะเผชิญหน้ากับความกลัว หรือความไม่แน่นอน โดยไม่ให้มันขัดขวางการพัฒนาตัวเองหรือเป้าหมายในชีวิต
ไม่หยุดที่จะเรียนรู้ มองการเรียนรู้เป็นกระบวนการตลอดชีวิต คุณจะไม่กลัวความล้มเหลวและพร้อมที่จะปรับตัวตามสถานการณ์ใหม่ๆ ตั้งเป้าหมายทำตามแผนอย่างมีระเบียบวินัย บริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี เห็นไหมล่ะครับมีแต่ข้อดีเต็มไปหมดแค่คุณมี mind set หรือทัศนคติที่ดี ไม่ว่าเรื่องการเงินการงานความสัมพันธ์ก็จะดีขึ้นตามลำดับอย่างแน่นอน จบครับ
ผมหวังว่าคุณผู้ฟังจะได้อะไรดีๆจากบทความนี้ ก่อนอื่นเลยต้องขอขอบคุณที่ทนอ่านมาจนถึงตอนนี้ ถ้าหากคุณชอบบทความนี้หรือคิดว่ามันมีประโยชน์ต่อคนอื่น ก็ฝากกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
