3 ธ.ค. 2024 เวลา 06:58 • ประวัติศาสตร์

เหรียญบาทตราครุฑ 2517 : จากเงินตราสู่เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์

เหรียญบาทครุฑ 2517: จากเงินตราสู่เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ ปกป้อง คุ้มครอง เรียกทรัพย์!"
เหรียญบาทตราครุฑปี 2517 เป็นหนึ่งในเหรียญที่เต็มไปด้วยตำนานและความเชื่อทางจิตวิญญาณที่ฝังรากลึกในวัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะความศักดิ์สิทธิ์ของสัญลักษณ์ครุฑที่เป็นตราแผ่นดินและบารมีของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ทรงเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนตลอดระยะเวลาที่ครองราชย์ เหรียญนี้ไม่เพียงแต่ถูกใช้ในการซื้อขาย แต่ยังถือเป็นวัตถุมงคลที่มีพลังปกป้องคุ้มครองและนำโชคลาภมาสู่ผู้ที่พกติดตัว
ครุฑ: สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์และพลังแห่งการปกป้อง
ครุฑเป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจ ความกล้าหาญ และการคุ้มครอง ซึ่งไม่เพียงแต่ปรากฏบนเหรียญบาทตราครุฑปี 2517 แต่ยังมีบทบาทในวัฒนธรรมไทยมายาวนาน ชาวไทยโบราณเชื่อว่าเหรียญตราครุฑสามารถป้องกันสิ่งชั่วร้ายและอาถรรพ์ต่าง ๆ รวมถึงการขับไล่วิญญาณร้าย การพกเหรียญนี้ไว้ติดตัวจึงเป็นเสมือนเกราะป้องกันภัย โดยเฉพาะในหมู่พรานป่าที่ต้องเดินทางเข้าป่าลึก มักพกเหรียญนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกผีป่าหรือสิ่งลี้ลับทำร้าย นอกจากนี้ยังเชื่อว่าเหรียญตราครุฑช่วยเสริมโชคลาภให้กับผู้ครอบครอง ให้พบกับความสำเร็จในทุกสิ่งที่ทำ
ส่วนความเชื่อในตัวเลขของปี พ.ศ. 2517 ใช้หลักเลขศาสตร์ของดวงดาว ตัวเลขเหล่านี้ แทนดวงดาวได้ด้วย จับคู่แรก 2 กับ 5 คือคู่ธาตุดิน และ 1 กับ 7 เป็นคู่ธาตุไฟ และเหรียญกลม เป็นธาตุลม วัสดุเหรียญที่ทำ เป็นนิกเก้ล เกิดจากการหลอมเหลวของโลหะมีธาตุน้ำแฝงอยู่ จึงจัดได้ว่า เป็นเหรียญ ธาตุครบ มีพลังพุทธคุณสูง
ความเชื่อเรื่องเทวดาคุ้มครองในเงินตรา
คือ พระคลังมหาสมบัติ: เทวดาผู้คุ้มครองเงินทองของไทย
ในความเชื่อของชาวไทย ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับพระคลังมหาสมบัติ ซึ่งเป็นเทวดาผู้คุ้มครองทรัพย์สินและความมั่งคั่งของชาติ โดยเฉพาะในสมัยโบราณ ผู้เฒ่าผู้แก่หลายท่านเชื่อว่าในทุกเหรียญหรือธนบัตร มีเทวดาผู้คุ้มครองอยู่ จึงต้องให้ความเคารพนับถือเมื่อได้รับเงิน ไม่ว่าจะเป็นเหรียญบาทตราครุฑหรือเงินในรูปแบบอื่น ๆ ผู้สูงอายุจะยกมือไหว้เงินและบูชาเงินด้วยคำพูดที่ว่า "เงินนี้ได้มาด้วยการทำงานสุจริต ขอความร่ำรวยมีกินมีใช้ ขอให้บารมีในหลวงและเทวดาคุ้มครอง"
การยกมือไหว้เงินถือเป็นการแสดงความเคารพต่อทรัพย์สินที่ได้รับมา ซึ่งเป็นแนวคิดที่สะท้อนถึงความเชื่อว่าการได้มาของเงินควรมาจากการทำงานสุจริตและการปฏิบัติตนอย่างถูกต้อง จึงทำให้เทวดาและพระคลังมหาสมบัติคุ้มครองชีวิตให้อยู่เย็นเป็นสุข เงินทองที่ได้มาจะเป็นเงินที่พอเพียง มีความสุขในชีวิตประจำวัน
ความเปลี่ยนแปลงหลังยุคโควิด: เมื่อเงินสดถูกแทนที่ด้วยเงินดิจิตอล
อย่างไรก็ตาม ในยุคหลังโควิดที่ระบบการเงินดิจิตอลเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ค่านิยมเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของเงินสดเริ่มลดลง การใช้ระบบโอนจ่ายผ่านแอปพลิเคชันหรือการชำระเงินผ่านบัตรทำให้ผู้คนพกเงินสดน้อยลง ความเชื่อที่ว่าเงินทุกบาทมีเทวดาคุ้มครองหรือต้องยกมือไหว้เงินเมื่อได้รับจึงเริ่มเลือนหายไป ความเคารพในเงินเริ่มถูกแทนที่ด้วยการมองเงินเป็นเพียงสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนและเป็นแค่ตัวเลขในบัญชี มากกว่าจะเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องบูชาและนับถือ
บทวิเคราะห์: การเปลี่ยนแปลงของความเชื่อและการตีความใหม่
การเปลี่ยนแปลงนี้อาจสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีทำให้เราสามารถโอนเงินได้อย่างง่ายดาย ทำให้ค่านิยมและความเชื่อทางจิตวิญญาณเกี่ยวกับเงินเริ่มลดความสำคัญลง แต่ถึงกระนั้น ในบางกลุ่มของสังคม โดยเฉพาะผู้ที่ยังเชื่อในพลังแห่งครุฑหรือบารมีในหลวง รัชกาลที่ 9 ก็ยังคงพกเหรียญบาทตราครุฑปี 2517 เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลอยู่เช่นเดิม
บทสรุป: ความเชื่อในยุคใหม่ที่เชื่อมโยงอดีตและปัจจุบัน
แม้ว่าค่านิยมในการเคารพและบูชาเงินจะลดลงตามการพัฒนาเทคโนโลยี แต่ความเชื่อเกี่ยวกับเหรียญบาทตราครุฑปี 2517 ก็ยังคงอยู่ในบางกลุ่มของสังคม การพกเหรียญนี้ติดตัวเป็นสัญลักษณ์ของการคุ้มครองและโชคลาภยังคงเป็นสิ่งที่ผู้คนเชื่อและปฏิบัติกันอยู่ แม้โลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร ความศักดิ์สิทธิ์ของเงินในฐานะเครื่องรางที่ปกป้องและนำพาชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองยังคงมีที่ยืนในใจของคนไทย
รับฟังเสียงบรรยายโดย #อาร์ตแมวแดง ได้ที่ลิ้งค์
โฆษณา