13 ธ.ค. 2024 เวลา 11:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

วิธีรับมือเศรษฐกิจย่ำแย่ที่ทุกคนเริ่มได้ตั้งแต่วันนี้!

หลักการเงินส่วนบุคคลสำหรับ ‘เตรียมพร้อมรับมือพายุชีวิต’
ในช่วงท้ายปีแบบนี้ หลายคนเริ่มรู้สึกถึงลมพายุที่พัดมาพร้อมกับเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนจากข่าวต่างๆ ทั้งการคาดการณ์ของสถาบันทางการเงินที่ออกมาคาดการณ์ว่า GDP ในปีหน้าจะต่ำ ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงขึ้น รายได้ลด ค่าครองชีพสูง งานประจำไม่มั่นคง
1
แต่แทนที่จะปล่อยให้ปัญหาพัดพาชีวิตเราไป เราสามารถเลือกที่จะ “เตรียมตัวให้พร้อม” และยืนหยัดอย่างมั่นคงในพายุนี้
วันนี้ aomMONEY ขอแนะนำ 8 วิธี ที่จะช่วยคุณรับมือเศรษฐกิจแย่ๆ ด้วยหลักการเงินส่วนบุคคลที่ใช้กันบ่อยๆ เพื่อวางแผนการเงินให้มั่นคงขึ้น มาเริ่มกัน
1. จัดลำดับการออม
หลายคนเข้าใจความสำคัญของการออม แต่ภาพของการออมเงินในหัวยังไม่ชัดและยังไม่แน่ใจว่าควรจะเริ่มต้นยังไง วิธีที่ง่ายที่สุดคือการจัดลำดับความสำคัญของเงิน ดังนี้
- ออมเพื่อเก็บเงินฉุกเฉิน อย่างน้อย 3-6 เท่าของรายจ่ายรายเดือน
- ออมผ่านสิทธิที่มีอยู่ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) หรือประกันสังคม
- ออมลงทุนเพื่ออนาคต เช่น RMF/SSF หรือประกันชีวิตเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี
- ออมปลดหนี้ดอกเบี้ยสูง ก่อนที่ดอกเบี้ยจะกัดกินเงินในอนาคตของคุณ
2. เขียนแผนการเงินออกมาให้ชัดเจน (ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีต่อเดือนเท่านั้น)
เดฟ แรมซีย์ (Dave Ramsey) ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินได้ให้คำแนะนำนี้เพื่อช่วยผู้คนนับล้านให้หลุดพ้นจากหนี้มากว่า 25 ปี เขาทำแบบนี้มา 25 ปีแล้ว และวิธีนี้ก็ได้ช่วยให้ผู้คนหลายสิบล้านคนปลดหนี้ได้ วิธีการทำคือการวางแผนเป็นลายลักษณ์อักษร มีอยู่ 3 สเต็ปด้วยกัน
- 1. จัดสรรรายรับและรายจ่ายของคุณอย่างละเอียด
- 2. พยายามไม่ใช้จ่ายอะไรที่นอกเหนือจากที่วางแผนไว้
- 3. กล้าเผชิญหน้ากับตัวเลขของฟุ่มเฟือยที่เราใช้แบบไม่รู้ตัว
3. สร้างนิสัยการเงินที่ดีเล็กๆ เสมอ
เป้าหมายทางการเงินที่ใหญ่ อาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกหนักใจ งั้นลองมาเริ่มต้นด้วยการสร้าง “นิสัยการเงินเล็กๆ” แต่ทำได้สม่ำเสมอ แบบที่เรานำเสนอในคอนเทนต์ชุด ‘aomMONEY Hack$’ เคล็ดลับการเงินที่ทำได้ง่ายๆ
อย่าง "กระปุกสุ่มโชค" ที่จะทำให้การออมสนุก และได้ลุ้นเหมือนเล่นหวยทุกวัน (แต่ไม่มีเสียตังค์!)
วิธีเล่นง่ายๆ ตามนี้เลย:
✅️ เตรียมกระปุก หรือถุงซิปล็อกก็ได้ แล้วหากระดาษเล็กๆ 20-30 ใบ
✅️ เขียนตัวเลขลงไป ตั้งแต่ 20 - 100 บาท (หรือจะเริ่มที่ 10 บาทก็ได้ ถ้างบน้อย)
✅️ พับกระดาษทั้งหมด แล้วใส่ลงกระปุก
✅️ ทุกวัน จับ 1 ใบ แล้วออมตามที่จับได้
ตัวอย่าง:
สมมติเรามีงบใช้จ่ายวันละ 500 บาท ถ้าจับได้ 50 บาท เราก็ต้องหยอด 50 บาทลงกระปุก แล้วใช้จ่ายแค่ 450 บาทในวันนั้น! แต่ถ้าจับได้ 100 บาท... ก็ต้องปรับตัวเอาหน่อยละ ห้ามโกงนะจ๊ะ!
ผลลัพธ์ที่ได้ จากการทำสม่ำเสมอจะค่อยๆ สะสมจนกลายเป็นเงินก้อนในอนาคต
4. ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
การประหยัดอาจไม่ได้ทำให้คุณรวยในทันที แต่ช่วยให้คุณมีเงินออมเพิ่มขึ้น ปัญหาหนึ่งที่เราพบเจอได้อยู่เนื่องๆ เวลาเข้าไปอ่านกระทู้เกี่ยวกับการเงินคือ ‘สิ้นเดือนมาไม่รู้เงินหายไปไหนหมด’ , ‘ซื้อไอ้นี่มาทำไมก็ไม่รู้’
ซึ่งจริงๆ แล้วเงินไม่ได้อยู่ที่ไหน แต่ไปอยู่ที่การสมัครสมาชิกที่ไม่จำเป็น (เช่น แอปสตรีมมิ่งที่เราไม่มีเวลาดูแต่กดให้ตัดบัตรอัตโนมัติ) สิ่งเหล่านี้คือกับดักการเงินที่ทำให้เงินร่วงหล่นระหว่างทาง เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่ายังไม่ได้เริ่มทำรายการรับรายจ่าย อย่างน้อยๆ ก็ลองเอาสลิปบัตรเครดิต/เดบิตมานั่งดู เราจะได้รู้ว่าเงินที่จ่ายเกินจากที่ตั้งใจเอาไว้ไปอยู่ที่ไหนและวางแผนเพื่อป้องกันสิ่งเหล่านี้หรือใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เราจ่ายเงินไปให้ได้มากที่สุด
5. เลี่ยงการสร้างหนี้ใหม่
ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจแบบนี้ สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงที่สุดคือ ‘หนี้สินที่ไม่จำเป็น’ เช่น การซื้อรถใหม่ในขณะที่รถยังใช้ได้ การยื่นขอสินเชื่อมาใช้ฟุ่มเฟือย หรือใช้จ่ายไปกับหนี้บัตรเครดิตที่ดอกเบี้ยสูง
แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้จริงๆ ลองเปลี่ยนการมาเป็นซื้อเป็นเงินสดจากการออมล่วงหน้าหรือผ่อนลมแทนจะดีกว่า
6. เรียนรู้และเพิ่มคุณค่าให้ตัวเองอยู่เสมอ
เศรษฐกิจที่ไม่มั่นคงคือโอกาสที่เข้ามาตอกย้ำว่าการพัฒนาและเพิ่มคุณค่าให้ตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ ทำไมการลงทุนในตัวเองถึงสำคัญ?
ในหนังสือ “ความลับเรื่องเงินที่แม่อยากบอกลูกก่อนตาย” โดยคุณพัคโซยอน คุณแม่ที่เรียนรู้และมีประสบการณ์ทำงานในตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้กว่า 20 ปี เขียนอธิบายเรื่องนี้เอาไว้ว่าการลงทุนในตลาดหุ้นกว่าจะได้ผลตอบแทน 100% นั้นไม่ง่ายเลย
แต่หากเราสามารถพัฒนาตัวเอง เพิ่มรายได้ต่อปีจากงานที่ดีขึ้น มีข้อเสนอที่เข้ามาในชีวิตที่ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นเพราะความสามารถของเรา เพราะการลงทุนในตลาดหุ้นเองก็มีความผันผวน แต่ความสามารถและทักษะของเราไม่มีใครสามารถแย่งไปได้ เราสามารถควบคุมชีวิตและการตัดสินใจของเราได้
7. อย่าเสี่ยงเกินไปกับการลงทุน
ในช่วงวิกฤตแบบนี้หลายๆ คนคงรู้ว่าเงินในมือจะมีค่าน้อยลง เลยมองหาการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยง หรือบางคนก็หวังเก็งกำไรโดยการเอาเงินออมมาลงทุน ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องผิดแต่ต้องระวังให้ดีโดยเฉพาะการลงทุนในสินทรัพย์ที่ความเสี่ยงสูงโดยขาดความรู้ เช่น หุ้นเก็งกำไร ธุรกิจที่ไม่มีข้อมูลชัดเจน คริปโตที่ยังผันผวน ถ้าเรายังไม่แน่ใจกับสิ่งที่จะลงเงินไป ใช้เวลาศึกษาอีกนิด เก็บเงินต้นอีกหน่อยก็ไม่ได้แย่อะไร
ดั่งที่ คุณเอ็ม ผศ.ดร.อุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน (เจ้าของเพจ ติดเล่า เรื่องลงทุน) เคยพูดไว้บนเวที #WorkLifeFestival ไว้ว่า
“ถ้าถามว่าควรจะลงทุนในบิตคอยน์ไหม? คำตอบคือ ไม่จำเป็นถ้าเรามีการลงทุนที่เหมาะสมอยู่แล้ว”
8. นอกจากวิกฤตเศรษฐกิจแล้ว อย่าลืมจ่ายเงินให้ตัวเองในอนาคตด้วย
“ชีวิตที่ไม่มีเงิน น่ากลัวกว่าชีวิตหลังความตาย”
ประโยคนี้อาจฟังดูแรง แต่กลับสะท้อนความจริงที่หลายคนมองข้ามไป
1
ใครๆ หลายคนมักจะออมเงินสำเร็จเพื่อจับจ่ายให้กับสิ่งที่อยากได้ในปัจจุบัน แต่เมื่อเรามีอายุมากขึ้น อยู่ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่มั่นคง เราควรคำนึงและวางแผนเพื่ออนาคตที่ไม่ได้มีไว้แค่สำหรับวันนี้ แต่เพื่อให้เราใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจในวันข้างหน้าไปด้วย
3
โดยเฉพาะช่วงหลังเกษียณที่รายได้หลักจากการทำงานจะหายไป แต่ค่าใช้รายจ่ายของเราจะยังคงอยู่ ดังนั้นการตั้งเป้าหมายทางการเงินที่คำนึงถึงตัวเองในระยะยาวจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะอนาคตของเรา ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจเก็บออมในวันนี้ วางแผนไว้ดี ชีวิตหลังเกษียณก็จะไม่มีอะไรให้น่ากังวลอีกต่อไป
1
🔚 เศรษฐกิจที่แย่ แม้จะเป็นบททดสอบการเงินที่หนัก แต่หากเราเตรียมพร้อมด้วยแผนที่ชัดเจน สิ่งที่ดูเหมือนอุปสรรคก็อาจกลายเป็นโอกาสให้เราแข็งแกร่งขึ้นได้
ดั่งที่วอร์เรน บัฟเฟตต์เคยกล่าวไว้ว่า
“ทุกๆ ทศวรรษ เมฆหมอกร้ายมืดมิดมักจะก่อตัวปกคลุมท้องฟ้าเศรษฐกิจ และไม่นานนักจะมีฝนทองโปรยปรายลงมา ในช่วงเวลานั้น สิ่งสำคัญคือเราต้องรีบออกไปเก็บเกี่ยวด้วยถังใบใหญ่ ไม่ใช่แค่ช้อนเล็กๆ”
#aomMONEY #การเงินส่วนบุคคล #รับมือเศรษฐกิจ
โฆษณา