Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
aomMONEY
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
15 ก.พ. เวลา 10:30 • ไลฟ์สไตล์
ถ้า “ทองคำ” เป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย”
แต่ทำไม? ไม่แนะนำให้เก็บเป็น “เงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน” และ “ให้มีในพอร์ตไม่เกิน 10%”
วันนี้ “ทองคำ” เป็นสินทรัพย์ที่กำลังถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก จากราคาที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดทองคำรูปพรรณมีราคาขายออกอยู่ที่ 47,050 บาทต่อบาททองคำ และทองคำแท่งอยู่ที่ 46,550 บาทต่อบาททองคำ นับเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบ 10 ปี เกือบ 140% เมื่อเทียบกับราคา 18,000-19,000 บาทต่อบาททองคำในปี 2558
และนี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้หลายคนสนใจทองคำมากขึ้น บางคน “อยากขาย” บางคน “อยากชื้อ” แต่ไม่ว่าจะเป็นความอยากแบบไหน aomMONEY อยากให้ลองพิจารณาจากเป้าหมายที่เราตั้งไว้เป็นหลักก่อน
คราวนี้ เมื่อพูดถึงทองคำ เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินว่า “ทองคำ” ก็เหมือนกับ “หลุมหลบภัย หรือ Safe Haven” กล่าวคือ เป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูง และสามารถรักษามูลค่าในตัวเองในยามที่เกิดวิกฤติได้
และหากเป็นเช่นนี้ ทำไม? ไม่แนะนำให้เก็บทองคำเป็น “เงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน” และ “ให้มีในพอร์ตไม่เกิน 10%”
➡️[ “ทองคำ ใช้เก็บเป็นเงินสำรองฉุกเฉินได้หรือไม่” ]
ก่อนจะตอบคำถามนี้ได้ ต้องรู้ก่อนว่า “แหล่งเก็บเงินสำรองฉุกเฉินที่ดี” ต้องมีลักษณะอย่างไร?
แหล่งเก็บเงินสำรองฉุกเฉินที่ดี ต้องมีลักษณะสำคัญอยู่ 2 ประการ คือ
1) ต้องมีสภาพคล่องสูง: หมายถึง ความไวในการเปลี่ยนสินทรัพย์นั้นๆ ให้กลายเป็นเงินสด ยิ่งสินทรัพย์ไหน สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ไว สินทรัพย์นั้นจะถือว่ามีสภาพคล่องสูง เช่น เงินฝากออมทรัพย์ ที่สามารถถอนออกมาใช้จ่ายได้ทันที
เหตุผลที่เงินสำรองฉุกเฉินต้องเก็บไว้ในที่ที่มีสภาพคล่องสูง เนื่องจากเมื่อถึงเวลาที่เกิดเหตุฉุกเฉิน และต้องการใช้เงินด่วนจริงๆ ก็จะสามารถนำเงินสดออกมาใช้ได้ทันที
2) ต้องมีความเสี่ยงต่ำ: หมายถึง เมื่อนำเงินไปเก็บไว้แล้วจะไม่ทำให้เงินต้นหายไป ดังนั้น เงินทุกบาททุกสตางค์ที่เราตั้งใจเก็บเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น 3 เดือน 6 เดือน หรือ 12 เดือน เงินต้นต้องอยู่ครบเพื่อให้เราพอใช้
เมื่อพิจารณา 2 ลักษณะสำคัญของแหล่งเก็บเงินสำรองฉุกเฉินแล้วจะพบว่า เรื่องของ “สภาพคล่องสูง” ทองคำถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงแน่นอน เพราะแค่เราเดินไปร้านทอง ก็สามารถขายทอง มีเงินสดกลับบ้านได้ทันที หรือใครที่มีการออมทองอยู่ในแอปพลิเคชันก็สามารถขายคืนและเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ในระยะเวลาไม่นาน เช่นกัน
ส่วนข้อที่ 2 เรื่องของ “ความเสี่ยง” ที่ผ่านมาทองคำถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ หรือสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Heaven) ประเภทหนึ่ง เพราะในยามสงครามหรือวิกฤติต่างๆ ทองคำยังคงมีมูลค่าในตัวเอง แต่ปัจจุบัน พบว่า สถานการณ์ปกติ ราคาทองคำมีความผันผวนสูงขึ้น ทำให้อาจพูดได้ไม่เต็มปากว่า “ทองคำ คือ สินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ” เหมือนอย่างที่เราเคยได้ยินมา
ดังนั้น การเก็บเงินสำรองฉุกเฉินไว้ในทองคำ ทำได้หรือไม่ จริงๆ แล้วก็อาจ “ทำได้ แต่ไม่แนะนำ และไม่ไช่ทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด”
เพราะจากการที่ทองคำมีความผันผวนของราคาอยู่ หากเกิดเหตุการณ์ที่ราคาทองคำร่วงลงพอดีกับเรากำลังเจอเหตุการณ์ฉุกเฉินพอดี ทำให้มูลค่าของทองคำที่เราเก็บไว้ลดลง เช่น จากเตรียมไว้ที่ 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน อาจจะลดลงมาอยู่ที่ 4 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน ก็อาจทำให้ขาดทุนและเงินไม่พอใช้ได้ ดังนั้น ทางเลือกที่เหมาะสมในการเก็บเงินสำรองฉุกเฉิน อาจพิจารณาเป็นการฝากออมทรัพย์ หรือฝากประจำเป็นหลัก จะเหมาะสมกว่า
➡️[ ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ทำไมให้มีในพอร์ต แค่ 5-10% ]
อย่างที่บอกไปว่า ทองคำถูกมองเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Heaven) ประเภทหนึ่ง เพราะคนมองว่า ทองคำสามารถรักษามูลค่าของตัวเองไว้ได้ดี และในยามวิกฤติก็สามารถเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยลดความผันผวนของพอร์ตลงทุนได้สมกับชื่อ “หลุมหลบภัย”
แต่ส่วนใหญ่ เรามักจะได้ยินนักวิเคราะห์หรือผู้แนะนำการลงทุน แนะนำให้มีทองคำติดพอร์ตไว้สัก 5-10% ทั้งนี้เป็นเพราะต้องการให้ทองคำเป็นตัวช่วยในการ “กระจายความเสี่ยง” จากการลงทุน เช่น แนะนำให้ลงทุนหุ้น 70% เพื่อแสวงหาผลตอบแทน ลงทุนตราสารหนี้ 20% เพื่อความมั่นคง และอีก 10% ให้ลงทุนทองคำเพื่อความปลอดภัยและกระจายความเสี่ยง เป็นต้น
แต่ถามว่า มีคนที่ลงทุนทองคำแบบ "All-in" เป็นทองคำทั้งหมดของพอร์ตบ้างหรือไม่? ต้องบอกว่าอาจจะมี แต่ส่วนมากจะเป็นผู้ที่อยู่ในวงการซื้อขายทองคำ หรือคลุกคลีกับการลงทุนในทองคำอยู่แล้ว อย่างคนที่ทำธุรกิจร้านทอง หรือผู้ที่ชื่นชอบการสะสมทองคำจริงๆ
แต่สำหรับนักลงทุนทั่วไป การแนะนำให้เก็บทองคำเพียง 5-10% ของพอร์ตลงทุน เพราะวัตถุประสง คือ 1. เพื่อให้นักลงทุนได้กระจายความเสี่ยง และ 2. เพื่อให้สามารถแสวงหาผลตอบแทนตามวัตถุประสงค์ของการลงทุนได้ยืดหยุ่นมากขึ้น เพราะหากลงทุนในทองคำเพียงอย่างเดียว จะถือว่าเรากระจายความเสี่ยงได้ไม่ดี และส่งผลต่อผลตอบแทนที่คาดหวังได้ด้วยเช่นเดียวกัน
สุดท้าย สำหรับผู้อยากลงทุน/ออมเงินในทองคำ ต้องพิจารณาถึงวัตถุประสงค์การลงทุนให้ดี
“อยากเก็บเงินสำรองฉุกเฉิน” เก็บในทองคำได้ แต่ไม่แนะนำ
“อยากลงทุนให้เงินเติบโต” ทองคำเป็นสินทรัพย์หนึ่งที่ควรมีติดพอร์ต เพื่อใช้ในการกระจายความเสี่ยง
เขียนโดย: วัฒนา มะสันเทียะ
อ้างอิง:
-
https://bit.ly/42KMzuZ
-
https://bit.ly/3EuhUrE
-
https://bit.ly/42OyaOd
-
https://bit.ly/42Quyvm
#aomMONEY #ทองคำ #สินทรัพย์ปลอดภัย #เงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน
2 บันทึก
5
2
2
5
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย