Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
วิศวกรเค้นประสิทธิภาพ
•
ติดตาม
31 ม.ค. เวลา 02:32 • ธุรกิจ
Overall Equipment Effectiveness?
OEE ตัวชี้วัดประสิทธิภาพเครื่องจักรที่สำคัญ
ตัวชี้วัดประสิทธิภาพของเครื่องจักรมีอยู่หลายประเภท เช่น
- เวลาที่เครื่องจักรหยุดทำงาน (Downtime)
- ปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นจากการผลิต (Defect Rate)
- จำนวนครั้งที่ต้องซ่อมแซมเครื่องจักร (Maintenance Frequency)
- ความสามารถของเครื่องจักรในการทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ (Performance Efficiency)
แม้แต่ละองค์กรอาจเลือกใช้ตัวชี้วัดที่แตกต่างกันไปตามกลยุทธ์การบริหารจัดการของตนเอง แต่มีตัวชี้วัดหนึ่งที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานที่ดีที่สุดในการประเมินประสิทธิภาพเครื่องจักร นั่นคือ OEE (Overall Equipment Effectiveness) ซึ่งได้รับการพัฒนาโดย Seiichi Nakajima ภายใต้ Japan Institute of Plant Maintenance (JIPM) ประเทศญี่ปุ่น
นิยามของ OEE
OEE เป็นตัวชี้วัดที่ใช้ประเมินประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่องจักร ซึ่งไม่เพียงช่วยให้ทราบว่าเครื่องจักรทำงานได้ดีเพียงใด แต่ยังสามารถระบุสาเหตุของความสูญเสียที่เกิดขึ้นภายในระบบการผลิต ทำให้องค์กรสามารถแยกประเภทของการสูญเสีย และวิเคราะห์รายละเอียดของปัญหานั้นได้อย่างชัดเจน ซึ่งนำไปสู่การปรับปรุงและลดการสูญเสียได้อย่างแม่นยำ
เครื่องจักรที่ดีควรเป็นอย่างไร?
เครื่องจักรที่ดีไม่ใช่เพียงเครื่องจักรที่ไม่มีปัญหา หรือสามารถเปิดใช้งานได้ทันทีที่ต้องการ แต่ต้องสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งหมายถึง
1. เครื่องจักรต้องเดินได้เต็มกำลัง – สามารถผลิตสินค้าได้ตามความสามารถสูงสุดของระบบ
2. เครื่องจักรต้องผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ – หากเครื่องจักรเดินได้เต็มที่แต่ผลิตสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ย่อมไม่มีประโยชน์ต่อการผลิต
3.เครื่องจักรต้องมีความปลอดภัย – การใช้งานต้องไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อพนักงานและสภาพแวดล้อม
องค์ประกอบของ OEE
OEE คำนวณจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่
ความพร้อมใช้งาน (Availability)
หมายถึงสัดส่วนของเวลาที่เครื่องจักรสามารถทำงานได้จริง เทียบกับเวลาทั้งหมดที่ควรจะสามารถทำงานได้
คำนวณจาก
𝐴𝑣𝑎𝑖𝑙𝑎𝑏𝑖𝑙𝑖𝑡𝑦= เวลาทำงานจริง / เวลาที่ควรทำงานได้ × 100
ประสิทธิภาพการทำงาน (Performance Rate)
หมายถึงความเร็วของการผลิต เทียบกับความเร็วที่ควรจะเป็น
คำนวณจาก
𝑃𝑒𝑟𝑓𝑜𝑟𝑚𝑎𝑛𝑐𝑒 = จำนวนสินค้าที่ผลิตได้ / จำนวนสินค้าที่ควรผลิตได้ × 100
อัตราคุณภาพของผลิตภัณฑ์ (Quality Rate)
หมายถึงสัดส่วนของสินค้าที่ผ่านมาตรฐานคุณภาพ เทียบกับสินค้าที่ผลิตทั้งหมดคำนวณจาก
𝑄𝑢𝑎𝑙𝑖𝑡𝑦 = จำนวนสินค้าที่ดี / จำนวนสินค้าทั้งหมด × 100
สูตรคำนวณ OEE คำนวณจากผลคูณของทั้งสามปัจจัย
𝑂𝐸𝐸=𝐴𝑣𝑎𝑖𝑙𝑎𝑏𝑖𝑙𝑖𝑡𝑦 × 𝑃𝑒𝑟𝑓𝑜𝑟𝑚𝑎𝑛𝑐𝑒 × 𝑄𝑢𝑎𝑙𝑖𝑡𝑦
ตัวอย่างเช่น หากโรงงานมี
Availability = 90%
Performance = 85%
Quality = 95%
ค่าประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักรคือ
𝑂𝐸𝐸 = 90%×85%×95%=72.675%
โรงงานที่มีประสิทธิภาพสูงมักมีค่า OEE 85% ขึ้นไป ในขณะที่โรงงานทั่วไปมักอยู่ที่ 60-70%
OEE มีความสำคัญอย่างไร?
1. ช่วยลดการสูญเสียในกระบวนการผลิต
OEE ทำให้สามารถมองเห็นปัญหาในกระบวนการผลิตได้อย่างชัดเจน เช่น
- การหยุดเครื่องจักรโดยไม่ได้วางแผน
- ความเร็วของเครื่องจักรต่ำกว่าปกติ
- สินค้าไม่ได้มาตรฐาน
2. เพิ่มผลผลิตโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม
- หากสามารถลด Downtime ได้ 30% ก็สามารถเพิ่มกำลังการผลิตโดยไม่ต้องซื้อเครื่องจักรเพิ่ม
- หากสามารถลดของเสียได้ 20% ก็สามารถเพิ่มปริมาณสินค้าที่จำหน่ายได้โดยไม่ต้องเพิ่มวัตถุดิบ
3. ลดต้นทุนการผลิต
- ลดค่าใช้จ่ายด้านการซ่อมบำรุง
- ลดของเสียที่ต้องทำซ้ำ (Rework)
- ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานโดยทำให้เครื่องจักรทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
4. เพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์
การใช้ OEE ทำให้สามารถระบุและแก้ไขปัญหาที่ส่งผลต่อคุณภาพของสินค้า ทำให้ได้สินค้าที่ได้มาตรฐานสูงขึ้น
5. เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
โรงงานที่สามารถรักษาค่า OEE ให้อยู่ในระดับสูง จะสามารถผลิตสินค้าได้ต้นทุนต่ำ และสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ดียิ่งขึ้น
แนวทางปรับปรุง OEE
นำระบบ TPM (Total Productive Maintenance) มาใช้
ป้องกันการเสียของเครื่องจักรล่วงหน้าให้พนักงานสามารถดูแลบำรุงรักษาเครื่องจักรเบื้องต้นนำ Lean Manufacturing และ Kaizen มาปรับใช้ลดความสูญเปล่าและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานนำเทคโนโลยี IoT และ AI มาวิเคราะห์ข้อมูล OEE
ติดตามประสิทธิภาพของเครื่องจักรแบบเรียลไทม์คาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเพื่อแก้ไขล่วงหน้าฝึกอบรมพนักงานให้มีทักษะในการใช้งานเครื่องจักรลดข้อผิดพลาดจากการปฏิบัติงานที่ผิดพลาด
บทสรุป
OEE เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ช่วยให้โรงงานสามารถประเมินและปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักรได้ การเพิ่ม OEE ช่วยให้โรงงานสามารถเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน ปรับปรุงคุณภาพ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร
การใช้ TPM, Lean Manufacturing, IoT และ Kaizen ร่วมกับ OEE จะช่วยให้โรงงานสามารถพัฒนาประสิทธิภาพของเครื่องจักรได้อย่างต่อเนื่อง และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในอุตสาหกรรมการผลิตในระยะยาว
#วิศวกรเค้นประสิทธิภาพ#hozenkaizen#leantpm
2 บันทึก
1
3
2
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย