Blockdit Logo (Mobile)
วินทร์ เลียววาริณ
ยืนยันแล้ว
•
14 ก.พ. เวลา 08:00 • หนังสือ

ฉายหนังกลางแปลงเรื่อง Geopolitics ต่อ

ก่อนอื่น คำว่า Geopolitics เรามักแปลว่า ภูมิรัฐศาสตร์ อ่านแล้วอาจต้องแปลอีกที
จริงๆ แล้ว Geopolitics แปลง่ายๆ ได้ว่าการเมืองระหว่างประเทศ จำแค่นี้พอ
เล่าเรื่องบทบาทลีกวนยูในบทบาทหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงการเมืองระหว่างประเทศต่อ
ในปี 1972 ประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ช็อคชาวโลกโดยไปเยือนกรุงปักกิ่ง แต่ไม่ค่อยมีคนรู้ว่าลีกวนยูมีบทบาทอยู่หลังฉากที่กระตุ้นให้นิกสันไปเปิดสัมพันธ์กับจีน
ลีกวนยูแห่งประเทศเล็กๆ ชื่อสิงคโปร์เนี่ยนะ!
ไม่เชื่อก็ต้องอ่าน
ลีกวนยูบันทึกเรื่องนี้ไว้ว่า เขาคุยกับประธานาธิบดีนิกสันหลายรอบ
ลีกวนยูมีประสบการณ์ทางการเมืองในการเมืองโลกเข้มข้น ด้วยวิธีคิดทางยุทธศาสตร์ การวางแผน เขามองการณ์ไกล มีวิสัยทัศน์ระดับสูง จมูกไว ทำให้นิกสันยกย่องลีกวนยู ลีกวนยูเป็นหนึ่งในนักการเมืองนานาชาติไม่กี่คนที่นิกสันขอคำปรึกษาก่อนตัดสินใจสร้างสัมพันธ์กับจีนในปี 1972
นิกสันมองจีนแบบศัตรูเสมอมา จนมีคนเรียกเขาว่าเป็น Cold Warrior (นักรบสงครามเย็น) นิกสันบอกเสมอว่า ‘จีนแดง’ เป็นชาตินอกกฎหมาย มีแต่พวกนักชาตินิยมของกลุ่ม Free China หรือ Formosa/Taiwan เท่านั้นที่เป็นตัวแทนที่แท้จริงของจีน
แต่นิกสันก็เปลี่ยนมุมมองนี้เกี่ยวจีนคอมมิวนิสต์ มี 3-4 คนที่เปลี่ยนมุมมองของนิกสันได้แก่ประธานาธิบดี ชาร์ลส์ เดอโกลล์ ของฝรั่งเศส คอนราด อดีนาวเออร์ (Konrad Adenauer) แห่งเยอรมนีตะวันตก มูฮัมหมัด อายูบ ข่าน (Muhammad Ayub Khan) ของปากีสถาน และลีกวนยู
หลายคนนี้ทำให้นิกสันมองพ้นจากกรอบเดิม
นิกสันเป็นผู้นำที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อย ไม่ใช่แค่เชื่อมสัมพันธ์ แต่เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องการเมืองนานาชาติ
วันที่ 18 เมษายน 1967 นิกสันพบลีกวนยู ทั้งสองคุยกันอย่างเข้มข้นสองชั่วโมงเต็มเรื่องจีน
นิกสันถามลีกวนยูว่า “นโบายของสหรัฐฯต่อจีนควรเป็นอย่างไร?”
ลีกวนยูตอบว่า “ถ้าผมเป็นอเมริกา ผมจะพิจารณาว่าประเทศจีนมีเส้นพรมแดนสี่พันไมล์กับโซเวียต เส้นพรมแดนที่รัสเซียได้เปลี่ยนไปในศตวรรษที่ผ่านมา ดังนั้นสองประเทศนั้นมีปัญหาที่ยังสางไม่จบ มันไม่มีเส้นพรมแดนระหว่างสหรัฐฯกับจีน สหรัฐฯขีดเส้นเส้นหนึ่งข้ามช่องแคบไต้หวันด้วยกองเรือรบที่ 7 แต่นี่เป็นแค่เส้นบนน้ำ และไม่จำเป็นว่าจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป มีเรื่องมากมายที่สหรัฐฯจะได้ประโยชน์ที่ติดต่อจีน”
หลายเดือนต่อมา นิกสันส่งสัญญาณใหม่ออกไป ทั้งพูดกับบรรดานักธุรกิจชั้นนำ และผ่านบทความในนิตยสาร Foreign Affairs ของ Council of Foreign Relations (สภาความสัมพันธ์ต่างประเทศ)
นิกสันเริ่มได้คิดว่า คอมมิวนิสต์ก็มีหลายขั้ว สหรัฐฯควรตักตวงผลประโยชน์จากความร้าวฉานของจีนกับโซเวียตมากกว่าที่จะต่อต้านทุกคนที่ต่างจากตน
ดึงเมืองจีนกลับมาสู่สังคมโลก ดีกว่ารบกับจีน
นิกสันส่งสัญญาณออกไปว่า ความคิดและมุมมองของเขาเกี่ยวกับจีนเปลี่ยนไปแล้ว
ในปี 1967 นิกสันพูดว่า “มองไปไกล ๆ เราไม่สามารถปล่อยให้เมืองจีนอยู่นอกกลุ่มนานาประเทศได้ตลอดกาล บ่มเพาะแฟนตาซี อุ้มชูความเกลียดชังและข่มขู่เพื่อนบ้าน มันไม่มีพื้นที่บนดาวเคราะห์ดวงเล็ก ๆ นี้ สำหรับคนพันล้านคนที่มีศักยภาพดี อาศัยอยู่ในการโดดเดี่ยวที่ปั่นป่วน”
ในปี 1971 นิกสันบอกว่าจะไปเยือนจีน ทั่วโลกตกใจ แต่ลีกวนยูไม่แปลกใจสักนิด เขารู้แล้วว่ามันจะเกิดขึ้น
มุมมองการเมืองของนิกสันเป็นหนังคนละม้วนกับไบเดน ที่สกัดจีนจนกระทั่งจีนยิ่งโตกว่าเดิม
หลังจากนั้น ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ก็ไปหาท่านเหมา
โปรด stick-follow หนังกลางแปลงตอนต่อไป เรื่องนี้ยาว
อ่านตอนต่อไปที่: https://www.blockdit.com/posts/67ad7399fe1e76fe7f4c6f6f
จาก สร้างชาติจากศูนย์ / วินทร์ เลียววาริณ
สารคดีเกี่ยวกับชีวิตและผลงานของลีกวนยู รัฐบุรุษผู้สร้างชาติสิงคโปร์จากศูนย์ ที่เหมาะสำหรับผู้นำองค์กร ผู้บริการ นักการเมือง
21 เรื่อง ราคา 300 บาท = เรื่องละ 14.2 บาท (ไม่คิดค่าส่ง)
หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
ทำไมควรซื้อหนังสือเล่มนี้: https://www.facebook.com/photo/?fbid=1207283390760350&set=a.208269707328395
โฆษณา