14 ธ.ค. 2024 เวลา 03:59 • ธุรกิจ

อดีตพนักงาน Oracle ถูกปฏิเสธไอเดีย เลยลาออกมาก่อตั้ง Salesforce จนธุรกิจมีมูลค่า 10 ล้านล้าน

หากพูดถึงชื่อแบรนด์ Salesforce, SAP และ Oracle หลายคนอาจจะไม่คุ้นเท่าไร
1
แต่ถ้าไปถามฝ่ายบัญชี บริษัทระดับโลก เช่น Microsoft, Google, Amazon, Unilever, Nestlé และ P&G คงคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะต้องคอยจ่ายเงินให้ทั้ง 3 บริษัทนี้ เป็นประจำทุกเดือน
1
วันนี้ เรามาดูกันว่าบริษัทเหล่านี้ ทำธุรกิจอะไร ?
ตอบสั้น ๆ เลย ก็คือ ทั้ง 3 บริษัท ทำธุรกิจซอฟต์แวร์จัดการองค์กร..
1
โดยแต่ละบริษัท ก็จะเก่งกันคนละด้าน และเป็นที่นิยม คนละกลุ่มประเทศ
1
- SAP ก่อตั้งปี 1972
- Oracle ก่อตั้งปี 1977
2 บริษัทนี้ โดดเด่นด้านซอฟต์แวร์วางแผนข้อมูล และทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กร หรือ Enterprise Resource Planning ที่เรียกสั้น ๆ ว่า ERP เช่น ระบบสินค้าคงคลัง และระบบซัปพลายเชน
1
- SAP มีลูกค้าส่วนใหญ่ อยู่ในยุโรป
- Oracle มีลูกค้าส่วนใหญ่ อยู่ในสหรัฐอเมริกา
1
แล้วระบบหลังบ้าน สำคัญอย่างไร ?
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ถ้าเรามีโรงงานผลิต และคลังสินค้ากระจายอยู่หลายแห่ง
1
หากพนักงานคีย์ข้อมูลของที่หมดคลังแล้ว บนระบบ SAP และ Oracle คลิกเดียว ทั้งสายป่านการผลิต และบริษัท ไปจนถึงบัญชี ก็จะรู้ว่าของหมดทันที
1
หากไม่ได้มีระบบอะไรมาช่วยเลย ข้อมูลอาจจะคลาดเคลื่อน และใช้เวลาสื่อสารนานกว่า หรือมีขั้นตอนมากกว่า ตรงนี้คือประโยชน์เบื้องต้น ของ ERP ที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหา
1
ในขณะเดียวกัน Salesforce ก็เป็นอีกหนึ่งซอฟต์แวร์จัดการองค์กร แต่โดดเด่นในเรื่องระบบเกี่ยวกับการขาย และการจัดการลูกค้าเป็นหลัก
แล้ว Salesforce เริ่มต้นขึ้นมาอย่างไร ?
บริษัท Salesforce ก่อตั้งขึ้นโดยคุณ Marc Russell Benioff ในปี 1999 หรือ 25 ปีก่อน ซึ่งเขาเคยเป็นอดีตพนักงาน ที่บริษัท Oracle
1
คุณ Benioff นับเป็นบุคลากรคนสำคัญ เป็นผู้บริหารตั้งแต่อายุ 26 ปี แถมอยู่กับบริษัทมายาวนานถึง 13 ปี แต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจลาออก
1
เหตุผลก็เพราะขัดแย้งกับผู้ก่อตั้ง Oracle อย่างคุณ Larry Ellison ในเรื่องการนำซอฟต์แวร์มาจัดจำหน่าย ผ่านระบบคลาวด์และอินเทอร์เน็ต
แนวคิดนี้ ขัดแย้งกับโมเดลธุรกิจดั้งเดิมของ Oracle ที่ขายซอฟต์แวร์ติดตั้งบนฐานข้อมูลบริษัทลูกค้า
1
พอคุณ Benioff มองว่ามันเป็นโอกาส แต่เจ้าของบริษัทไม่เห็นด้วย เขาเลยลาออกและนำไอเดียนี้ ไปก่อตั้งบริษัทตัวเองเสียเลย
และนี่ก็คือที่มาของ การก่อตั้งบริษัท Salesforce..
บริษัทแห่งนี้ พัฒนาซอฟต์แวร์ ที่สามารถรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับลูกค้า หรือ Customer Relationship Management เรียกสั้น ๆ ว่า CRM
1
และใช้โมเดลธุรกิจ ให้บริการซอฟต์แวร์บนคลาวด์ หรือ Software as a Service ย่อสั้น ๆ ว่า SaaS
1
ด้วยความง่าย เร็ว มีประสิทธิภาพ แถมบริษัทต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องลงทุนสูง เพราะจ่ายแค่รายเดือน เมื่อเทียบกับการลงทุนแบบดั้งเดิมของ Oracle ที่ต้องลงทุนเป็นก้อน
1
ฐานลูกค้าของ Salesforce จึงกว้างขึ้น จับตั้งแต่บริษัทรายเล็ก กลาง ไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่ได้ทั้งหมด ผิดกับการลงทุนเซิร์ฟเวอร์แบบของ Oracle ส่วนใหญ่จะมีแค่บริษัทใหญ่ ๆ เท่านั้น
3
โมเดลธุรกิจใหม่ บวกกับการโฟกัสที่การจัดการลูกค้า หรือ CRM ที่ตลาดสมัยนั้นยังไม่ได้เน้นกัน ทำให้ Salesforce เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด
1
และแม้ว่าบริษัทไม่ใช่ผู้ริเริ่มให้บริการซอฟต์แวร์บนอากาศเป็นรายแรก แต่เป็นรายแรกที่นำมาใช้ และประสบความสำเร็จ
1
สำเร็จในระดับที่ ในภายหลัง บริษัทขนาดใหญ่อื่น ๆ ทำตามกันมาทั้งหมด ตั้งแต่ Office 365 ของ Microsoft, Creative Cloud ของ Adobe และแน่นอนว่า SAP และ Oracle ก็หันมาทำตามด้วย..
1
ตัดกลับมาที่ธุรกิจ Salesforce ในวันนี้ จะแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่
1. Sales เป็นโปรแกรม ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระงานบางอย่างของฝ่ายขาย
อย่างเช่น ช่วยร่างใบเสนอราคา (Quotation) โดยอัตโนมัติ
หรือสามารถคาดการณ์ยอดขาย ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วย
1
ซึ่งโปรแกรมนี้สามารถปรับรูปแบบให้เข้ากับ Workflow หรือกระบวนการทำงานของบริษัทได้
1
2. Service เป็นเครื่องมือที่ช่วยยกระดับการบริการให้กับธุรกิจ
โดยนำข้อมูลของลูกค้ามาวิเคราะห์ เพื่อหาโซลูชันที่เหมาะสม
ในการขายและให้บริการแก่ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าของธุรกิจเกิดความพึงพอใจสูงสุด
1
3. Platform Application อย่าง
- Slack (เข้าซื้อกิจการมา 1 ล้านล้านบาท เมื่อ 4 ปีก่อน) เป็นแอปพลิเคชัน ที่บริษัทหลายแห่งต้องใช้สำหรับคุยงาน
แช็ต วิดีโอคอล และสร้างกลุ่มแยกเพื่อมอบหมายโปรเจกต์ต่าง ๆ ให้กับคนภายในทีมได้
1
- Einstein เป็น Generative AI ของ Salesforce ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับฝ่ายขาย
1
อย่างเช่น ช่วยร่างอีเมลส่งหาลูกค้าโดยอัตโนมัติ, เป็นแช็ตบอตตอบลูกค้าได้เอง,
สร้างสรรค์เนื้อหาบนเว็บไซต์สำหรับลูกค้า, ทำสรุปเนื้อหาเพื่อการนำเสนอ และช่วยเขียนโคดได้
3
และสามารถนำ Einstein มา Copilot หรือสามารถนำ Generative AI ไปใช้ร่วมกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ของ Salesforce ได้อีกด้วย
1
4. Marketing และ Commerce Price อย่าง
- Marketing เป็นเครื่องมือ สำหรับบริการจัดทำแคมเปญการตลาด ด้วยระบบออนไลน์
โดยอ้างอิงจากยอดขาย และกลุ่มลูกค้าของธุรกิจ
1
- Commerce เป็นเครื่องมือ สำหรับใช้ตั้งราคาสินค้าและบริการให้เหมาะสม เพื่อให้ธุรกิจเกิดกำไรสูงสุด
1
5. Integration and Analysis อย่าง
- MuleSoft เป็นแอปพลิเคชัน ที่ช่วยให้องค์กรสามารถเชื่อมต่อ และรวมระบบการทำงานของแผนกต่าง ๆ
เพื่อลดความซับซ้อน ในการเชื่อมต่อระบบและการเข้าถึงข้อมูล
- Tableau เป็นแพลตฟอร์ม AI ที่เปลี่ยนการวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจ
ให้เป็นการวิเคราะห์เชิงภาพที่ใช้งานง่ายสำหรับทุกคน
1
ส่งผลให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการธุรกิจ และเพิ่มความร่วมมือระหว่างทีมงานและแผนกต่าง ๆ
2
ในขณะที่ปัจจุบัน Salesforce กำลังโฟกัสไปกับการพัฒนา “Einstein” แพลตฟอร์มด้าน AI ของ Salesforce ด้วยเครื่องมือต่าง ๆ เช่น
1
- Einstein Analytics เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วย AI
1
- Einstein Prediction Builder เครื่องมือสร้างโมเดลพยากรณ์ด้วย AI
เช่น สร้างโมเดลทำนายพฤติกรรมลูกค้า โดยไม่จำเป็นต้องเขียนโคดเองเลย
2
- Einstein Marketing Cloud เครื่องมือการตลาดที่ใช้ AI
ปรับแต่งแคมเปญทางการตลาดให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละบุคคล
1
ทั้งหมดนี้ ก็เป็นตัวอย่างผลิตภัณฑ์ และการพัฒนาของ Salesforce ปัจจุบัน มีลูกค้าใช้บริการแพลตฟอร์มของ Salesforce มากกว่า 150,000 รายทั่วโลก
1
รวมถึงลูกค้าแบรนด์ดังจากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น Apple, Amazon, JPMorgan Chase, Coke, FILA, Nike, Gucci, Benz, Ford, Toyota, Spotify, IHG และ Marriott
1
โดยบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลก จำเป็นต้องใช้ระบบในการบริหารจัดการลูกค้า และ Salesforce ก็เป็นผู้ให้บริการอันดับหนึ่งในเรื่องนี้
สำหรับธุรกิจระบบหลังบ้าน ป้อมปราการก็คือความเชื่อใจของลูกค้า เพราะหากลูกค้าเดินมาหาเราแล้ว
2
ก็จะเท่ากับว่า พวกเขายินยอมจะฝากข้อมูลเอาไว้บนแพลตฟอร์มของเราด้วย
1
หากเรารักษามาตรฐาน และตอบโจทย์ลูกค้าได้ดี การที่ลูกค้าจะย้ายฐานข้อมูลไปใช้บริการเจ้าอื่น หรือหันไปพัฒนาระบบของตัวเอง จะแทบเป็นไปไม่ได้เลย
1
ซึ่งถ้าเราไปดูผลประกอบการของ Salesforce ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
รายได้ 1.3 ล้านล้านบาท
กำไร 0.2 ล้านล้านบาท
1
โดยนับจากต้นปี ราคาหุ้นของ Salesforce ได้ปรับตัวขึ้นมาแล้วราว ๆ +33%
1
ปัจจุบัน Salesforce มีมูลค่าบริษัท 11.4 ล้านล้านบาท
ก็ไม่น่าเชื่อว่าไอเดียธุรกิจของคุณ Benioff ที่คุณ Ellison คิดว่าไม่เข้าท่าในวันนั้น จะสร้างมูลค่าขึ้นมาได้สูงขนาดนี้ แถมยังเป็นต้นแบบให้หลาย ๆ บริษัทยักษ์ใหญ่ เอาโมเดลธุรกิจของ Salesforce ไปประยุกต์ใช้ด้วย..
1
—------------------
Salesforce เป็น 1 ใน 30 บริษัทที่จะอยู่ใน MEGAWORLD30
เปิดจอง IPO กองทุน MEGAWORLD30 วันที่ 11-17 ธ.ค. 2567 นี้
- ร่วมเป็นเจ้าของ 30 บริษัทชั้นนำระดับโลก MEGAWORLD30 เสนอขาย 2 ชนิด ได้แก่ ชนิดสะสมมูลค่า (MEGAWORLD30-A) และชนิดเพื่อการออม (MEGAWORLD30-SSF)
MEGAWORLD30 เป็นกองทุนที่จะเข้าไปลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ดังนี้
- ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange: NYSE) หรือ
- ตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก (Nasdaq Stock Market: NASDAQ) หรือ
- ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (Hong Kong Stock Exchange: HKEX) หรือ
- ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (Tokyo Stock Exchange: TSE) หรือ
- ตลาดหลักทรัพย์ของประเทศในกลุ่มยูโรโซน (Eurozone) เฉพาะหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบในดัชนี EURO STOXX 50
1
กองทุนมีการบริหารแบบ Rules Based Approach โดยพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) สูงสุด และมีสภาพคล่อง
รวมถึงปัจจัยที่ผู้จัดการกองทุนพิจารณาเพิ่มเติม เช่น คัดเลือกจากอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) และ/หรือ อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ตามเกณฑ์ขั้นต่ำที่ผู้จัดการกองทุนกำหนด เป็นต้น จำนวน 30 บริษัท เช่น Nvidia, Apple, Microsoft, Meta, ASML, TSMC, Novo Nordisk, Tencent, Netflix, LVMH และ Hermès*
โดยกองทุนจะมีการลงทุนที่ส่งผลให้มี Net Exposure ในตราสารทุนข้างต้นโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนในรูปของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ยูโร ดอลลาร์ฮ่องกง และ/หรือ เยน ตามรอบการปรับสมดุลของสัดส่วนน้ำหนักการลงทุน (Rebalance) และการปรับรายชื่อหลักทรัพย์
กองทุนรวมนี้ มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
*บริษัทดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนได้ ตามเกณฑ์การลงทุนและสภาวการณ์การลงทุน ณ ขณะนั้น
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถศึกษารายละเอียดและเริ่มต้นลงทุนได้ที่ บลจ.ทาลิส โทร. 02-0150215, 02-0150216, 02-0150222 หรือ www.talisam.co.th และผู้สนับสนุนการขายหลายราย
คำเตือน: กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงของกองทุนรวม ก่อนตัดสินใจลงทุน และควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน SSF กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร และการลงทุนในกองทุนรวมตราสารแห่งทุนอาจมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์
โฆษณา