Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
T
THA_SRI
•
ติดตาม
4 ม.ค. เวลา 15:13 • การศึกษา
การเรียนรู้เพื่อนำไปสู่การเป็น 'สื่อพลเมือง'
สวัสดีค่ะ เราชื่อ ธมนวรรณ์ ศรีวรรณ์ เป็นนิสิตของมหาวิทยาลัยพะเยา สาขาการสื่อสารสื่อใหม่ ตอนนี้เรากำลังอยู่ในช่วงการเรียนรู้เกี่ยวกับ Citizen Journalism หรือก็คือ สื่อพลเมือง
เริ่มแรกเราจะเริ่มเรียนเกี่ยวกับทฤษฎีต่างๆ ในฐานะสื่อพลเมือง ว่าเราจะเข้าไปทำสื่อให้เขา ทำงานร่วมกับเขา และพัฒนาชุมชนผ่านสื่อของเราได้อย่างไรบ้าง โดยการเรียนรู้นี้ก่อนจะได้ไปลงพื้นที่จริง เราจะได้จับกลุ่มทำงานกันกลุ่มละ 14 คน และเลือกชุมชนหรือหมู่บ้านของเราที่จะเข้าไปเรียนรู้การเป็นสื่อพลเมือง
ชุมชนที่กลุ่มเราเลือกคือ 'ชุมชนแม่กาหัวทุ่ง' เป็นชุมชนขนาดเล็กในตำบลแม่กา จังหวัดพะเยา เราเริ่มจากการลงพื้นที่เพื่อสำรวจและเก็บข้อมูลของบริบทชุมชน ทั้งเรื่องประชากร เรื่องของที่ตั้ง ลักษณะของชุมชน ประเพณี วัฒนธรรม วิธีการสื่อสาร รวมถึงปัญหาต่างๆ ของชุมชน เพื่อนำข้อมูลตรงนี้มาวิเคราะห์การทำสื่อของเราตามตารางการมีส่วนร่วมในสื่อกับอำนาจคนในชุมชน เพื่อที่เราจะได้เห็นภาพชัดเจนว่าในระดับไหน เราจะต้องทำงานและทำสื่ออย่างไงบ้าง ให้ตรงกับบริบทและปัญหาที่ชุมชนมี และสิ่งนี้จะทำให้เราเห็นภาพการทำงานด้วย
ตัวอย่างตารางการมีส่วนร่วมในสื่อกับอำนาจคนในชุมชน :
อ้างอิงจากหนังสือ : ตำรา CJ 2567 สื่อภาคพลเมือง
เพียงแค่เริ่มต้น ก็ทำให้เรารู้สึกได้ว่าการที่เราแค่ลงไปในชุมชนเพื่อเก็บข้อมูลและนำมาวิเคราะห์ เพียงแค่นี้ก็ทำให้เราได้เห็นถึงปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่เชื่อว่าหลายๆ คน หรือแม้แต่คนในชุมชนก็อาจจะมองข้ามไป อย่างเช่น ภายในชุมชนแม่กาหัวทุ่ง เกือบ 100% เป็นผู้สูงอายุ ลูกหลาน กลุ่มวัยรุ่น ต่างก็ออกไปเรียนหรือทำงานไกลบ้าน และเพราะด้วยอายุที่อยู่ในวัยเกษียณ ทำให้ไม่ได้มีงานทำ ต้องใช้ชีวิตเรียบง่ายไปวันๆ ไม่ได้มีกิจกรรมอะไรนอกจากการออกมาพูดคุยกับเพื่อนบ้านด้วยกัน ทำให้ผู้สูงอายุภายในชุมชนเขาเกิดความเหงา
หรืออีกปัญหาหนึ่งคือการที่ภายในชุมชนมีแต่ผู้สูงอายุ ทำให้ง่ายต่อการโดนหลอกจากการซื้อสินค้าออนไลน์ เพราะยังมีความเข้าใจไม่มากพอที่จะพิจารณาในการซื้อสินค้าจากอินเทอร์เน็ตตามแหล่งขายสินค้าต่างๆ เป็นต้น
ภาพระหว่างการลงพื้นที่หมู่บ้านแม่กาหัวทุ่ง
เมื่อเราวิเคราะห์บริบทของชุมชนแล้ว จากนั้นเราจะแบ่งประเด็นในการทำสื่อทั้งหมด 5 ประเด็น โดยทั้ง 5 ประเด็น เราก็จะมาวิเคราะห์ Need&Want
Need = สิ่งที่เราต้องการจะทำให้ชุมชน
Want = สิ่งที่ชุมชนต้องการจะให้ทำหรือแก้ไข
เราต้องการจะเข้าไปทำอะไรให้ชุมชนในประเด็นนี้ และชุมชนต้องการอะไรจากประเด็นนี้ เมื่อมี 5 ประเด็น ภายในกลุ่มเราก็จะแบ่งเป็นกลุ่มย่อยในการรับผิดชอบประเด็นนั้นๆ เฉลี่ยประเด็นล่ะ 2-3 คนต่อประเด็น ซึ่งเราก็ได้รับผิดชอบ 'ประเด็นประเพณี'
ในชุมชนแม่กาหัวทุ่ง จะมีประเพณีหนึ่งที่เรียกว่า ‘ประเพณีบวงสรวงผีเจ้าบ้าน’ ประเพณีนี้เป็นวัฒนธรรรมของชุมชนบ้านแม่กาหัวทุ่งมีการทำบุญศาลเจ้าบ้านที่ชาวบ้านมักเรียกว่าศาลพ่อท้าวควบบ้าน จะทำทุกปี ปีละ 1 ครั้ง เป็นการบวงสรวงเลี้ยงผีเจ้าบ้าน โดยจะมีผู้ทำพิธีกรรมคือ นายสงบ ปัญญานวล (ลุงน้อย) ซึ่งเราจะนำเอาหัวหมู ไก่ ขนม เหล้า ผลไม้ไปไหว้ ในช่วงกุมภาพันธ์-มีนาคม โดยมีความเชื่อว่าเพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในศาลช่วยดูแลหมู่บ้าน
ประเพณีนี้เป็นประเพณีที่ได้รับการสืบทอดมาภายในหมู่บ้าน และยังคงมีอยู่ในปัจจุบันที่ผู้สูงอายุในชุมชนยังคงปฎิบัติกันอยู่ แต่ทว่าพวกเขาก็กลัวว่าประเพณีนี้จะหายไปในรุ่นหลังๆ กลัวว่าจะไม่มีใครสืบสานวัฒธรรมของหมู่บ้านต่อ
เมื่อเราได้ข้อมูลในประเด็นประเพณีของเราแล้วว่ามันมีสิ่งนี้ และมีปัญหาตรงนี้อยู่ เราก็จะนำข้อมูลมาวิเคราะห์ว่าเรื่องนี้เราควรจะโฟกัสอะไร อะไรในประเด็นนี้ที่เราสามารถทำได้
ซึ่งเราวิเคราะห์ได้ว่า ตอนนี้เราอาจจะยังไม่สามารถทำให้คนรุ่นหลังมาเห็นความสำคัญของประเพณีนี้ได้ แต่ว่าเราสามารถรื้อฟื้นความทรงจำว่าประเพณีนี้เคยมีคุณค่าอย่างไงกับหมู่บ้านแม่กาหัวทุ่งนี้ เพื่อให้คนภายในหมู่บ้านที่อาจจะหลงลืมไปได้ถูกรื้อฟื้นความทรงจำตรงนี้กลับมา
เมื่อเราได้โฟกัสหรือเป้าหมายของเราแล้ว เราก็จะนำบริบทของการสื่อสารภายในหมู่บ้านมาวิเคราะห์เป็นตาราง ว่าภายในหมู่บ้านสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มไหนบ้าง แล้วนำมาวิเคราะห์ต่อว่าในแพลตฟอร์มเหล่านั้น เราสามารถผลิตสื่ออะไร เนื้อหาแบบไหนได้บ้างถึงจะเหมาะสมกับแพลตฟอร์ม เหมาะสมกับประเด็นที่เราทำและเหมาะสมกับชาวบ้านที่จะดูสื่อของเรา
จากนั้นแล้วเราก็จะเริ่มการผลิตออกมา ตามการวิเคราะห์ของเราและเผยแพร่ โดยเราก็จะมีการกำหนดตัววัดผล เพื่อดูว่าสิ่งที่เราทำไป มันประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่เราได้วางเอาไว้หรือไม่
โดยตัววัดผลที่เราได้กำหนดก็คือการที่เรื่องประเพณีบวงสรวงผีเจ้าบ้าน จะถูกนำมาเป็นวาระในที่ประชุมอย่างน้อย 1 ครั้ง
ซึ่งจากการได้ทำงานและเรียนรู้ตรงนี้ เรารู้สึกว่าเราได้ใกล้ชิดกับคนในหมู่บ้านมากขึ้น กว่าครั้งแรกที่เราลงพื้นที่ไปในชุมชน ทำให้การทำงานในครั้งต่อๆ ไปเราก็จะได้รับความร่วมมือมากกว่าครั้งแรกๆ อีกทั้งยิ่งเราไปเก็บข้อมูล แล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ เราก็ยิ่งได้เห็น ได้รู้จักชุมชนมากกว่าแต่ก่อน
ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าตัวเราในฐานะคนที่จะเป็นสื่อพลเมือง เราควรเริ่มต้นอย่างไง และควรดำเนินอย่างไงเพื่อที่เราจะได้ใกล้ชิดกับคนในชุมชน ได้ไปเป็นส่วนหนึ่งของคนที่เข้าไปช่วยเหลือชุมชน และนำไปสู่การทำงานร่วมกันกับคนในชุมชนได้ ซึ่งจากการทำงานและพื้นที่หลายครั้ง 'ความจิงใจที่มีต่อชุมชน' ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ อีกทั้งเรายังได้เรียนรู้การทำงานแบบเป็นขั้นเป็นตอน การเรียนรู้และได้เข้าไปทำงานตรงนี้จะช่วยฝึกสกิลและเราสามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ตรงนี้ไปประยุกต์ใช้กับการทำงานอื่นๆ ได้
บันทึก
6
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย