สิ่งที่ได้รับ ความรู้สึกและการเรียนรู้ผ่านเลนส์ในฐานะนักสื่อสารและสื่อพลเมือง

สวัสดีค่ะ หนูเมธชนันชัย ประเสริฐ อยู่กลุ่มเพื่อนพลเมือง กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะบริหารธุรกิจและนิเทศศาสตร์ สาขาวิชาการสื่อสารสื่อใหม่ มหาวิทยาลัยพะเยา ในภาคเรียนนี้พวกเราได้เข้าไปลงชุมชนบ้านนาไร่เดียว หมู่ 14 ตำบลแม่กา อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา เพื่อสอบถามและศึกษาข้อมูลในการนำมาทำงานเพื่อช่วยพัฒนาชุมชน
วิถีชีวิตของชุมชน ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยปลูกข้าวโพด
มันสำปะหลัง สับปะรด และมะพร้าว ชุมชนมีการรวมกลุ่มกันเพื่อสร้างรายได้เสริม เช่น การทำไม้กวาด จักสาน และหน่อไม้ดองซึ่งไปหามาจากในป่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความสามารถของคนในชุมชนในการใช้ทรัพยากรท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุดและจากการเยี่ยมชมครั้งนี้ หนูได้รับทั้งประสบการณ์ ความรู้ ชุมชนบ้านนาไร่เดียวไม่เพียงแต่เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญ แต่ยังเป็นตัวอย่างของการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและพึ่งพาธรรมชาติอย่างยั่งยืน
เมื่อหนูได้มีโอกาสลงพื้นที่ชุมชนบ้านนาไร่เดียว หมู่ 14 ตำบลแม่กา จังหวัดพะเยา ทำให้หนูรู้สึกได้ถึงความเป็นเอกภาพของชุมชน เนื่องจากคนในชุมชนอาศัยอยู่แบบพึ่งพากันเองและชอบความเป็นส่วนตัว รักสันโดษ เต็มไปด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแต่น่าประทับใจ แต่ถึงอย่างไรชุมชนนี้ก็ยังมีปัญหาที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้เอง นั่นคือปัญหาแหน่งน้ำไม่เพียงพอ พวกเราในฐานะนักสื่อสารจึงต้องเป็นกระบอกเสียงให้กับคนในชุมชน ช่วยกระจายเสียงของคนในชุมชนออกไปให้คนภายนอกได้รับรู้ว่าเขาต้องการอะไร
แม้ช่วงแรกจะดูยากเพราะคนในชุมชนอาศัยอยู่แบบสันโดษทำให้ไม่คุ้นชินกับการที่มีคนเข้ามาคุยด้วย คนในชุมชนจึงไม่กล้าพูดคุยและให้ข้อมูลเท่าไหร่ อุปสรรคนี้ทำให้เราได้ข้อมูลมาไม่เพียงพอ แต่ภายหลังพอคนในชุมชนเข้าใจว่าสิ่งที่เราทำคืออะไรและจะช่วยอะไรเขา พวกเขาก็ยอมเปิดใจและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และทำให้เราได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง
เช่น แม้คนในชุมชนจะมีปัญหาแต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจากเสียงของพวกเขาไม่ดังพอ และยังไม่เข้าถึงเทคโนโลยีมากขนาดนั้น พวกเราจึงต้องทำหน้าที่ตรงนี้แทนโดยการสร้างสรรค์สื่อและเผยแพร่ออกไปให้คนภายนอกได้รับรู้และเข้าใจถึงปัญหาที่คนในชุมชนได้รับ และเข้ามาช่วยเหลือคนในชุมชนได้อย่างตรงจุด
ความรู้สึกที่ได้รับคือการได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ทำให้หนูรู้สึกถึงความอบอุ่นและเป็นกันเองของคนในชุมชน ที่แม้จะมีชีวิตเรียบง่าย แต่ก็เปี่ยมด้วยความสุขจากการพึ่งพาอาศัยกัน สามัคคีกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกันเองภายในชุมชน
สิ่งที่ได้เรียนรู้คือในฐานะนักสื่อสาร หนูได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรน้ำในชุมชนบ้านนาไร่เดียว ซึ่งเป็นปัญหาที่ชาวบ้านต้องเผชิญทุกปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ที่ชาวบ้านจะมีน้ำไม่พอใช้ แม้จะมีน้ำที่สำรองไว้แล้วก็ตาม และน้ำที่ใช้ในการทำการเกษตรจะต้องขุดบ่อเองเพื่อให้มีน้ำเพียงพอ นี่เป็นความท้าทายที่ชุมชนต้องเผชิญและแก้ไขด้วยความพยายามและความอดทน
อีกทั้ง หนูได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ชีวิตที่พึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติที่ชาวบ้านบางส่วนยังคงใช้วิธีเก็บของป่าเพื่อนำมาทำอาหารและขาย และยังเลี้ยงหมาเพื่อใช้ในการนำทางและป้องกันอันตรายเวลาเข้าป่าอีกด้วย เป็นวิถีชีวิตที่แสดงถึงการพึ่งพาธรรมชาติและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความประทับใจที่หนูได้รับจากการลงพื้นที่ชุมชนบ้านนาไร่เดียว ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ทำให้หนูมีมุมมองที่กว้างขึ้นและได้เข้าใจถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความสุขของชาวบ้านที่นี่ และพวกเราทุกคนยังหวังว่าสื่อที่พวกเราทำจะเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สามรถช่วยเหลือคนในชุมชนให้แก้ไขปัญหาได้ และหวังว่าทุก ๆ คนจะให้ความสนใจ คอยเป็นกำลังใจ และให้ความช่วยเหลือคนในชุมชนนี้พัฒนาชุมชนให้ดียิ่งขึ้น
"เมื่อสื่อทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้กับชุมชน ทุกเสียงเล็กๆ จะสามารถรวมพลังกันเพื่อขับเคลื่อนสังคมไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน และทำให้ปัญหาที่เคยถูกมองข้าม ได้รับความสนใจและการแก้ไขอย่างแท้จริง"
โฆษณา