5 ม.ค. เวลา 15:57 • การศึกษา
ตำบลแม่กา

บทเรียนจาก "หมู่บ้านแม่กานาไร่เดียว" กับการสื่อสารเพื่อสังคม

สวัสดีครับทุกคน ผมจะมาเล่าประสบการณ์ในการทำงานในหน้าที่สื่อพลเมืองของผม ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมชื่อ ปอร์เช่ ปฏิพัทธ์ ใจดี เป็นนิสิตมหาวิทยาลัยพะเยา สาขาวิชาการสื่อสารสื่อใหม่
เริ่มต้นมาจากผมเรียนวิชา "Citizen Media" ซึ่งเป็นวิชาเกี่ยวกับการสื่อสารในหน้าที่ของพลเมือง เมื่อพูดถึง "Citizen Media" หรือ "สื่อของพลเมือง" เรามักนึกถึงการที่คนธรรมดาอย่างเราๆ ที่สามารถสร้างสื่อได้ด้วยตัวเอง เพื่อส่งเสียง ความคิด และเรื่องราวของตัวเองออกสู่สังคมโดยไม่ต้องพึ่งพาสื่อหลัก
การเรียนรู้ในวิชานี้เปิดโอกาสให้ผมได้ใช้บทบาทของ "นักสื่อสาร" ผ่านเลนส์ที่เชื่อมโยงระหว่างความรู้ที่เรียนมาและประสบการณ์ในความเป็นจริง
จุดเริ่มต้น หมู่บ้านแม่กานาไร่เดียว
กลุ่มของผมได้เลือกหมู่บ้านแม่กานาไร่เดียว เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางความเขียวขจีของป่าเขา ซึ่งสะท้อนถึงการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและการพึ่งพาตนเอง การได้พูดคุยกับชาวบ้านและสัมผัสวิถีชีวิตของพวกเขา ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่า"ความยั่งยืน"ไม่ได้หมายถึงแค่การปลูกพืชหรือดูแลสิ่งแวดล้อม แต่ยังหมายถึงการ "สร้างความสัมพันธ์ระหว่างคนในชุมชน"
ในฐานะนักสื่อสาร ผมได้ใช้สิ่งที่เรียนรู้ไปในการจัดหาวิธีการสื่อสาร เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวปัญหาของหมู่บ้านนาไร่เดียวผ่านมุมมองของชาวบ้าน การทำสื่อพลเมืองไม่ได้เป็นแค่การรายงานสิ่งที่เห็น แต่เป็นการเปิดพื้นที่ให้เสียงของคนในชุมชนให้ดังขึ้น การได้ฟังเรื่องเล่า เรื่องราว ปัญหา จากชาวบ้าน ความเป็นอยู่ การใช้ชีวิตท่ามกลางป่าเขา ปัญหาที่เจอ เช่น นำประปาไม่เพียงพอ ไม่มีแหล่งเผาขยะ ฯลฯ เป็นแรงจูงใจที่ทำให้ผมอยากส่งต่อเรื่องราวเหล่านี้
ความท้าทายและสิ่งที่ได้เรียนรู้
การสร้างสื่อในฐานะสื่อพลเมือง ไม่ได้ง่ายเหมือนการถ่ายรูปหรือเขียนบล็อกทั่วไป แต่ต้องคำนึงถึงจริยธรรมและความรับผิดชอบ ผมได้เรียนรู้ที่จะตั้งคำถามว่า
"เรื่องราวนี้ส่งผลอย่างไรต่อผู้รับสาร ?"
"มันช่วยยกระดับเสียงของคนในชุมชนหรือไม่ ?"
ในขณะเดียวกัน ผมยังได้เห็นพลังของชุมชน และเป็นมุมมองใหม่เกี่ยวกับบทบาทของสื่อในสังคม ในขณะนั้นผมตระหนักได้ว่า "นักสื่อสาร" ไม่ใช่เพียงผู้ส่งสาร แต่ยังเป็น "ผู้สร้างความเปลี่ยนแปลง" การได้เล่าเรื่องหมู่บ้านแม่กานาไร่เดียวให้โลกภายนอกรับรู้ เป็นเหมือนการเปิดหน้าต่างเล็กๆ ให้ผู้คนได้เห็นว่าปัญหาที่แท้จริงอาจไม่ได้เห็นแค่ตาเปล่า ต้องเข้าไปสัมผัส สำรวจ และเรียนรู้ดวยตนเอง
การเรียนรู้ในครั้งนี้
ทำให้ผมเข้าใจว่า "สื่อพลเมือง" เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคม และในฐานะนักสื่อสาร ในอนาคตผมตั้งใจว่าจะใช้ทักษะนี้
เพื่อขับเคลื่อนเรื่องราวที่สำคัญและสร้างความตระหนักรู้ในประเด็นต่างๆ
เพื่อให้เสียงของประชาชนเป็นเสียงที่ดังและมีความหมายมากขึ้นในโลกที่เต็มไปด้วยสื่อ
โฆษณา