18 ธ.ค. 2024 เวลา 03:10 • ท่องเที่ยว

Day80 กลับเข้าเวียดนามอีกรอบ

ได้กลับมาที่เวียดนามอีกครั้ง เป็นเวียดนามด้านใต้ที่มีพรมแดนติดกับกัมพูชา แค่ข้ามพรมแดนมาก็เห็นวิวที่เปลี่ยนไป บรรยากาศก็เปลี่ยน ดูสบายกว่าฝั่งเขมร ฝั่งเขมรมันดูร้อน ๆ แห้ง ๆ แล้ง ๆ แต่ฝั่งเวียดนามมีแต่เขียว ๆ ทุ่งนาสีเขียวเต็มไปหมด ตอนนี้บางส่วนกำลังออกรวงสีทอง สวยเลย
เราออกจากห้องสายมากเช้านี้ 10 โมงครึ่งเริ่มปั่นจักรยานออกจากเกสต์เฮาส์ไปหาอาหารเช้ากิน ต่อด้วยขนม นึกอยากกินของหวาน "บันจะเนือ" แต่ไม่มีคนขาย ปั่นไปก็แวะกินน้ำบ้าง แวะกินของหวานบ้าง ได้ข้ามพรมแดนตอนประมาณบ่าย 3 โมงกว่า ๆ มั้ง ด่านตรงนี้คึกคักมาก มีทั้งรถขนส่งสินค้า มีทั้งรถโดยสารขนาดใหญ่ผ่านแดน เราชอบด่านนี้ตรงที่เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝั่งไม่มีใครเรียกเก็บเงินเลย ดีจัง เดี๋ยวคอยดูตอนกลับเข้าเขมรตรงเมืองห่าเตี่ยนของเวียดนามว่าจะเก็บหรือเปล่า
เราตัดสินใจมาที่เมืองบาจุ๊ก เพราะดูตามตำแหน่งในแผนที่มันดูใกล้จุดหมายปลายทางตรงด่านอีกด่านหนึ่งมากกว่า ถ้าเราแวะค้างคืนตรงติ่นห์เบียนซึ่งอยู่ห่างจากพรมแดนเข้ามาแค่ 1 กิโลเมตร มันก็เสียเวลาและดูเป็นเมืองที่ไม่มีอะไร แค่แวะซื้อซาลาเปาที่ข้างทาง อร่อยมาก แป้งนุ่มมาก ส่วนบาจุ๊กนั้นเราเห็นในแผนที่เขียนไว้ว่า Ossary อะไรประมาณนี้ที่แปลว่าวัด ก็คิดว่าน่าจะมีแหล่งท่องเที่ยวให้ดูบ้างเลยตัดสินใจมา
ตอนแรกเราคิดว่า พอข้ามแดนเข้าเวียดนามก็จะลืมเรื่องเขมรแดงที่มันวนเวียนอยู่ในหัวเรามา 2-3 วันหลังจากไปดูคุกตวลสเลงกับทุ่งสังหารเจื๋องแอ๊ก มันยากที่จะลืม อินกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนต้องมาค้นอ่านทางอินเทอร์เน็ต เมื่อคืนก็ดูหนัง Enemies Of The People ทาง YouTube ก็กะว่าเดี๋ยวเข้าเวียดนามก็จะเลิกคิดเรื่องนี้แล้ว
ที่ไหนได้ พอ Search หาข้อมูลว่า เมืองบาจุ๊กที่กำลังปั่นจักรยานไปเนี่ยมีอะไรดู ปรากฏว่ามันคือเมืองที่มีการสังหารหมู่ชาวบ้านในช่วงที่เขมรแดงมาที่นี่ บุกมาฆ่าชาวเวียดนาม จนทำให้รัฐบาลเวียดนามตัดสินใจบุกไปปราบเขมรแดง สุดท้ายก็ยังต้องมาดูทุ่งสังหารที่เวียดนามด้วย นึกว่าจะหลุดพ้นแล้วเชียว แต่จะว่าไปก็น่าสนใจนะ เพราะเราไม่รู้มาก่อนเลยว่า มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นด้วย
ทางที่ปั่นมาบาจุ๊กเป็นถนนสายเล็ก ๆ แต่ผ่านบ้านคนมาตลอด ไม่เปลี่ยวจนน่ากลัว วิวก็สวย เมืองนี้ดูแล้วน่าอยู่นะ อยู่ตรงตีนเขาและมีวัดจีนเยอะมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยปั่นดูตอนเช้าก่อนออกเดินทาง วันนี้ค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตต่อเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวที่นี่ซึ่งจุดเด่นก็มีบาจุ๊ก เมโมเรียล ที่เดียว เราถามพนักงานที่ร้านว่า ที่นี่อยู่ไหนเขาชี้ไปฝั่งตรงข้ามร้าน โอ้ ขำตัวเอง ปรากฏว่า อยู่ใกล้แค่นี้เอง พรุ่งนี้ค่อยเดินไปดู
เย็นนี้ไปนั่งกินข้าวที่ร้านอาหารต่อด้วยซาลาเปา 1 ลูก แต่แป้งไม่นุ่มเหมือนที่ซื้อกินตอนปั่นถึงเมืองติ่นห์เบียนเลย เราเดินหาไอติมจ่างเตี่ยนกินต่อ แต่ยังไม่เจอ ไว้พรุ่งนี้ค่อยกินให้หายคิดถึง ไอติมราคาถูกรสชาติดี
ตอนข้ามพรมแดนไม่ได้แลกเงินด่องมาเลยสักนิด มีแต่เงินดอลลาร์ติดตัว พอปั่นมาถึงบาจุ๊ก ว่าจะซื้อบัตรเติมเงินเวียดเทล แต่เขาไม่รับเงิน USD เราก็นึกในใจว่า คืนนี้ถ้าหาที่แลกเงินไม่ได้นี่ จะกินอะไร มีเงินแต่ใช้ไม่ได้ แต่พอปั่นผ่านตรงตัวตลาดบาจุ๊กก็เห็นร้านขายอัญมณีก็เลยแวะไปถาม เขาให้แลก 1 USD 21,000 ด่อง เรตก็โอเคนะ เราเลยแลก 40 USD ได้มา 840,000 ด่อง พอใช้จนออกพรมแดนกลับเขมรอยู่ โชคดี ไม่งั้นคืนนี้อาจจะอยู่ยาก
พรุ่งนี้พอเที่ยวแถวนี้เสร็จก็ค่อยปั่นลงไปที่เมืองเลียบชายทะเล แวะดูน้ำทะเลหน่อยซิ ก่อนจะปั่นไปห่าเตี่ยน แต่ไม่รู้จะถึงหรือเปล่านะ เมื่อกี้เช็กระยะทางดูแล้ว 85 กิโลเมตรน่าจะได้ แวะดูชายหาด ตามรายทางก่อน แล้วค่อยไปถึงห่าเตี่ยนตอนเย็น เช้าวันต่อมาเที่ยวห่าเตี่ยนแล้วตอนบ่ายค่อยปั่นไปพรมแดน เพราะระยะทางจากห่าเตี่ยนไปแก๊ปประมาณแค่ 32 กิโลเมตร จากแก๊ปไปกำปอตแค่ 24 กิโลเมตร จากกำปอตไปยอดเขาบอกอ 40 กิโลเมตร จากที่นี่ไปสีหนุวิลล์ 124 กิโลเมตร
เที่ยงคืนกว่าแล้ว ได้เวลาเข้านอนแล้ว พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้า ปั่นจักรยานไปดูวัด
อิสร์ เสรีพัก
เสาร์ 6 กรกฎาคม 2013 กัมพูชา - เวียดนาม 80
สถิติการปั่นวันนี้
ระยะทาง 72.83 กิโลเมตร
อัตราเร็วเฉลี่ย 14.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อัตราเร็วสูงสุด 23.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
พลังงาน 667 กิโลแคลอรี่
คาร์บอนไดออกไซด์ 10.92
ระยะทางรวม 4,953 กิโลเมตร
ระยะเวลาที่ใช้ 5 ชั่วโมง 2 นาที 16 วินาที
เริ่มเข้าเวียดนามกิโลเมตรที่ 4,931
ค่าใช้จ่ายวันนี้
1 ข้าวเช้า 4,500 เรียล
2 ขนม+น้ำ+ของหวาน 4,000 เรียล
3 ซาลาเปา 10,000 ด่อง
4 เติมเงิน 50,000 ด่อง
6 กาแฟ 12,000 ด่อง
7 ข้าวเย็น+ซาลาเปา 27,000 ด่อง
รวม 85,000 เรียล กับ 99,000 ด่อง หรือประมาณ 63.75 + 141 = 204.75 บาท
โฆษณา