เจาะลึก 5 แนวทาง AI First คู่มือปรับธุรกิจ SME รับเทรนด์ 2025 พร้อมตัวอย่างความสำเร็จ
ทั่วโลกได้ก้าวสู่ยุคที่ “ปัญญาประดิษฐ์” หรือ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินชีวิตประจำวัน เริ่มตั้งแต่ตื่นนอน ทุกคนใช้สมาร์ทโฟน และแอปลิเคชันต่าง ๆ ที่มี AI เป็นองค์ประกอบ เช็ค email ค้นหาข้อมูล สอบถามเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านแชทบอต ไปจนถึงการออกกำลังกาย การเข้านอน
บางคนยังใช้สมาร์ทวอร์ชตรวจสอบระยะการเดิน เวลาการนอน ประสิทธิภาพการนอน จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า AI มีบทบาทสำคัญมาก เปรียบเสมือน “ผู้ช่วย”คนหนึ่งเลยทีเดียว เทรนด์นี้ถูกเรียกว่าเป็น ยุค AI ต้องมาก่อน หรือ AI First
ความก้าวล้ำของเทคโนโลยี AI ทำให้ถูกนำไปประยุกต์ใช้ในทุกองค์กร โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่ต่างเผชิญการแข่งขันอย่างรุนแรง หากผู้ประกอบการรายใดสามารถนำ AI มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพสร้างจุดแข็งให้กับธุรกิจได้ก่อน ย่อมถึงเส้นชัยก่อน
ขณะที่ในฝั่งของประเทศไทย ข้อมูล Amity Solution เมื่อเดือนสิงหาคม 2024 ระบุว่า ไทยมีสตาร์ทอัปด้าน AI ประมาณ 300 แห่ง ซึ่งระดมทุนได้ประมาณ 1,500 ล้านบาท มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้าน AI ในตลาดประมาณ 1,000 คน
สะท้อนภาพชัดว่า ไทยตื่นตัวเรื่อง AI มากขึ้น แล้วหากองค์กรไหนเริ่มใช้ก่อนก็จะเพิ่มความได้เปรียบ
โดยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้ AI ปี 2024 ความคิด ความเข้าใจที่มีต่อ AI ของ BBDO Bangkok (บีบีดีโอแบงคอก) บริษัทเอเจนซี่โฆษณา ซึ่งได้สำรวจกลุ่มตัวอย่างประชากร 400 คน ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองหลัก พบว่า คนไทย 73.84% ได้ใช้ประโยชน์จาก AI ในชีวิต ด้วยเหตุผลว่า AI ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ช่วยประหยัดเวลา และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีขึ้น
การเติบโตของ AI โดยเฉพาะ Generative AI ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกธุรกิจทั่วโลก และประเทศไทยก็กำลังก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงตามเทรนด์ AI-First Business Model หรือ คนจะต้องคิดถึงเอไอเป็นอันดับแรก
Value จากสิ่งที่ AI ทำ
ยกตัวอย่าง Generative AI คือ ปัญญาประดิษฐ์รูปแบบหนึ่ง ที่สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาหรือคอนเทนต์ใหม่ ๆ ขึ้นมาได้ตามการเขียนป้อนความต้องการหรือคำสั่งของผู้ใช้งาน จึงเป็นโอกาส ต่อธุรกิจให้สามารถสร้างเนื้อหาข้อมูลที่เป็นเอกลักษณ์และมีความน่าสนใจได้อย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคได้หลากหลายขึ้น ด้วยการใช้ประโยชน์จาก Generative AI
ข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำ McKinsey & Company ระบุว่า การใช้ Generative AI จะช่วยลดระยะเวลา และลดขั้นตอนในการทำงานที่ซ้ำซ้อนของแรงงานและบุคลากรในองค์กร ซึ่งจะส่งผลให้ภาคธุรกิจดำเนินกิจการอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งยังมีการคาดการณ์ว่า Generative AI จะสร้างมูลค่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ให้เติบโตอยู่ที่ 2.6 – 4.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และตลาดโลกของธุรกิจด้าน Generative AI คาดว่าจะมีอัตราเติบโตเฉลี่ยที่ร้อยละ 46.47 ต่อปีในช่วงปี 2567-2573
หรือเขียนคำสั่งที่ควบคุมการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ โดยหนึ่งใน Generative AI ที่บุคคลรวมถึงภาคธุรกิจรู้จักและนิยมนำมาใช้อย่างแพร่หลายคือ ChatGPT ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI ที่สามารถโต้ตอบผ่านการป้อนคำสั่งของผู้ใช้งานได้ทันที
หรือ ธุรกิจโรงแรม Hilton Hotel ใช้ AI ช่วยอำนวยความสะดวกกับผู้ใช้บริการห้องพัก เพื่อเรียนรู้ความชอบและสามารถให้คำแนะนำได้อย่างเป็นประโยชน์มากที่สุด เป็นต้น
4.Predictive Analytics & Decision Making หมายถึง การใช้ AI ในการวิเคราะห์ พยากรณ์ข้อมูลที่ช่วยในการตัดสินใจให้กับองค์กร แน่นอนว่าการพยากรณ์โดย AI ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพ เพราะใช้ข้อมูล อัลกอรึทึมทางสถิติ รวมถึงอุปกรณ์ Machine Leaning ต่าง ๆ มาช่วยอย่างรอบด้าน
ยกตัวอย่าง เช่น ระบบ Real Time Intelligence ของ Microsoft ซึ่งนำมาช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น ด้วยข้อมูลเชิงลึกที่อัปเดทตลอดเวลา เป็นต้น
มาถึงจุดนี้ หลายธุรกิจคงเริ่มมองเห็นภาพแล้วว่า เทรนด์ AI ในปี 2025 จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มจะพัฒนาให้ก้าวล้ำตอบโจทย์การทำงาน จึงเป็นสิ่งที่ธุรกิจเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องปรับตัว โดยเริ่มจาก จะต้องมีการกำหนดเป้าหมายการใช้ AI ให้ชัดเจน การเตรียมความพร้อมองค์กร ทั้งในด้านข้อมูล บุคลากร และงบประมาณ การเลือกใช้ AI ให้สอดรับกับเป้าหมาย
และสุดท้ายต้องไม่ลืมที่จะต้องติดตามและประเมินผลการใช้ AI หากทำได้สำเร็จ เชื่อมั่นได้เลยว่า ผู้ช่วย AI จะทำให้ธุรกิจของคุณจะเติบโตอย่างยั่งยืนแน่นอน