15 ม.ค. เวลา 14:05 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

“คนแบบเราจะโง่ยกทุกอย่างให้ผู้ชายไม่ได้หรอก"

บทเรียน Emotional Investing จาก 'วิมานหนาม' เมื่อทองคำลงทุนไถ่ที่คืนเป็นชื่อเสก
[ 📍 ที่มาที่ไปของหนังเรื่อง ‘วิมานหนาม’ มีการสปอยล์เนื้อหา ]
ทองคำกับเสกเป็นคู่รักที่ตัดสินใจสร้างอนาคตด้วยกันผ่านการลงทุนในสวนทุเรียน ทองคำเป็นคนหาเงินมาลงทุนและปิดดีลต่างๆ ส่วนเสกทำงานในสวน ดูแลต้นทุเรียนด้วยความรักและทุ่มเท เวลาผ่านไป เมื่อทุเรียนเริ่มออกดอก เสกจึงขอทองคำแต่งงาน แต่ในเวลานั้นกฎหมายยังไม่ยอมรับการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน
ทองคำตัดสินใจขายบ้านของตัวเอง เอาเงินมาไถ่ที่ดินสวนทุเรียนที่เป็นของพ่อเสก ทั้งสองคนตั้งใจว่าจะใช้โฉนดที่ดินแทนทะเบียนสมรส เป็นสัญลักษณ์ของความรักและความผูกพันระหว่างทั้งสอง แต่ชื่อตามโฉนดยังเป็นชื่อของเสกคนเดียว
เมื่อเวลาผ่านไป เสกพลัดตกจากต้นทุเรียนเสียชีวิต ทำให้ตามกฎหมายแล้ว สมบัติทั้งหมดรวมถึงที่ดินต้องกลายเป็นสมบัติของแม่เสกโดยอัตโนมัติ ทองคำที่เป็นคนหาเงินมาซื้อและดูแลสวนทุเรียนร่วมกับเสกตั้งแต่แรกจึงไม่มีสิทธิ์ได้อะไรเลย
ในตอนแรก ทองคำพยายามหาช่องทาง ทางกฎหมายเพื่อขอสิทธิ์ในที่ดินของตัวเองคืน แต่คำตอบที่เขาได้รับกลับเป็นคำเตือนที่แสนเจ็บปวดจากทนายที่ทองคำไปขอคำปรึกษาว่า"ถ้าตามกฎหมายคุณกับผู้ตายก็เหมือนเพื่อนกัน ต่อให้กฎหมายสมรสเท่าเทียมจะออกมาก็ช่วยไม่ได้ เพราะกฎหมายไม่มีผลย้อนหลัง” และ “คนแบบเราจะโง่ยกทุกอย่างให้ผู้ชายไม่ได้หรอก"
ทองคำจึงต้องคิดแผนหลอกล่อ พยายามทำทุกหนทางเพื่อเอาชนะใจแม่ของเสกโดยมีความหวังว่าแม่จะยกที่ดินคืนให้เขา แต่ก็มีคู่แข่งคือโหม๋ที่เคยเป็นแฟนเก่าของเสก และดูแลแม่ของเสกมาก่อน
[ 🛍️ Emotional Investing เมื่อความรักสั่งให้เราเอาเงินเก็บตัวเองไปไถ่คืนที่ดินของคนรัก ]
เรื่องราวของเสกและทองคำในวิมานหนาม สะท้อนให้เห็นถึงการนำอารมณ์และความสัมพันธ์มาใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน ถ้าเป็นการลงทุนคงคล้ายกับ Emotional Investing (การลงทุนด้วยอารมณ์)
การลงทุนด้วยอารมณ์ หมายถึงการที่เราปล่อยให้อารมณ์ เช่น ความกลัว ความโลภ หรือความอิจฉา ในที่นี้คือความรัก เป็นตัวขับเคลื่อนการตัดสินใจลงทุนของเรา แทนที่จะใช้ตรรกะหรือการใช้เหตุผลที่ดี เป็นเรื่องปกติที่เราจะใช้อารมณ์เพื่อตัดสินใจในการลงทุน แต่การปล่อยให้อารมณ์เหล่านี้เป็นตัวขับเคลื่อนการตัดสินใจสามารถทำให้คุณทำสิ่งที่แย่ที่สุดในเวลาที่เลวร้ายที่สุดได้
เมื่อนำเรื่องนี้มาเปรียบเทียบกับการลงทุนในตลาดหุ้นหรือการตัดสินใจทางการเงินอื่นๆ สิ่งที่ควรระวังคืออย่าให้อารมณ์เป็นตัวกำหนดการกระทำของเราเกินไป การรู้จักรักษาสมดุลระหว่างอารมณ์และเหตุผลในการตัดสินใจเป็นสิ่งสำคัญ เพราะอารมณ์อาจทำให้เราเห็นความเสี่ยงเป็นโอกาส หรือมองข้ามความเสี่ยงที่ควรระวังไป (อย่างในเรื่องนี้ทั้งสองคนก็ไม่ได้ระวังเรื่องของพินัยกรรม กรรมสิทธิ์และการเป็นเจ้าของร่วมเลย)
[ 🧑‍💼 ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะใช้อารมณ์ในการลงทุนมากกว่าผู้หญิง!? ]
ข้อมูลจาก Forbes กล่าวว่าตามการศึกษาเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะใช้อารมณ์ในการลงทุนมากกว่าผู้หญิง เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิงทำการลงทุนได้ดีกว่าอาจเป็นเพราะอารมณ์เป็นสิ่งที่พวกเธอคุ้นเคยมากกว่า
เมื่อพูดถึงเรื่องเงิน ผู้ชายมักจะรู้สึกมั่นใจมากกว่าผู้หญิง อดัม เฮนนิค (Adam Hennick) ที่ปรึกษาการลงทุน พบว่า 69.2% ของนักลงทุนชายล้วนเคยเสียใจที่ตัดสินใจลงทุนด้วยอารมณ์ แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ผู้ชายก็ไม่ค่อยทบทวนหรือสงสัยในการตัดสินใจของตัวเอง
นอกจากนี้ยังมีการศึกษาในแคนาดาที่พบว่าผู้ชายมีแนวโน้มที่จะซื้อหุ้นจากความรู้สึกหรือเกณฑ์สัญชาตญาณมากกว่าผู้หญิง (13.7% เทียบกับ 7.5%) และ 34.2% ของผู้ชายจะซื้อหุ้นตามคำแนะนำของเพื่อน มากกว่าผู้หญิง 27.8% ที่ทำเช่นนั้น
เทอร์เรนซ์ โอดีน (Terrance Odean) ศาสตราจารย์ด้านการเงินจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับการเลือกหุ้น โดยการศึกษานานเจ็ดปีของเขาพบว่า กลุ่มนักลงทุนหญิงมีผลตอบแทนดีกว่ากลุ่มนักลงทุนชาย 4.6% และโดยรวมแล้ว ผู้หญิงมีผลการลงทุนดีกว่าผู้ชาย 1.4%
จากข้อมูลนี้หลายคนอาจเริ่มรู้สึกว่า นี่เรากำลังใช้อารมณ์ตัดสินใจอยู่หรือเปล่า?
[ ⁉️ เราจะรู้ได้ยังไงว่าอารมณ์กำลังพาเราไปผิดทาง ]
ข้อมูลจาก Forbes กล่าวว่ามีความเชื่อผิดๆ ว่าผู้นำและนักลงทุนควรตัดขาดจากอารมณ์ ความรู้สึก แต่ในความเป็นจริงแล้ว การรับรู้และการจัดการกับอารมณ์อย่างเหมาะสมมีความสำคัญมาก
Vanguard หนึ่งในบริษัทด้านการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ชี้ให้เห็นว่าอารมณ์เป็นสิ่งที่มักกระตุ้นให้เราประหยัดและออมเงิน ความรักที่เรามีต่อครอบครัว ความต้องการความปลอดภัย และความหวังในอนาคตเป็นแรงผลักดันที่สำคัญในการลงทุน
จึงกล่าวได้อารมณ์และตรรกะต้องทำงานร่วมกันเมื่อเราตัดสินใจ แต่ทีนี้เราจะบาลานซ์ระหว่างอารมณ์และความรู้สึกได้ยังไง?
1. เราต้องตระหนักว่าอารมณ์ของเราส่งผลต่อเราแน่นอน ไม่ใช่แค่อารมณ์ที่แย่ อย่าง ความกลัว ความโกรธ หรือความเศร้าเท่านั้นที่สามารถนำไปสู่การตัดสินใจที่เป็นอันตรายได้ แต่อารมณ์เชิงบวก เช่น ความมั่นใจมากเกินไป ก็อาจเป็นปัญหาได้
2.ระวังตัวเองเพิ่มขึ้นเมื่อเจอกับสถานการณ์หรือเรื่องราวที่มีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นการตอบสนองของเรา เช่น ข่าวอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น คุณต้องรีบลงทุนกับ… ก่อนตัดสินใจเราควรตั้งสติและพิจารณาข้อเท็จจริงว่าการดำเนินการต่อจากนี้จะเป็นประโยชน์จริงๆ หรือเป็นเพียงการตอบสนองทางอารมณ์
3. เกือบพลาดแต่กลับมาได้ ไม่ได้แปลว่าจะไม่พลาดอีก นักจิตวิทยาพฤติกรรมได้ศึกษาและพบว่าประสบการณ์ใกล้พลาด แต่กลับมาได้ สามารถเพิ่มความมั่นใจของผู้คน และนำพวกเขาไปสู่การตัดสินใจที่มีความเสี่ยงกว่าได้แม้ว่าสถานการณ์ที่ดีขึ้นจะเป็นเพราะโชคหรือความสามารถที่แท้จริงก็ตาม
[ 🤟 วิธีหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเมื่อการลงทุนมาพร้อมความรัก ]
เมื่อต้องการตัดสินใจลงทุนร่วมกับคนรัก การตั้งคำถามที่ชัดเจนและตรงประเด็นจะช่วยให้เราเข้าใจความคิดเห็นและความคาดหวังของกันและกันได้ดียิ่งขึ้น มันคงจะดีไม่น้อยถ้าทองคำได้ถามคำถาม 4-5 คำถามนี้กับพี่เสกก่อนตัดสินใจไถ่ที่ดิน คือ
1. เรามีเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจนและเหมือนกันหรือไม่?
2. เรามีความสามารถในการรับความเสี่ยงทางการเงินมากแค่ไหน?
3. หากการลงทุนประสบความสำเร็จหรือขาดทุน เราจะแบ่งปันผลลัพธ์อย่างไร?
4. หากเกิดปัญหาหรือข้อพิพาทเราจะจัดการอย่างไร?
5. แผนการสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและการจัดการทรัพย์สินมีอะไรบ้าง เช่น เขียนพินัยกรรม, การเจ็บป่วย, การหย่าร้าง หรือสถานการณ์ฉุกเฉินอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม เรื่องของพี่เสกและทองคำที่เกิดในวิมานหนามกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว แต่ว่าสำหรับใครก็ตามที่กำลังวางแผนไถ่ที่ดินให้คนรัก - หรือลงทุนทำอะไรสักอย่างด้วยกัน การตั้งคำถามเหล่านี้และเรียนรู้เรื่องกฎหมายต่างๆ จะช่วยให้คุณและคนรักของคุณสามารถทำการลงทุนร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วย
เรียบเรียงโดย กนกจันทร์ เรืองวัฒนานนท์ (Content Creator, aomMONEY)
ที่มา:
The psychology of money and emotion
Emotional Investing: How Men And Women Can Find A Balance
#aomMONEY #วิมานหนาม #การบริหารจัดการเงิน #การเงินส่วนบุคคล #ให้โดยเสน่หา
โฆษณา