Blockdit Logo (Mobile)
aomMONEY
ยืนยันแล้ว
•
20 ธ.ค. 2024 เวลา 13:00 • ธุรกิจ

ครอบครัวมีฐานะ แต่พ่อแม่ให้เริ่มทำงานตั้งแต่วัยรุ่น

พีช-พชร จากดาราวัยรุ่นสู่นักธุรกิจพันล้านเจ้าของ Potato Corner
1
พีช พชร จิราธิวัฒน์ เป็นชื่อที่หลายคนคุ้นเคยในฐานะนักแสดงมากฝีมือ ทายาทตระกูลนักธุรกิจชั้นนำของไทย และเจ้าของเฟรนไชส์ชื่อดังอย่าง Potato Corner ที่กำลังขยายสาขาไปทั่วประเทศ นอกจากประสบควาสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ตอนนี้เขายังเป็นนักศึกษาปริญญาโทด้าน Major Programme Management ที่ University of Oxford ประเทศอังกฤษอีกด้วย
ถึงแม้จะเติบโตมาในครอบครัวที่พรั่งพร้อมด้วยโอกาส แต่เส้นทางชีวิตและความสำเร็จของพีชไม่ได้มาง่ายอย่างที่หลายคนคาดคิด เขาต้องผ่านทั้งการเรียนรู้ การปรับตัว และการทำงานหนักเพื่อก้าวข้ามอุปสรรคในชีวิตและธุรกิจ
แต่กว่าจะมาถึงวันนี้เรื่องราวของเขาไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่ใครหลายคนคิดแน่นอน วันนี้ aomMONEY จะพาไปรู้จักเรื่องของพีช พชร และบทเรียนทางการเงินอะไรบ้างที่เราเรียนรู้จากเขาได้บ้าง
[ 🧸 งานแรกทำงานในห้างเซนทรัล ]
พีช เริ่มต้นชีวิตการทำงานตั้งแต่วัยเด็ก ช่วงปิดเทอมตอนมัธยมต้น ตอนนั้นคุณพ่อกับคุณแม่ให้เขาไปทำงานพาร์ทไทม์ที่แผนกของเล่นที่เซนทรัลชิดลม ก่อนจะย้ายไปแผนก B2S ที่นี่เขาได้เรียนรู้ว่าการหาเงินไม่ใช่เรื่องง่าย
“เวลาว่างไม่ได้เล่นนะ และทรมานกว่าเดิมเพราะเราต้องเห็นคนอื่นเขาเล่น”
“อย่างแรกที่มันเปลี่ยนผมรู้สึกว่าเงินมันหายาก ตอนนั้นคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ให้เงินค่าขนม ถ้าอยากกินข้าวเที่ยง ผมต้องทำงานแลก”
1
บทเรียนนั้นทำให้พีชได้รู้ว่าการยืนทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อแลกกับเงินเดือน ทำให้เขารู้จักคุณค่าของเงินและความยากลำบากในการหาเลี้ยงตัวเอง
1
“สิ่งที่เราเอาเวลาแลกไป แล้วได้รับอะไรกลับมาทำให้ผมรู้ว่ามันมีคุณค่า และเราเรียนรู้ที่จะเห็นคนอื่น เราได้เห็นพี่ๆ พนักงาน ได้เจอคนหลายแบบและได้เปิดประสบการณ์ ตอนพักเที่ยงเขาก็พาไอ้เด็กนี่ไปกินข้าวด้วย ก็ได้ลอง ได้เข้าใจชีวิต ได้เข้าใจความเหนื่อยของคน มันเลยเกิดความเคารพต่ออาชีพของคนอื่นเหมือนกัน”
พอผ่านการทำงานมาก็เข้าใจคนอื่นและรู้ว่า เราควรจะพูดจากับเขาดีๆ แค่นี้ก็ช่วยความรู้สึกคนได้ คุณพีชเล่าว่าปัจจุบันก็ไม่อาจพูดได้ว่า เขาเข้าใจความรู้สึกคนอื่นได้ 100% แต่ก็รู้ว่าชีวิตและคุณค่าของแต่ละชีวิตแตกต่างกัน
[ 🎬 ชีวิตนักแสดงที่สอนให้รู้จักคำว่า ‘วินัย - อดทน’ ]
การมีวินัยและความอดทนเป็นสิ่งหนึ่งที่จำเป็นในชีวิตของผู้ประกอบการ และอย่างที่เราทราบกันดีว่าพีช พชร เป็นทั้งนักแสดง นายแบบ นักดนตรี ผลงาน ชาติตระกูล และหน้าตาของเขาโดดเด่นมากในวงการบันเทิง แต่นั่นไม่ใช่ปัจจัยเดียวหรือทั้งหมดที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จทางธุรกิจแน่นอน
พีช พชร ยอมรับว่ามีช่วงหนึ่งที่วินัยเขาเละเทะมาก (ด้านนี้เราคงเห็นภาพทวิตเตอร์หรือสื่อต่างๆ ที่โจมตีเขา) ในช่วงปี 2013 แต่ถ้าเรามาฟังบทสัมภาษณ์ของพีช ในวันนี้เราจะรู้ได้เลยว่าชีวิตของเขา เขาเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นผู้ประกอบการมานานแล้ว
พีชเคยให้สัมภาษณ์ว่า แต่ก่อนเขาเป็นคนไม่กล้าพูด ไม่กล้าแสดงออก เช่น การพูดหน้าห้องก็สอบตกมาตลอด จนได้มาแสดงหนัง เขาถึงได้มีโอกาสปลดล็อกตัวเอง และรู้ว่ามันไม่ได้ยากอย่างที่คิด การได้ร่วมงานในกองถ่ายที่มีทีมงานเยอะมาก ทำให้เรียนรู้การทำงานเป็นทีมและสื่อสารกับคนหลากหลายมากขึ้น
การเป็นนักแสดงนำทำให้ได้รับทั้งชื่อเสียงและเงินทอง ครั้งแรกที่เห็นเงินก้อนใหญ่รู้สึกภูมิใจ แต่ก็ใช้จ่ายแบบไม่คิด เช่น ซื้อของฟุ่มเฟือยทันที ทำให้ไม่มีการเก็บเงินที่เป็นระบบในช่วงนั้น บางครั้งยังรู้สึกไม่ชอบความสนใจจากคนอื่นที่จับจ้อง จนทำให้กลายเป็นคนที่ไม่อยากเจอใคร
แต่โชคดีที่ได้เขาร่วมงานกับพี่ย้ง ทรงยศ ผู้กำกับที่ทำให้เกิดวินัยในการทำงาน พีชเล่าใน The Cloud ว่า
“เคยมีฉากหนึ่งที่ต้องถ่ายซ้ำ 30 กว่าเทค ตอนนั้นผมคิดไม่ออกแล้วว่าจะเล่นยังไงแล้ว จนร้องไห้ในฉาก แต่พี่ย้งบอกเป็นนักแสดงมันจะเจอความกดดันเพราะฉะนั้นให้เปลี่ยนความกดดันเป็นแรงผลักดัน อย่ายอมแพ้”
พีชเล่าต่อว่า ฉากนั้นพี่ย้งยอมเสียเวลาไปเกือบ 4 ชั่วโมง เพื่อสอนให้พีชเข้าใจเรื่องนี้
“มันเป็นเรื่องที่นักแสดงเด็กๆ จะคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่มากๆนะ จากเลข 1 เป็น 2 หลัก ในหัวจะเริ่มคิดว่าทีมงานเสียเวลาขนาดนั้นเลยเหรอ แต่สุดท้ายแล้วผมก็ได้เรียนรู้ว่ามันไม่ใช่หน้าที่เรา อย่าไปคิด ถ้าเราเอาโฟกัสตัวเองไปอยู่ในที่ที่ไม่ถูก แทนที่จะเล่นให้ดีที่สุด กลายเป็นเอาแต่คิดว่า ช่างไฟเขารอป่ะ โปรดิวเซอร์เครียดไหม สุดท้ายเราก็จะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่ควรจะอยู่”
พีชเล่าว่า ตอนนั้นเขาก็เรียนรู้วิธีคิดจากพี่ย้งเยอะ ทั้งวิธีคิดเยอะ การมองโลก ความจริงจังกับงาน การทำงานกับพี่ย้งเหมือนเป็นการบังคับตัวเองให้มีวินัย ทำให้เขาเริ่มมองเห็นความสำคัญของการเตรียมตัว ไม่ใช่แค่ในฐานะนักแสดง แต่รวมถึงการใช้ชีวิตด้วย จากที่เคยคิดว่าทุกอย่างมันง่าย จนมาเจอวันที่ต้องยืนร้องไห้ในฉากแบบไม่มีทางออก ตอนนั้นมันไม่ใช่แค่เรื่องงาน แต่คือการเติบโต
“หน้าที่เรา เราต้องทำให้ดีที่สุดก่อน ถ้าเราทำหน้าที่เราดีที่สุดแล้ว เราค่อยไปหวงเรื่อง ค่อยไปยุ่งกับชาวบ้านได้ ถ้าเราทำหน้าที่เราดีแล้วอ่ะ”
1
[ 🎯 ต้นกำเนิด Potato Corner สาขาไทย ]
ช่วงแรกที่เริ่มลงมือทำธุรกิจ ในวัย 23 ปี ด้วยการเปิดตัวธุรกิจเฟชรไชน์เจ้าดังอย่าง Potato Corner ครั้งแรกในปี 2016 หลายคนจึงมองว่าเขาคงไม่จริงจังกับงานนี้ หรืออาจจะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา ซึ่งเป็นทายาทตระกูลดังที่มีเงินทุนและคอนเนคชั่นพร้อม
แต่วันนี้ผ่านมาเกือบ 10 ปี Potato Corner มีทั้งช่วงที่ทำกำไร ขาดทุนและต้องหาทุนเหมือนกัน
จุดเริ่มต้นธุรกิจ Potato Corner ในประเทศไทยเริ่มต้นจากการที่ ชยภัทร ทองเจริญ เพื่อนสนิทของพีชที่มีความรักในการกินและเริ่มทำธุรกิจร้านอาหารตั้งแต่ยังเรียนอยู่ที่จุฬาฯ ธุรกิจแรกของพวกเขา เขาได้ลองพัฒนาพิซซ่า DIY แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
จนกระทั่งชยภัทรได้ไปแข่งขันโต้วาทีที่ฟิลิปปินส์และได้ชิมเฟรนช์ฟรายส์ยี่ห้อ Potato Corner
“เพื่อนโทรมาถามว่า ร้านนี้ทําไมคิวมันเยอะจัง อะไรอย่างนี้ แล้วมันก็โทรกลับมาว่าแบบ รู้จักยี่ห้อนี้เปล่า Potato Corner เราก็แบบไม่รู้จัก เออ คิวยาวมากเลยต้องลองมาดู มีโอกาสเราก็เลยไปดู” พีชเล่าถึงที่มา
พอได้ชิม ได้เห็นคิว พีชกับเพื่อนก็คิดเรื่องต่างๆ ทั้งการได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ ไม่ต้องการตลาดให้คนรู้จักมาก พฤติกรรมของลูกค้าชาวไทยและตัวเขาเองที่ชอบกินขนม พอคิดว่าจะเอาจริงก็เลย ติดต่อกับเจ้าของแบรนด์ และได้เซ็นสัญญาเป็นแฟรนไชส์ของ Potato Corner ในประเทศไทย แม้ว่าทั้งคู่จะไม่มีประสบการณ์ทางธุรกิจมาก่อน
“โชคดีมากที่เจ้าของแบรนด์เริ่มทำแบรนด์นี้ตอนที่เขายังเด็กเหมือนกัน เขาเลยคิดถึงตัวเองและรู้สึกเหมือนตัวเขาตอนยังเด็ก เหมาะ! เราเลยโอเค ทำครับ!”
1
พีชเล่าว่าคุยมาเรียบร้อยก็คิดว่าจะเอาเงินการแสดงของตัวเองมาใช้ แต่ติดที่บัญชีของเขาเป็นบัญชีที่ต้องเซ็นต์คู่กับที่บ้าน ทำให้สุดท้ายเขาต้องทำพรีเซนเทชั่นให้ที่บ้านดู เพื่อขอทุนตัวเองมาใช้ แต่พ่อแม่ไม่ยอมให้เพราะยังไม่เชื่อในฝีมือ
“เขาจะเคี่ยวเรื่องพวกอย่างนี้ จะเอาเงินไปใช้ต้องมีแผน คิดว่าจะคืนทุนเท่าไร ไม่ใช่ขอตังค์ไปแล้วเจ๊ง อะไรอย่างนี้ เขาก็เหมือนสอนให้เหมือนเรากู้ธนาคารอะ – เราก็ทำสไลด์พรีเซ้นต์อะไร จนเขาโอเค”
1
เมื่อได้แฟรนไชส์มาแล้ว ก็ใช้เวลาวางแผนเปิดร้านอีก 1 ปี ส่วนหนึ่งเพราะ พีช-พชร และชยภัทรเลือกที่จะกู้เงินจากธนาคารด้วย เนื่องจากเขามองอนาคตไว้แต่แรกว่าเขาอยากจะเห็น Potato Corner ขยายไปมากกว่า 200 สาขา ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นธุรกิจอาจต้องกู้สินเชื่อ
พีช ร่วมทำธุรกิจนี้กับเพื่อนๆ ของเขา ในชื่อ ‘ร็อคส์ พีซี’ เติบโตขึ้นเป็นขั้นบันได ตามรายงานจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปี 2564 มีมีกำไร 1,706,797 , ปี 2565 มีกำไร 25,383,999 และปีล่าสุด มีกำไร 37,459,081 โดยในปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 653 ล้านบาท กล่าวได้ว่าเขาเข้าใกล้คำว่าวัยรุ่นพันล้านขึ้นทุกทีแล้ว!
และปีที่แล้ว พีช พชร ก็ได้ไปเข้าเป็นหุ้นส่วนสำคัญของร้าน “Khao-So-i” ข้าวโซ-อิ ข้าวซอยจากเชียงใหม่ที่สร้างมิติใหม่ในการกินเมนูข้าวซอยในบรรยากาศแบบญี่ปุ่น ที่มีคิวจองยาวมาก
โดยข้าวโซอิที่มีพีชมาร่วมหุ้นด้วย ก็เริ่มขยายสาขามาอยู่ที่สีลม กรุงเทพฯ และมี Pop-up store ที่ลอนดอน ทำให้ข้าวซอยเป็นที่รู้จักมากขึ้นพีชเล่าว่า
“ร้านนี้เขามีทีมงานที่เข้มแข็ง ผมมาช่วย support ในส่วนที่เขาขาด ส่วนที่เขาไม่มี แล้วช่วยดูเรื่องภาพรวมมากกว่า อย่างกรณีที่มีปัญหาระยะสั้น เช่น ขาดวัตถุดิบต้องทำอย่างไรดี อะไรพวกนี้ ผมก็เข้ามาช่วยได้ครับ”
ปัจจุบันพีช พชร ยังเป็นดารานักแสดง เป็นผู้บริหาร และล่าสุดเขาได้ไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่ออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ เพื่อเสริมสร้างความรู้เพิ่มเติม
“ส่วนธุรกิจครอบครัว ตอนนี้เขามีทีมที่เก่งมาก ผมรู้สึกว่าประสบการณ์ตัวเองยังน้อย เรายังมีแนวทางของตนเอง ผมคิดว่าก็ปล่อยให้รุ่นพ่อเขารันไปก่อน แล้วเราไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ไม่อยากเข้าไปแบบเพราะเราเป็นลูกคนนี้ ผมอยากรู้สึกว่า เข้าไปในฐานะเราทำงานมานาน แล้วทุกคนก็อยากทำงานกับเรามากกว่าเพราะเราเป็นใคร สุดท้ายถ้ามีโอกาส ก็คงเข้าไปช่วยงาน เพราะเราก็เห็นมาตั้งแต่เด็กครับ
[ สรุป 3 บทเรียนทางการเงินของพีช พชร ⭐️ ]
1.การเริ่มต้นจากการทำงานและเรียนรู้คุณค่าของเงิน
พีชเริ่มต้นการทำงานตั้งแต่เด็ก เพื่อเรียนรู้ว่าการหาเงินไม่ใช่เรื่องง่าย บทเรียนจากการยืนทำงาน 8 ชั่วโมงในวัยเรียนทำให้เขาเห็นคุณค่าของการใช้เวลามาทำงานและแลกกับเงิน
2. การลงทุนในธุรกิจด้วยการวางแผน
พีชเริ่มต้นธุรกิจด้วยการลงทุนในแฟรนไชส์ Potato Corner โดยมีการวางแผนอย่างรอบคอบ ข้อได้เปรียบหนึ่งก็คือช่วงที่จะเริ่มธุรกิจเขาต้องขอความยินยอมเพื่อเบิกเงินทุนก้อนใหญ่ที่เขาฝากไว้กับพ่อแม่ และทั้งสองคนก็เตรียมความพร้อมให้เขา นำเสนอแผนธุรกิจก่อนถึงจะได้ทุน ซึ่งนั้นก็ทำให้เขารู้ถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมและการมีแผนธุรกิจที่ชัดเจนก่อนการลงทุน
3. การเรียนรู้จากความล้มเหลวและความยากลำบาก
ธุรกิจแรกของพีชและเพื่อนไม่ได้ประสบความสำเร็จในเร็ววันเหมือนที่ทุกคนคาดคิด ช่วงแรกโปเตโต้คอนเนอร์ขาดทุนติดกันหลายปี แต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้ ยังคงพัฒนา เรียนรู้ปรับตัว จนในที่สุดธุรกิจก็เติบโตและประสบความสำเร็จ
เรื่องของพีช พชร จึงเป็นบทเรียนและตัวอย่างที่สอนให้รู้ว่าการเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย มีชื่อเสียง แม้จะเป็นแต้มต่อ แต่ไม่ได้แปลว่าความสำเร็จจะง่ายกว่าใคร ทุกอย่างต่างมีขั้นตอนที่ต้องอาศัยการมีวินัย การวางแผนที่ดี ความอดทน และการเรียนรู้จากประสบการณ์ ซึ่งตรงนี้เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จในเรื่องการเงินและการลงทุนได้ในระยะยาวได้อย่างแท้จริง
1
#aomMONEY #พีชพชร #PotatoCorner #คนดังกับการเงิน
โฆษณา