ความรู้สึกและสื่อที่ได้รับจากบทบาท “ Citizen journalism “
สวัสดีค่ะ ฉันชื่อโฟม กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาการสื่อสารสื่อใหม่
คณะบริหารธุรกิจและนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา จากกลุ่ม Together Strong
ในบทความนี้ฉันจะมาพูดถึงความรู้สึกและประสบการณ์ของการได้รับบทบาทหน้าที่เป็น”สื่อพลเมือง”ให้กับคนในชุมชนหมู่บ้านหม้อแกงทองหมู่ 1 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา 127323 Citizen Media ในสาขาที่ฉันเรียน
เริ่มสัปดาห์แรกตอนได้รับหน้าที่เป็น สื่อพลเมือง ในหัวคิดไม่ออกว่าเราต้องไปทำอะไรบ้างในชุมชน เราเป็นแค่นักศึกษา? จะช่วยเหลือชาวบ้านได้อย่างไร? ในครั้งแรกพวกเราได้ลงไปสำรวจชุมชนประมาณ 6 หมู่บ้าน และสอบถามชาวบ้านแต่ละชุมชนว่าเกิดปัญหาอะไรบ้างในชุมชนตัวเอง แต่พอมาถึงหมู่บ้านหม้อแกงทองรู้สึกว่าชอบหมู่บ้านนี้อย่างบอกไม่ถูก อีกทั้งชาวบ้านส่วนมากให้การต้อนรับที่ดี อาจจะมีส่วนน้อยที่งงว่าใครเข้ามาทำอะไร เพราะที่นี่เป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ บรรยากาศเงียบสงบ
ในช่วงแรกหลังจากที่พวกเราไปลงพื้นที่ กลุ่มพวกเราได้เลือกชุมชนนี้เพื่อที่จะลงมือทำงานในส่วนของรายวิชา ซึ่งเราจะต้องศึกษาและรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับชุมชน ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาในชุมชนทุกๆด้าน สภาพแวดล้อม การเป็นอยู่ในชุมชน ประเพณีและวัฒนธรรม จริงๆ ถ้าเอาง่ายๆ มีงานส่ง เราอาจจะแค่ค้นหาทุกอย่างในช่องทางออนไลน์เกี่ยวกับสิ่งข้างต้นที่พิมพ์มาทั้งหมดก็ได้ แต่การที่เราไปลงพื้นที่จริง ไปเห็นทุกอย่างด้วยตนเอง ไปรับสารจากชาวบ้านที่ส่งผ่านคำพูด นี่คือสิ่งที่ทำให้เราเข้าใจและรู้จักชุมชนมากกว่า
หลังจากที่พวกเราลงพื้นที่หาข้อมูล จะต้องนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ว่าชุมชนเกิดปัญหาอะไรขึ้นบ้าง และจะเป็นสื่อพลเมืองอย่างไรเพื่อช่วยแก้ปัญหาในชุมชน แต่ทุกอย่างคงไม่ราบรื่นไปหมด ปัญหาหลักคือข้อมูลไม่มากพอ จึงต้องทำการลงพื้นที่อีกหลายครั้งเพื่อสอบถามปัญหา ทั้งถามชาวบ้าน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อมาเรียบเรียงและวิเคราะห์ว่าจริงๆ แล้ว สิ่งที่คนในชุมชนต้องการคืออะไร ปัญหาในชุมชนที่พบเจออยู่ อยากให้มีการพัฒนาอะไรบ้าง
ต่อมาคือเราจะทำสื่อแบบไหนออกมาให้ตรงจุดกับคนในหมู่บ้าน ทำเพื่ออะไร ช่องทางไหน ทำไปทำไม ทำออกมาแล้วจะมีการเปลี่ยนแปลงจริงๆ มั้ย สิ่งที่ยากคือการทำให้คนในชุมชนมามีส่วนร่วมในการสร้างสื่อ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ต้องติดต่อกับชาวบ้าน วางแผนงาน และเวลาว่างที่ตรงกันของพวกเรากับชาวบ้านคืออุปสรรคสำคัญในการทำงาน เพราะทุกคนต่างมีหน้าที่ อีกทั้งหมู่บ้านมีเครื่องมือสื่อสารไลน์กลุ่มหมู่บ้านกับหอกระจายเสียง ทำให้บุคคลภายนอกไม่สามารถรับรู้ถึงปัญหาได้ นอกจากผู้ใหญ่บ้านที่เป็นคอยประสานงานให้
แต่พวกเรายังคงดำเนินงานต่อไป หลังจากลงพื้นที่และไปปรึกษาผู้ใหญ่บ้าน จึงได้ทำการปรับแก้และเข้าใจในเนื้อหางานมากขึ้น เรียกว่าเริ่มจับต้นชนปลายได้ดีกว่าเดิม
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทำงานในครั้งนี้สำหรับฉัน
● การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด แม้คิดว่าเราจะรู้มากพอแล้วก็ตาม
● การได้ทำความรู้จักคนใหม่ๆ ได้เห็นสังคมใหม่ๆ
● ความหลากหลายของความคิดและมุมมอง
● การวางแผนงานที่ดี ทำงานเป็นระบบ จะนำไปสู่งานที่มีคุภาพ
สุดท้าย ประสบการณ์ในการทำงานครั้งนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับฉันมาก ถึงแม้ตอนนี้งานจะยังไม่เสร็จ 100% แต่ระหว่างทางนั้นได้เรียนรู้หลายๆ อย่าง นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อไปใช้ในอนาคต และทำให้รู้ว่าเราเองก็สามารถช่วยเหลือชุมชนได้ โดยการสร้างความเข้าใจระหว่างผู้คน และเป็นก้าวเล็กๆ ในการขับเคลื่อนสังคมไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้
การเป็นสื่อพลเมืองไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือในการส่งข่าวสาร แต่ยังช่วยส่งเสริมให้เกิดความรับผิดชอบและการมีส่วนร่วมในสังคม ส่งผลดีต่อการพัฒนาชุมชน.
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
