ตราแผ่นดิน 2505 และ ตราครุฑ 2517 และ จากเงินตราสู่เครื่องรางล้างอาถรรพ์
ตราแผ่นดิน 2505 และ ตราครุฑ 2517 และ จากเงินตราสู่เครื่องรางล้างอาถรรพ์
สุดยอดความเชื่อ กับเหรียญบาท : เหรียญล้างอาถรรพ์: ตำนานพุทธคุณและเกร็ดประวัติศาสตร์แห่งยุค"
เหรียญบาทตราแผ่นดิน 2505 และ เหรียญบาทตราครุฑ 2517 และ จากเงินตราสู่เครื่องรางล้างอาถรรพ์
---
สวัสดีครับท่านผู้ฟังทุกท่าน ยินดีต้อนรับเข้าสู่ "เรื่องเล่าหลากตำนาน บทความบรรยายเสียง" ในวันนี้ครับเราจะพาทุกท่านไปฟังเรื่องเล่า ความเชื่อ และพลังศรัทธา ที่ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทยมาจนถึงทุกวันนี้
ในวันนี้เราจะมาพูดถึง "2 เหรียญล้างอาถรรพ์" เหรียญบาทตราครุฑปี 2517 หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อคือ เหรียญมหาบพิตร และเหรียญบาทตราแผ่นดินปี 2505 ที่เล่าขานกันว่า หากใช้ร่วมกัน จะก่อเกิดพุทธคุณครอบจักรวาล ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันภัย เปิดทางสู่ความสำเร็จต่างๆทางโชคลาภ หรือแม้กระทั่งล้างอาถรรพ์ในสถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าผีดุ
นอกจากทั้ง2เหรียญนี้จะใช้เป็นเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจไทยแล้ว ยังมีความเชื่อและตำนานประสบการณ์ต่างๆอีกมากมาย
ที่เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับประวัติการสร้างเหรียญทั้งสอง พร้อมตำนานการใช้งานที่ถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น รวมถึงวิธีการใช้ให้เกิดผลดีสูงสุด
---
ตำนานและความเชื่อของ 2 เหรียญล้างอาถรรพ์
ในความเชื่อไทย เหรียญถือเป็นมากกว่าเพียงเงินตรา แต่เป็นเครื่องรางแห่งพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยปกป้องคุ้มครองและนำพาโชคดีมาให้
เหรียญตราครุฑ ปี 2517 หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า เหรียญมหาบพิตร เชื่อกันว่าเป็นตัวแทนของพญาครุฑ สัญลักษณ์แห่งอำนาจและความมั่นคง การพกเหรียญนี้ติดตัวจะช่วยเสริมบารมีและเปิดทางในชีวิต โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับอุปสรรค เช่น การเดินทางเข้าป่าที่ขึ้นชื่อว่าผีดุ หรือในพื้นที่ที่เชื่อว่ามีอาถรรพ์แรง
เหรียญตราแผ่นดิน ปี 2505 สื่อถึงความมั่นคงของแผ่นดินและพุทธคุณที่ปกป้องภัยจากสิ่งชั่วร้าย เหรียญนี้มักถูกใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น การขอเปิดทางจากเจ้าที่ เจ้าป่าเจ้าเขา หรือวางใต้หมอนแล้วสวดคาถายันทุนกำกับ ก็จะเชื่อว่าจะป้องกันฝันร้าย และสิ่งไม่ดีที่จะมารบกวน ในเวลานอน
---
ประสบการณ์การใช้เหรียญทั้งสองร่วมกัน
เรื่องเล่าจากผู้ศรัทธาเกี่ยวกับการใช้เหรียญตราครุฑและเหรียญตราแผ่นดินร่วมกันยังคงถูกถ่ายทอดมาจนถึงปัจจุบัน เช่น
การนำเหรียญตราครุฑไปตรอกลงต้นไม้ใหญ่ หรือจอมปลวกที่เชื่อว่ามีอาถรรพ์แรง เหมือนเป็นการประทับตราแห่งแผ่นดิน ก็เชื่อกันว่าจะช่วยให้สามารถเปิดทางก่อสร้างหรือทำงานในพื้นที่นั้นได้อย่างปลอดภัย โดยไม่มีสิ่งชั่วร้ายมารบกวน
ส่วน การใช้เหรียญตราแผ่นดินก็ทำคล้ายๆกัน หรือบางความเชื่อนั้นก็จะทำใส่ในขันน้ำมนต์ แล้วทำพิธีขอทางจากเจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้าเขา ก่อนเริ่มงานสำคัญ เช่น การตัดถนนทำทางหรือเปิดป่า
แต่ถึงกระนั้นในการทำพิธีไม่ใช่ใครทั่วไปก็จะทำมั่วๆตามใจได้ หากต้องมีวิชาอาคมที่ถูกถ่ายทอดจากครูบาร์อาจารย์ หรือเป็นเจ้าพิธีในการทำพิธี
ขอขมา ฟ้าดินให้ถูกต้อง และต้องทำการสวดบทองค์การต่างๆในมนต์คาถา ในการทำพิธีประกอบ จึงจะถือว่าเป็นสำเร็จ
บางคนเล่าว่า หากนำเหรียญทั้งสองไปให้พระเกจิปลุกเสกและพกติดตัว จะช่วยป้องกันสิ่งไม่ดีได้และก็ยังเสริมดวงชะตา ให้กับผู้บูชา
หรือบางคน ก็นำเหรียญทั้ง2นี้ มาปะกบเข้าด้วยกัน แล้วสร้างเป็นวัตถุมงคลใหม่ เช่น ทำเป็น เบี้ยกรอกปรอท ทำเป็นแหวน ทำเป็นกำไรข้อมือ หรือ เลี่ยมใส่กรอบ พกติดตัวกันเลยทีเดียว หรือจะออกแบบดีไซน์ในรูปแบบอื่นก็ขึ้นอยู่กับศิลปินผู้สร้างที่จะรังสรรค์ชิ้นงานออกมา
กับอีกตำนานหนึ่งคือ
เงินปากผี:
ในพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับความตาย มีความเชื่อว่าเหรียญตราเหล่านี้สามารถใช้เป็น "เงินปากผี" โดยจะถูกใส่ไว้ในปากของผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะผู้ที่ตายอย่างไม่ปกติหรือที่เรียกว่าตายโหง เพื่อ "กดวิญญาณ" ไม่ให้กลับมาหลอกหลอนคนเป็น เปรียบเสมือนเป็นสัญญาแห่งความสงบระหว่างโลกคนตายและคนเป็น บางพื้นที่เชื่อว่า หากไม่มีเงินปากผี วิญญาณอาจไม่ยอมเดินทางไปยังโลกหน้า และกลายเป็นผีเฮี้ยนที่หลอกหลอนคนที่ยังอยู่
อีกเรื่องคือ
เงินโปรยทางให้คนตาย:
อีกหนึ่งความเชื่อที่น่าขนลุกคือ การใช้เหรียญเหล่านี้โปรยตามเส้นทางขบวนแห่ศพ เพื่อเป็นการซื้อทางให้กับผู้ตาย เปรียบเสมือนการเปิดทางให้ดวงวิญญาณได้เดินทางสู่สัมปรายภพโดยไร้ซึ่งอุปสรรค บ้างเชื่อว่าหากทำพิธีนี้ไม่ถูกต้อง วิญญาณอาจหลงทางและกลายเป็นผีเร่ร่อนได้
**แต่ปัจจุบันนี้ก็ทำพิธีที่สืบทอดกันมา แต่จะใช้เป็นเหรียญทั่วไปทำพิธีแทนเพราะหาได้ง่ายและยังใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
มาต่อกันอีกเรื่อง คือ
ใช้เป็น เงินก้นถุงแห่งงานมงคล:
เหรียญตราเหล่านี้ยังถูกใช้ในงานมงคล เช่น เป็นเงินก้นถุงในงานบวชพระ หรือเงินโปรยทานในพิธีแห่นาค เชื่อกันว่าเงินนี้จะเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ถือครอง ทั้งยังเป็นเครื่องหมายของความมั่งคั่งและความราบรื่นในชีวิต บางท่านที่ได้เหรียญนี้จากพิธีโปรยทานก็จะนำไปบูชาที่หิ้งพระ หรือใส่ไว้เป็นเงินก้นถุงในกระเป๋าสตรางค์
---
มาพูดถึงเกร็ดประวัติศาสตร์ความเชื่อของเหรียญทั้งสอง กันอีกนิด นะครับ
เหรียญตราครุฑ ปี 2517
จัดสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 โดยมีสัญลักษณ์พญาครุฑที่แสดงถึงอำนาจและความคุ้มครองของแผ่นดิน เหรียญนี้สร้างตรงกับ ปีขาล ซึ่งในความเชื่อของคนไทย ปีขาลเป็นปีแห่งความแข็งแกร่งและการปกป้อง
นอกจากนี้ยังเชื่อว่าเหรียญตราครุฑช่วยเสริมโชคลาภให้กับผู้ครอบครอง ให้พบกับความสำเร็จในทุกสิ่ง
ส่วนความเชื่อในตัวเลขของ 2517 ใช้หลักเลขศาสตร์ของดวงดาว แทนดวงดาว จับคู่แรก 2 กับ 5 คือ คู่ธาตุดิน และ 1 กับ 7 เป็นคู่ธาตุไฟ และเหรียญกลม เป็นธาตุลม วัสดุเหรียญ เกิดจากการหลอมเหลวของโลหะมีธาตุน้ำแฝงอยู่ จึงจัดได้ว่า เป็นเหรียญ ธาตุครบ มีพลังพุทธคุณสูง
ส่วน
เหรียญตราแผ่นดิน ปี 2505 ก็จัดสร้างตรงกับปีนักษย์คือปีขาลเช่นกัน
และสร้างขึ้นในช่วงที่ประเทศไทยกำลังฟื้นตัวหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ มีบทบาทสำคัญในการ กำจัดกวาดล้าง กลุ่ม
ผู้มีอิธิพลนักเลงอันธพาล และฟื้นฟูเศรษฐกิจ และถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ ของการเมืองการปกครอง เหรียญนี้เป็นเหรียญบาทแรกที่ผลิตขึ้นใหม่หลังจากปรับมูลค่าจากเหรียญสตางค์ในปี 2500
และส่วนใน
เหรียญสตางค์ ปี 2500นั้น
ถือเป็นรอยต่อสำคัญในประวัติศาสตร์และจัดสร้างขึ้น เพราะตรงกับ ปีระกา ซึ่งเป็นปีเกิดของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ผู้มีบทบาทในการนำประเทศในยุคก่อน แต่ในปีเดียวกันนั้นเอง จอมพลสฤษดิ์ก็ได้ปฏิวัติและก้าวขึ้นมาครองอำนาจแทน
---
การเชื่อมโยงพุทธคุณและศรัทธา
ทั้งเหรียญตราครุฑและเหรียญตราแผ่นดินล้วนสะท้อนถึงความศรัทธาในพุทธคุณและการปกป้องจากสิ่งชั่วร้าย ความเชื่อที่สืบทอดมายาวนานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ด้านวัตถุ แต่ยังสะท้อนถึงจิตวิญญาณและความมั่นคงของคนไทยต่อแผ่นดิน
---
บทสรุปแห่งตำนาน
เหรียญตราครุฑและเหรียญตราแผ่นดินไม่ได้เป็นเพียงเงินตราแห่งยุคสมัย แต่ยังเป็นตัวแทนของความเชื่อและศรัทธาที่ลึกซึ้งในหัวใจของคนไทยทุกคน
สำหรับบางคน การครอบครองเหรียญเหล่านี้คือการได้พึ่งพลังอำนาจที่มองไม่เห็น เป็นการเสริมความมั่นใจในการเผชิญหน้ากับสิ่งที่อธิบายไม่ได้ เช่น การเดินทางไปในที่เปลี่ยว หรืออยู่ในพื้นที่ที่เชื่อว่ามีอาถรรพ์ หรือแม้แต่การป้องกันภัยจากวิญญาณที่ไม่สงบ
ในความเชื่อของผู้ศรัทธา เหรียญตราครุฑเปรียบเสมือนผู้พิทักษ์ที่ปกป้องเราจากสิ่งชั่วร้ายและช่วยเปิดทางในยามที่ทุกอย่างดูมืดมน ขณะที่เหรียญตราแผ่นดินคือเครื่องหมายแห่งความมั่นคงและการพลิกฟื้นดวงชะตาชีวิต
บางคนถึงกับกล่าวว่า หากพกเหรียญทั้งสองพร้อมกัน ศัตรูหรือผีปีศาจจะไม่กล้าเข้าใกล้ สิ่งอัปมงคลจะถูกขจัดออกไป และหนทางสู่ความสำเร็จจะเปิดกว้าง ราวกับถูกมือที่มองไม่เห็นช่วยผลักดัน การเงินไม่ขาดมือ เพราะมีเงินตราแห่งแผ่นดินที่คุ้มครองและบารมีของในหลวงรัชกาลที่9 ให้ชาวไทยทุกคนอยู่ดีกินดี ในแผ่นดินสยามนี้
แม้พลังของเหรียญจะขึ้นอยู่กับความเชื่อ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือ เหรียญทั้งสองเป็นตัวแทนของความหวังและศรัทธา ในสิ่งที่สูงส่ง และสิ่งนี้เองที่ช่วยให้คนไทยยืนหยัดต่อสู้กับอุปสรรคได้จนถึงทุกวันนี้
พลังแท้จริงของเหรียญอาจไม่ได้อยู่ในตัวเหรียญเอง แต่อยู่ในใจของผู้ที่ศรัทธา จงเชื่อมั่นและเดินหน้าไปอย่างไม่ย่อท้อ เพราะแผ่นดินนี้ยังคงปกปักรักษาคนดีเสมอ
ท้ายที่สุดนี้ ครับ ไม่ว่าเหรียญหรือเครื่องรางจะมีพลังมากเพียงใด พลังแท้จริงนั้นอยู่ที่ความดีในตัวเรา จงใช้ชีวิตด้วยความมุ่งมั่น ศรัทธา และไม่ประมาท
ขอขอบคุณที่รับฟังในบทความนี้ครับ ถ้าชอบก็ช่วยกดถูกใจ กดแชร์ และกดติดตามให้กับเราด้วยนะครับ เพื่อเป็นกำลังใจให้เราหาข้อมูลดีๆมาเล่าสู่กันฟังอีก
---
[รับฟังเสียงบรรยาย #อาร์ตแมวแดงได้ที่ลิ้งค์]
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
