2 ก.พ. เวลา 19:39 • กีฬา

จบไปแล้วสำหรับบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีกสัปดาห์นี้

โดยเป็นการพบกันระหว่างทีมอาร์เซน่อลและทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ ผลก็คืออาร์เซน่อลเปิดบ้านถล่มแมนเชสเตอร์ซิตี้ไปได้ด้วยสกอร์ 5 ประตูต่อ 1 โดยเกมส์นี้รายละเอียดอะไรที่ทำให้ผลการแข่งขันออกมาเกินคาดขนาดนี้ นัมเบอร์ 10 ได้สรุปเอาไว้ให้ทุกคนได้อ่านกัน
1.) อาร์เซน่อลขึ้นนำเร็ว-รับลึก-โต้กลับท้ายเกมส์
อาร์เซน่อลได้ประตูขึ้นนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 2 ของเกมส์จากความผิดพลาดในการพยายามสร้างเกมส์ขึ้นมาจากแดนหลังของแมนเชสเตอร์ซิตี้ นั่นทำให้อาร์เซน่อลสามารถเล่นเกมส์ตั้งรับลึกและรอจังหวะสวนกลับได้ สังเกตุว่าหลังจากขึ้นนำเร็วพวกเขาไม่ได้เพรสซิ่งแดนบนมากนัก แต่ปล่อยให้แมนเชสเตอร์ซิตี้ ได้พาบอลเข้ามาในแดนของพวกเขาและใช้การตั้งรับลึกสองชั้น ซึ่งต่องชมเลยว่าเกมส์นี้แผงหลังทั้งสี่คนของฝั่งอาร์เซน่อลมีระเบียบวินัยเกมส์รับและรักษาตำแหน่งตัวเองได้ดีมาก ๆ
2.) แมนเชสเตอร์ซิตี้เสียบอลหน้าประตูตัวเองและในแดนตัวเองบ่อย
เห็นได้ชัดว่าการขาดหายไปของโรดรี้ส่งผลเสียหายต่อแมนเชสเตอร์ซิตี้ในฤดูกาลนี้เป็นอย่างมาก เพราะการบิ้วอัพเกมส์จากแดนหลังของแมนเชสเตอร์ซิตี้ในตอนที่มีโรดรี้คอยเชื่อมประสานจากรับเป็นรุกนั้นดูลื่นไหลและมีข้อผิดพลาดน้อยมาก แน่นอนว่าถ้าคู่แข่งเป็นทีมที่ความสามารถต่างกันมาก แผงหลังของแมนเชสเตอร์ซิติ้และตัวแทนอย่างโควาซิชก็คงจะทำหน้าที่ได้แบบไม่เปิดแผลให้เห็น
แต่เมื่อต้องเจอกับคู่แข่งระดับเดียวกันรอยแผลของการขาดโรดรี้นั่นย่อมปิดไม่มิด เช่นการเสียประตูแรกก็เป็นผลจากการเสียบอลในแดนตัวเองจากการพยายามสร้างเกมส์ และการจ่ายบอลผิดพลาดของโฟลเด้นที่ถูกโธมัส ปาร์เกต์ตัดบอลได้ในแดนกลางจนนำมาสู่การเสียประตูที่สอง
3.) แดนบนไม่สามารถเพรสซิ่งการบิ้วอัพของอาร์เซน่อลได้
การเพรสซิ่งแดนบนที่เคยเป็นจุดแข็งของแมนเชสตอร์ซิตี้ไม่ได้สร้างความกดดันให้การสร้างเกมส์จากแดนหลังของอาร์เซน่อลเลย
ตรงนี้ต้องให้เครดิตดาบิด ราย่า ผู้รักษาประตูของอาร์เซน่อลด้วยที่เป็นผู้รักษาประตูที่ใช้เท้าได้เก่งมาก ๆ และไม่ได้แค่ใช้เท้าได้เก่งเท่นั้น เขายังสามารถออกบอลให้เพื่อนได้เปรียบในหลาย ๆ ครั้ง นั่นทำให้การสร้างเพรสซิ่งแดนบนของแมนเชสเตอร์ซิตี้ไม่สามารถทำได้เนื่องจากการมีดาบิด ราย่า เปรียบเสมือนอาร์เซน่อลมีผู้เล่นเอ้าท์ฟิลด์มากกว่าอยู่ 1 คนเสมอ
4.) ขาดมิดฟิลด์ตัวรับทำให้ไม่สามารถบุกต่อเนื่องและเมื่อโดนโต้กลับบอลของอาร์เซน่อลจะไปถึงกองหลังเร็ว
ในช่วงที่แมนเชสเตอร์ซิตี้อยู่ในฟอร์มที่ดี พวกเขาจะสามารถครองเกมส์บุกใส่คู่แข่งได้ตลอดแทบ 90 นาที เพราะพวกเขามีมิดฟิลด์ตัวรับที่อ่านเกมส์เก่งอย่างโรดรี้คอยป้องกันเกมส์สวนกลับของคู่แข่ง ทำให้พวกตัวรุกสามารถบุกได้อย่างสบายใจ
แต่ในเกมส์นี้เป๊ปไม่มีโรดรี้ มิดฟิลด์ตัวกลางสองตัวเป็นแบร์นาโด้ ซิลวาและโควาซิซ ซึงไม่ได้เป็นตัวรับโดยธรรมชาติทั้งคู่ทำให้บาลานซ์ในเกมส์เสียไป สังเกตุว่าเมื่ออาร์เซน่อลตัดบอลได้เกมส์รุกของอาร์เซน่อลจะทะลุขึ้นมาหาแผงหลังของแมนเชสเตอร์ซิตี้ได้เร็วมาก
5.) ขาดตัวป้อนบอลอย่างเดอบรอยน์
นี่คงเป็นปัญหาใหญ่ที่เป๊ปและลูกทีมของเขาต้องหาวิธีแก้ไขในระยะยาวให้ได้ เมื่อเพลย์เมคเกอร์อัจฉริยะอย่างเควิน เดอบรอยน์สังขารร่วงเลยไปตามกาลเวลา และฤดูกาลนี้อาจจะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเขากับแมนเชสเตอร์ซิตี้แล้วก็ได้
ในหลาย ๆ ฤดูกาลที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าเมื่อใดที่เกมส์รุกของแมนเชสเตอร์ซิตี้ตื้อตัน แต่ตราบใดที่มีเควิน เดอบรอยน์ เขาก็สามารถรังสรรค์แอสซิสต์สวย ๆ ให้กับบรรดากองหน้าของทีมได้เสมอ แต่ด้วยอายุอานามที่ปาเข้าไปเลขสามแล้ว จะให้เขาลงมาทำแบบนั้นในทุก ๆ เกมส์บนเวทีที่ใช้ร่างกายเยอะมากอย่างพรีเมียร์ลีกคงเป็นไปได้ยากแล้ว เป๊ปเองก็คงรู้ถึงข้อนี้เป็นอย่างดี และพยายามที่จะหาตัวแทนมาทดแทนอยู่ แต่เท่าที่เห็นในตอนนี้ยังไม่มีใครมาแทนที่ของเขาได้เลย
แน่นอนว่าข้อผิดพลาดของแมนเชสเตอร์ซิตี้เองเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้พวกเขาโดนถล่มคาเอมิเรตส์สเตเดียม แต่ก็ต้องชื่นชมความละเอียด ความมุ่งมั่นของอาร์เซน่อลที่พวกเขาแสดงออกตลอดทั้ง 90 นาทีว่าพวกเขาต้องการสามแต้มนี้มากจริง ๆ และสิ่งที่น่าจะทำให้สาวกเดอะกันเนอร์สภาคภูมิใจมากที่สุดในต่ำคืนนี้คงหนีไม่พ้นการได้เห็นสองดาวรุ่งจากรั้วอะคาเดมี่เฮลล์เอนด์ยิงประตูใส่คู่แข่งอย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้ต่อหน้าพวกเขา ยินดีด้วยกับแฟนเดอะกันเนอร์ส
#หากชื่นชอบบทความฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ
#แฟนๆเดอะกันเนอร์สและแฟนๆแมนซิตี้ร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้นะครับ #พรีเมียร์ลีกอังกฤษ #อาร์เซน่อล #แมนเชสเตอร์ซิตี้
โฆษณา