สื่อพลเมืองและการพัฒนาชุมชน ก้าวแรกที่แม่กาหลวง
การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ให้ความรู้สึกหลากหลาย ทั้งความอบอุ่น ความท้าทาย และความตื่นเต้น เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้มาลงพื้นที่ชุมชนแม่กาหลวง จังหวัดพะเยา ชาวบ้านที่นี่ไม่ได้เข้าถึงสื่อโซเชียลมากนัก ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรและค้าขาย การได้ลงพื้นที่ตรงนี้ทำให้เห็นถึงการต้อนรับที่อบอุ่น ชาวบ้านต่างยินดีที่จะให้ข้อมูลข่าวสาร สิ่งแรกที่สังเกตได้คือ ชุมชนนี้ไม่ได้มีปัญหาแค่เรื่องเศรษฐกิจ แต่ยังรวมถึงปัญหาด้านการเกษตรด้วย ค่าปุ๋ยมีราคาแพง ขณะที่รายได้กลับไม่สมดุลกับรายจ่าย
ปัญหาของเรื่องขยะที่ทิ้งไม่เป็นที่เป็นทาง ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณบ่อทิ้งขยะเดือดร้อนถึงกลิ่นที่เหม็น ในช่วงระหว่างที่พูดคุยกับชาวบ้านได้เห็นความพยายามในการแก้ปัญหาของชาวบ้านด้วยตัวเองมาโดยตลอด เเต่ก็ยังเป็นปัญหาที่ยังเเก้ได้ไม่ขาดหาย
ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่ไม่มีรายได้ประจำ จากการพูดคุยกับผู้ใหญ่บ้าน ได้ทราบว่าชุมชนมีโครงการทำอาหารขายเพื่อกระตุ้นรายได้ โดยชาวบ้านได้รวมตัวกันจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนเล็กๆ ที่ผลิตอาหารท้องถิ่น เช่น ไส้อั่ว ลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นเนื้อ และแหนม
สิ่งที่น่าชื่นชมคือ ชาวบ้านมีความตั้งใจที่จะพัฒนาสินค้าให้ดีขึ้น แม้ว่าจะยังขาดโอกาสในการเข้าถึงตลาดและช่องทางการขายที่กว้างขึ้น วิสาหกิจชุมชนของที่นี่ยังขาดความรู้ด้านการตลาด เช่น การทำบรรจุภัณฑ์ให้ดูน่าสนใจหรือการตั้งราคาที่เหมาะสม หลังจากได้พูดคุยกับผู้ใหญ่บ้านจึงได้ช่วยแนะนำชาวบ้านในการถ่ายรูปอาหารให้น่าสนใจ
การทำโปรโมชั่นง่ายๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าเพื่อลงขายสินค้าทางเพจ Facebook ชุมชนแม่กาหลวง หมู่ 3 ซึ่งชาวบ้านก็ดูสนใจและพร้อมจะลองทำตาม การได้ช่วยชาวบ้านทำอาหารในวันนั้นเป็นช่วงเวลาที่ประทับใจที่สุด เพราะไม่ได้แค่เรียนรู้สูตรอาหารพื้นบ้านที่มีเอกลักษณ์ แต่ยังได้เห็นความสามัคคีของคนในชุมชน ทุกคนได้ช่วยกันคนละไม้คนละมือ
บรรยากาศเต็มไปด้วยการร่วมเเรงร่วมใจแสดงให้เห็นถึงการร่วมมือกันในชุมชนและการทำงานเป็นทีมที่เข้มแข็ง ซึ่งทำให้ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี สิ่งสำคัญที่สุดที่ได้เรียนรู้จากการลงพื้นที่ครั้งนี้คือ
ความสำคัญของการรับฟัง ชาวบ้านรู้ดีที่สุดว่าเขาต้องการอะไร และวิธีการช่วยเหลือที่ได้ผลที่สุดคือ การร่วมกันคิดและแก้ปัญหาไปพร้อมกับพวกเขาไม่ใช่การเข้าไปชี้นำ เราได้เห็นกระบวนการคิด การลงมือทำ และความมุ่งมั่นของชาวบ้านในการพัฒนาชุมชนด้วยตัวเอง สิ่งเหล่านี้ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าความเปลี่ยนแปลงเกิดจากความร่วมมือจากคนในชุมชนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
การลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ได้ให้แค่ความรู้ด้านวิสาหกิจชุมชนหรือการเกษตรเท่านั้น แต่ยังทำให้เราเห็นคุณค่าของความเรียบง่าย ความสามัคคี และการพัฒนา หวังว่าความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่ได้แบ่งปันกับชาวบ้านจะช่วยจุดประกายความคิดใหม่ๆ และช่วยให้ชุมชนเดินหน้าต่อไปได้ อีกสิ่งที่เราได้เรียนรู้คือ ความสามารถของชุมชนในการปรับตัวและการพึ่งพาตนเอง แม้จะมีข้อจำกัดทางโอกาสในการตลาด
แต่ชุมชนนี้ก็ยังสามารถสร้างสิ่งที่มีคุณค่าและเป็นเอกลักษณ์ของตนเองได้ หากมีการพัฒนาในด้านต่างๆ เช่น การตลาด การประชาสัมพันธ์ และการขยายช่องทางการขายให้กว้างขวางขึ้น เชื่อว่าวิสาหกิจชุมชนแห่งนี้จะสามารถสร้างรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากนักข่าวพลเมือง คือการลงพื้นที่ไม่ใช่แค่การเก็บข้อมูลแล้วกลับออกมา แต่เป็นการเปิดใจรับฟังชาวบ้าน เข้าใจปัญหาและวิถีชีวิตของพวกเขาอย่างแท้จริง เพราะบางอย่างที่เราเห็นจากภายนอกอาจไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด การเล่าเรื่องของชุมชนให้คนภายนอกฟังจึงต้องสะท้อนถึงความเป็นจริงและความต้องการของชาวบ้าน
เพื่อให้เกิดการช่วยเหลือหรือพัฒนาที่ตรงจุด นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้ว่าการสื่อสารที่เรียบง่าย ชัดเจนและจริงใจสำคัญมาก เพราะมันช่วยสร้างความไว้วางใจ และทำให้เรากลายเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนได้ง่ายขึ้น
การลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ได้ทำให้เราเพียงแค่เข้าใจปัญหาของชุมชนในเชิงลึก แต่ยังทำให้เราได้เห็นความสำคัญของการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชาวบ้าน การได้เห็นชุมชนพยายามทำทุกอย่างด้วยตัวเองในท่ามกลางความยากลำบาก เป็นการย้ำเตือนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความตั้งใจของพวกเขา หวังว่าการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ในครั้งนี้ จะช่วยให้ชุมชนแม่กาหลวงสามารถพัฒนาต่อไปได้
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
