Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ชลมณี
•
ติดตาม
7 ธ.ค. 2024 เวลา 06:54 • หนังสือ
แฟนสาวสุดขอบโลก
ผมเคยอ่านแต่เรื่องยาวอย่างนิยาย แต่เรื่องสั้นเกาหลียังไม่เคยอ่านมาก่อน ด้วยความอยากรู้ว่าอารมณ์ของเรื่องสั้นเกาหลีจะออกแนวไหน พอดีเห็นภาพปกเล่มนี้และชื่อที่น่าสนใจ อีกทั้งระบุว่าเป็นรวมเรื่องสั้นด้วย เมื่อดูคิวจองปรากฏมีคนต่อคิวน้อยมาก แบบนี้ยิ่งชอบไม่ต้องรอนาน รีบกดตกลงเมื่อสัปดาห์ก่อน แล้วไม่กี่วันถัดมาก็ได้มาอยู่ในชั้นหนังสือ แต่ต้องรีบอ่านเพราะมีเวลาแค่ 7 วัน
ที่สำคัญอ่านแบบเล่มเรื่องอื่นค้างไว้ จึงต้องทำเวลาอย่างมากก่อนจะหมดโควต้ายืมและหนังสือเด้งคืนกลับเข้าระบบ ดังนั้นขอยอมรับว่าเล่มนี้อาจจะไม่ได้อ่านอย่างละเลียดบรรจง แต่อ่านชนิดมองไว ๆ อย่างจับใจความ จึงอาจจะไม่ได้สัมผัสลึกถึงเนื้อหาอย่างแท้จริงที่ผู้เขียนต้องการสื่อสาร จึงขอสารภาพไว้ก่อนตั้งแต่ตอนนี้ครับ
#แฟนสาวสุดขอบโลก
สนพ.ฟูริน
คิมยอนซู เขียน
สุมาลี สูนจันทร์ แปล
280 หน้า 275 บาท
9 เรื่อง ซึ่งมีทั้งเรื่องสั้น เรื่องสั้นขนาดกลาง และเรื่องสั้นขนาดยาว หรือบางทีจะเรียกเป็นนิยายขนาดสั้นก็ได้
1 เพรียกขานชื่อของเคเค
เรื่องราวของหญิงสูงวัยชาวต่างชาติคนหนึ่งซึ่งมีรักฝังใจกับเพื่อนชายชาวเกาหลีที่อายุน้อยกว่าตนมาก ซึ่งรู้จักกันตั้งแต่ครั้งที่ฝ่ายชายได้ย้ายไปอยู่ที่อเมริกา แต่มีเหตุที่เขาจากไปก่อนวัยอันควร ทำให้เธอขึ้นเครื่องบินมายังเกาหลีใต้ ประเทศที่ตนไม่เคยเหยียบแผ่นดินมาก่อนเลยสักครั้งในช่วงชีวิต เพื่อเข้าร่วมประชุมงานนักเขียนและมารำลึกถึงชายคนรัก
เมื่อถึงสนามบินเธอขอให้ล่ามส่วนตัวขับรถพาไปยังเมืองที่คาดว่าเป็นบ้านเกิดของคนรัก ทว่าเธออาจจะจำชื่อภาษาเกาหลีผิด ทำให้ล่ามสาวพาไปผิดที่ สุดท้ายแล้วเธอจะตามหาหัวใจตนเองที่ทำหายไปได้หรือไม่
2 สิ่งผ่านพ้นที่น่าจดจำ
สาวน้อยวัย18 ที่กำลังรู้สึกต่อต้านแม่ตัวเองรวมถึงครอบครัวเพื่อนแม่ที่มีลูกชายวัยเดียวกับเธอ ซึ่งทั้งสองครอบครัวตกลงใจกันที่จะพาลูกมาพักผ่อนสมองเที่ยวชายทะเล ก่อนจะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัย หนุ่มน้อยลูกชายอีกฝ่ายก็พยายามเข้าหาเธอด้วยหวังจะมีความสัมพันธ์ทางเพศด้วย เธอรู้สึกอยากหนีออกจากโลกที่ตนเผชิญอยู่ ไม่อยากเป็นตุ๊กตาที่ให้แม่จับแต่งสวยอีกต่อไป จังหวะพอดีกับที่มีนักดนตรีวงหนึ่งมาเปิดการแสดงที่ริมหาดซึ่งเธอไปพบเจอเข้า
ขณะไปเดินชมบรรยากาศยามค่ำ ระหว่างหนุ่มน้อยอ่อนหัดที่ขอเธอแต่งงานแบบทื่อทึ่ม กับหนุ่มฉกรรจ์วัยเลขสามขึ้นนำ ที่มาเล่นดนตรีแล้วเกิดต้องตาต้องใจในรูปร่างอันได้สัดส่วนของเธอเข้า เธอจะเลือกทางของตนอย่างไรต่อไป
3 แฟนสาวสุดขอบโลก
ชายหนุ่มคนหนึ่งได้เห็นบางส่วนของเนื้อหาในบทกวีที่เขาชื่นชอบ แปะอยู่บนบอร์ดประกาศข่าวของทางห้องสมุดที่ไปใช้บริการ และต่อมาจากจุดเริ่มเล็ก ๆ นั้น ได้กลายเป็นแหล่งรวมคนที่ชื่นชอบในเรื่องของบทกวีให้มาจับกลุ่มเป็นชมรมขึ้น เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความชื่นชอบในบทกวีต่าง ๆ ซึ่งมีคนจากหลากหลายอาชีพในกลุ่มที่มีอยู่ 20 กว่าคน และมีหลายช่วงอายุตั้งแต่วัยหนุ่มสาว กลางคนไปจนสูงอายุ
ในที่สุดเขาตัดสินใจเข้าร่วมในชมรม ด้วยเรื่องราวประสบการณ์ที่เคยพานพบและเก็บไว้ในใจเป็นแรงผลักดัน วันหนึ่งในวงสนทนา คุณยายคนหนึ่งซึ่งเป็นเหมือนผู้ดำเนินรายการ ได้เอ่ยถามเขาว่ามีบทกวีที่อยากจะนำมาเล่าให้เพื่อนในชมรมฟังบ้างไหม และนั่นคือการเริ่มดึงเอาเรื่องราวในอดีตของเขาออกมา ความประทับใจในหนังสือเล่มหนึ่งที่เขาเคยอ่านที่มีชื่อว่า แฟนสาวสุดขอบโลก และที่มาของเรื่องราวเบื้องหลังหนังสือนี้ มีอะไรมากมายเกินกว่าที่เราจะนึกไปถึง
4 ตอนที่พวกคุณอายุครบสามสิบ
ความเจ็บปวดของสาวเกากลีใต้คนหนึ่ง ซึ่งเธอเคยมีชีวิตครอบครัวชั่วระยะเวลาหนึ่ง ทั้งคู่ตกลงกันที่จะเก็บเงินรวบรวมให้ได้ก้อนใหญ่เพียงพอ ที่จะได้ไว้ฉลองด้วยกันในคืนวันที่ทั้งคู่มีอายุมาจนครบรอบ 30 ปี แต่ทว่าเก็บเงินไปได้ไม่นาน ฝ่ายชายเริ่มไม่สนใจที่จะทำตามสัญญา เธอจึงเป็นคนเดียวที่ยังคงรวบรวมเงินต่อไป ด้วยการเพิ่มเงินเก็บด้วยเงินส่วนของเธอคนเดียวและเก็บแทนส่วนของแฟนด้วย
กระทั่งวันหนึ่งถึงจุดที่ไม่อาจทนสภาพที่อัดอั้นตันใจได้อีกต่อไปจึงบอกเลิกกับเขา ฝ่ายชายไปขับแท็กซี่หลังจากเลิกกับเธอ แถมยังมีแฟนใหม่แล้ววันหนึ่ง เธอกลับได้พบเจอเขาโดยไม่คาดคิดในขณะเรียกรถแท็กซี่ วินาทีนั้นใจของเธอเป็นเช่นไรนะ
5 สุขสันต์วันปีใหม่นะทุกคน
เรื่องของสามีคนหนึ่ง ซึ่งภรรยาไปทำงานแล้วฝากฝังสามีว่าจะมีเพื่อนของเธอ ที่เป็นชายหนุ่มชาวอินเดียมาพบที่บ้าน ให้ช่วยต้อนรับดูแลอย่างดีจนกว่าเธอจะกลับถึงบ้านในตอนค่ำ ด้วยเป็นวันสิ้นปีพอดี ฝ่ายสามีเกิดรู้สึกขึ้นในใจว่าทำไมภรรยาจึงต้องมีเพื่อนเป็นหนุ่มต่างชาติ แล้วมีความสนิทสนมกันแค่ไหน และเมื่อพบเจอกันก็จำใจเปิดประตูให้เขาเข้ามาในบ้านก่อน
ที่แท้แล้วชายคนนี้มาจากรัฐปัญจาบ นับถือซิกข์ พูดเกาหลีได้นิดหน่อย ทั้งคู่พยายามสื่อสารกันอย่างยากลำบาก จนทราบในที่สุดว่าภรรยาได้ขอให้เพื่อนคนนี้ช่วยมาปรับจูนเปียโนในบ้าน ที่แท้เขาเป็นต่างด้าวที่มาทำงานที่เกาหลี และเรียนภาษาจากเธอ ทั้งคู่แลกเปลี่ยนสอนภาษาให้กันและกัน แต่ทำไมจึงได้มาปรับจูนเปียโนให้ ยังมีเบื้องหลังที่น่าสนใจของมิตรภาพกับความทรงจำที่ซ่อนอยู่ของที่มาเปียโนหลังนี้
6 ฉันอยากลาพักร้อน
เรื่องราวของบรรณารักษ์ในห้องสมุดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีความสงสัยใคร่รู้ในประวัติและที่มาของชายแก่นิรนาม ที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมาในเมือง ซึ่งไม่ใช่ที่ที่เขาอยู่ เขาเพียงมากบดานหลบซ่อนตนเองจากความหลังฝังใจในอดีตอันน่าเจ็บปวด ครั้งที่ตนยังประกอบอาชีพเจ้าหน้าที่สืบสวน โดยตั้งแต่มาอยู่ที่เมืองนี้ ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลยนอกไปจากมาอ่านหนังสือที่ห้องสมุดทุกวัน ตั้งแต่เปิดทำการจนถึงปิดทำการเป็นเวลายาวนานกว่า 10 ปี เพื่อต้องการค้นข้อมูลว่ามีวิธีการที่จะคืนชีพคนที่ตายแล้วให้กลับฟื้นขึ้นอีกครั้งได้หรือไม่
7 ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ไม่ว่าคุณจะเหงาเพียงใด
หญิงวัยทำงานคนหนึ่งซึ่งมีชีวิตครอบครัวที่ไม่ลงตัวนัก มีลูกเล็ก และจิตใจกำลังไม่ปกติ เธอได้รับคำขอร้องให้เขียนเกี่ยวกับผลงานภาพถ่ายของศิลปินชายคนหนึ่ง ซึ่งทั้งชีวิตของเขาตระเวนเดินทางไปถ่ายภาพตามสถานที่ต่าง ๆ มามากมาย ทว่าที่ผ่านมาภาพของเขาจะเกี่ยวข้องกับบุคคล และมักจะถ่ายออกมาให้ไม่คมชัดอันเป็นเจตนาที่ไม่อาจเข้าใจได้
ทว่าภาพถ่ายสุดท้ายของเขากลับเป็นภาพฝูงนกกระเรียนที่สถานที่แห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น เธอยอมรับงานนี้ทั้งที่ไม่เคยรู้จักศิลปินมาก่อน ด้วยเหตุผลพิเศษบางอย่างอันเกี่ยวข้องกับความทรงจำในอดีตของตน ในที่สุดเธอตัดสินใจเดินทางไปยังสถานที่ที่เป็นที่มาของภาพ เพื่อไปตามหาแรงดลใจ ที่อาจทำให้เข้าใจความรู้สึกของศิลปินในห้วงเวลานั้น
8 อเล็กซ์เอ๋ยอเล็กซ์ จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
ชายคนหนึ่ง ซึ่งใช้ชีวิตท่องเที่ยวไปตามที่ต่าง ๆ ในแถบยุโรป เขาเขียนทั้งบทความ หนังสือ และอื่น ๆ วันหนึ่งขณะอยู่ระหว่างการพักผ่อนในสถานที่ท่องเที่ยว เขาได้พบกับหญิงสาวซึ่งตนรู้สึกถูกใจ มีอะไรบางอย่างในตัวเธอที่เขาคิดว่าน่าจะเข้าได้กับเขา ดังนั้นจึงชักชวนให้เธอร่วมเดินทางไปด้วยกัน แล้วจะสามารถทำเงินเป็นจำนวนมาก ฝ่ายหญิงไม่ค่อยชอบเขาเท่าไรนัก แต่ก็ยอมร่วมทางไปด้วยอย่างงง ๆ จนทั้งสองได้ไปพบกับชายมีอายุคนหนึ่งที่น่าจะเป็นผู้ไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน
เมื่อชายหนุ่มเสนอให้เขาทราบเกี่ยวกับงานที่ตนทำในฐานะนักเขียน ชายสูงอายุสนใจอย่างมาก และต้องการให้เขาทำนิตยสาร ที่เล่าเรื่องราวชีวิตของตนเองในอดีตที่อยู่ในความทรงจำลงไปในนั้น จึงจ้างให้ชายหนุ่มเขียนต่อเนื่องเป็นเรื่องยาวลงเป็นเรื่องประจำ แล้วในเรื่องเล่าที่ชายสูงอายุบอกให้ฟังนั้น มีอะไรที่เป็นสาเหตุทำให้เขาไม่ยอมปล่อยวางบ้างหรือ
9 ดาราตลกผู้ไปสู่ดวงจันทร์
หนุ่มคนหนึ่งได้รับเชิญไปร่วมงานเลี้ยงของรุ่นพี่สาวในสมัยเรียน ทำให้เขาได้รู้จักกับเพื่อนสาวของรุ่นพี่ ที่ทีแรกก็ไม่ได้มีอะไร แต่แล้วทั้งคู่ก็เกิดรู้สึกได้ถึงประจุไฟฟ้าที่วิ่งในตัว จากหัวข้อสนทนาธรรมดาทั่วไป ที่พอดีเขากล่าวถึงเรื่องนักกีฬาชกมวยชายที่เสียชีวิตจากภาวะสมองตาย ซึ่งเป็นนักชกเกาหลีที่เคยมีอดีตเป็นนักแสดงตลก เขามาทราบภายหลังจากวันนั้นว่านักชกที่ตายคือพ่อของเธอ ต่อมาทั้งคู่ได้คบหาและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันระยะเวลาหนึ่งก่อนที่เธอจะขอแยกทางจากไป
เธออยากให้เขานำเรื่องราวความเจ็บปวดของพ่อมาเขียนเป็นนิยาย เขาไม่เคยทราบเหตุผลแท้จริงที่เธอต้องการให้เขาเขียน ซึ่งเธอเองก็มีเรื่องที่ต้องแบกรับความทุกข์ทรมานจากเรื่องในอดีตของพ่อ ความเจ็บปวดที่กระทั่งตัวเองยังเคยไม่เข้าใจมาก่อน
เป็นหนังสือที่คาดว่าไม่ใช่แนวที่นักอ่านส่วนใหญ่ในไทยจะชื่นชอบได้โดยง่ายครับ ค่อนข้างเงียบมาก ทั้งที่เพิ่งพิมพ์ออกมาขายเมื่อ เม.ย. 2024 นี้เอง หาคนซื้ออ่านน่าจะน้อยมาก สังเกตจากแทบไม่พบการรีวิวหรือคนที่แสดงความเห็นเกี่ยวกับเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ในโลกโซเชียล นั่นบอกโดยนัยว่าไม่เป็นที่ต้องตาต้องใจในตลาดนัก ซึ่งหลังจากอ่านแล้วก็พอเข้าใจได้
เพราะเป็นงานที่เล่าประเภทเน้นการบรรยายเยอะ มีบทสนทนาบ้างแต่ไม่มาก บางเรื่องแทบจะมีแต่บทบรรยาย ซึ่งเขาก็เขียนได้ดีนะ คนแปลก็ทำหน้าที่ได้ดี แต่คงไม่เป็นที่ถูกใจคนไทยเท่าใด เหตุเพราะไม่ใช่แนวเรื่องสั้นชนิดหักมุมจบ ไม่ฉับไว ไม่กระตุ้นเร้าให้ใจสั่นไหวด้วยความรู้สึกสนุกสนานหรือตื่นเต้นตกใจโดยง่าย แต่เป็นเรื่องสั้นประเภท ค่อย ๆ เล่าไปเรื่อย ๆ เหมือนบ่อน้ำซับที่ซึมผ่านทรายขึ้นมา
ถ้าเปรียบกับการทดลองทางวิทยาศาสตร์ก็คงเข้าเงื่อนไขเรื่องการแพร่และออสโมซิส คนอ่านจะซึมซับความเข้าใจในความคิด ความรู้สึกของตัวละครในแต่ละตอนไปทีละน้อย ถ้าเพียงแค่อ่านเฉย ๆ แต่ไม่ใคร่ครวญตามความหมายแฝงที่หลบซ่อนอยู่ อาจจะอ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง หรือเข้าใจได้ยากจนเกิดการเบื่อและท้อไปซะก่อน ที่จะได้เข้าถึงความลึกของเนื้อเรื่อง บางทีอาจต้องอ่านซ้ำมากกว่าหนึ่งครั้งต่อหนึ่งเรื่อง แล้วจะมองเห็นในสิ่งที่รอบแรกมองไม่เห็น เลยไม่เอนจอย
ทว่าเรื่องสั้นแนวนี้เขียนไม่ง่ายนะในความคิดของผม แล้วก็อ่านไม่ง่ายเช่นกัน ต้องอาศัยความเป็นนักอ่านที่ผ่านงานเขียนแนวเรื่องสั้นมามากและยาวนานพอสมควร จะพอเข้าใจและอินไปกับสิ่งที่ผู้เขียนเล่าได้ และซาบซึ้งดื่มด่ำในรสของวรรณกรรมอย่างสูง จึงไม่แปลกใจนักที่ สนพ.จะโปรยปกหลังด้วยรางวัลที่ผู้เขียรได้รับจำนวนมาก เพื่อเป็นสิ่งยืนยันว่างานเขียนชิ้นนี้มีคุณค่าไม่ธรรมดา แต่บางทีมันก็เหมือนดาบสองคมนะ
เพราะการที่นักเขียนได้รับรางวัลหรือยกย่องจากนักวิจารณ์ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเขียนเรื่องได้ถูกใจนักอ่านเสมอไป หลายครั้งคนอ่านก็เพียงต้องการอะไรที่ย่อยง่าย เน้นบันเทิงที่ไม่ต้องมาคิดวิเคราะห์มากมาย ดังนั้นเท่าที่เคยเห็นมา หนังสือที่ผู้เขียนมือรางวัล หนังสือดี หนังสือแนวออกฤทธิ์ช้า มักจะขายขาดทุน
แต่เล่มนี้น่าสนใจนะ สำหรับนักอ่านที่ชอบแนวเรื่องสั้นแบบเล่าเรียบ ๆ ไม่มีจุดสูงสุดที่ชัดเจน แต่ใช้การพรรณนาโวหารบรรยายฉาก ความรู้สึกของตัวละคร แต่ก็ไม่บอกหมด ให้ไปตีความคาดเดาต่อเอาเอง จบแบบเหมือนยังไม่จบ จนเอ๊ะนี่จบแล้วจริงหรือ สำหรับคนที่อยากเรียนรู้การเป็นนักเขียน ถ้าได้อ่านงานลักษณะนี้ถือได้ว่าเป็นการเรียนรู้ที่ได้ประโยชน์มากทีเดียว
ถ้าถามว่าชอบไหม ขอตอบว่าก้ำกึ่ง ไม่ถึงกับชอบแต่ก็ไม่รู้สึกเสียดายเวลาที่ได้อ่านครับ
ที่สำคัญท้ายเล่มมีบทวิจารณ์ของนักเขียนคนอื่น ที่เขียนวิเคราะห์ถึงงานของผู้เขียนคนนี้ในเล่ม และเพิ่มเติมสารจากผู้เขียน ที่จะทำให้ผู้อ่านได้รับทราบถึงแนวคิดในการเขียนงานแต่ละตอนของผู้เขียนได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งมีสาระน่าศึกษาอย่างมาก
2 บันทึก
2
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย