วันแต่งงานของพระราชินีชาร์ล็อต ควีนจาก Bridgerton ที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์
สุขสันต์เดือนแห่งความรักแด่ผู้อ่านทุกท่าน ผมขออวยพรให้ท่านทั้งหลายประสบพบเจอแต่กับความรักที่ดี(และผมก็เช่นกัน) พอพูดถึงความรักขึ้นมา ผมก็อดนึกถึงซีรีส์เรื่องหนึ่งไม่ได้ และเป็นซีรีส์ทาง Netflix ที่ผมคิดว่าผู้อ่านหลายท่านคงได้เคยดูหรือเคยเห็นผ่านๆมาบ้าง เรื่องนั้นมีชื่อว่า “Bridgerton - บริดเจอร์ตัน: วังวนรัก เกมไฮโซ”
สำหรับท่านที่ไม่เคยดู บริดเจอตันเป็นเรื่องของครอบครัวหนึ่งซึ่งชื่อเดียวกันกับชื่อเรื่อง เป็นซีรีส์ที่นำเสนอความรักของคนชั้นบรรดาศักดิ์ขุนนางจนถึงชนชั้นสูงในรัชสมัยพระเจ้าจอร์จที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร มีออกมาฉายแล้ว 3 ซีซั่น และก็ยังมีแผนการออกซีซั่น 4 ในอีกไม่นานนี้
ซีรีส์เรื่องนี้ได้มีพากย์แยกเป็นตอนพิเศษอีกหนึ่งเรื่อง “Queen Charlotte: A Bridgerton Story” ซึ่งออกในปี 2023 (เป็นช่วงที่อยู่ระหว่าง ซีซั่น 2 (2022) และ ซีซั่น 3 (2024)) มีทั้งหมด 6 ตอน
โดยจะเล่าเกี่ยวกับชีวิตรักที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายของพระเจ้าจอร์จที่ 3 และ พระราชินีชาร์ล็อต ตั้งแต่แม่สามีที่ชอบในการจัดแจงทุกอย่างให้เป็นไปตามที่พระองค์ต้องการเสมอ จนทำให้เกิดความไม่ลงรอยกันของแม่ผัวและลูกสะใภ้ รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับโรคพระสติฟั่นเฟือนของสวามี แล้วตอนจบซึ่งเป็นบทสรุปของทุกปัญหาจะเป็นอย่างไรนั้น ท่านผู้อ่านสามารถไปติดตามต่อได้ทาง Netflix นะครับ
แม้พระเจ้าจอร์จที่ 3 จะได้รับฉายาว่าเป็นกษัตริย์ที่วิปลาส อาการคุ้มดีคุ้มร้าย หลงๆลืมๆบ้างในบางเรื่อง แต่พระองค์ก็รักและยังจำภรรยา รวมถึงพระโอรส-ธิดาของตนได้ตลอดเวลาที่ทรงมีพระชนมชีพอยู่
ย้อนกลับไปในปี 1761 ถ้าเราดูตามซีรีย์ ตอนที่ 1 จะรู้ว่าปีนั้นเป็นปีที่พระราชินีชาร์ล็อตได้เดินทางออกจากบ้านที่เมือง Mirow ทางตอนเหนือของเยอรมันเพื่อมาแต่งงานที่อังกฤษ พระองค์ได้ถูกวิจารณ์เรื่องรูปลักษณ์และโดนเทรนอย่างหนักเพื่อให้มีความสง่างามสมกับว่าที่ควีนแห่งอาณาจักรที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน พอถึงวันแต่งงานพระองค์จึงได้พยายามลักลอบที่จะหนีจากงานแต่งครั้งนี้ เนื่องจากการแต่งงานนี้เหมือนเป็นการคลุมถุงชน
ชาร์ล็อตไม่เคยเห็นหน้าว่าที่เจ้าบ่าว และพระเจ้าจอร์จก็ไม่เคยเห็นหน้าว่าที่เจ้าสาวเช่นกัน จึงทำให้พระองค์ต้องทำเช่นนั้น แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะจอร์จมาเห็นตอนที่ชาร์ล็อตกำลังจะปีนหนีข้ามรั้วออกไปจากวังพอดี นั้นเป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้เจอกัน
ทีนี่เรามาดูความจริงตามประวัติศาสตร์ที่มีหลักฐานบอกเล่าชัดเจน
ในวันที่ 17 สิงหาคม 1762 ชาร์ล็อตและพี่ชาย - อดอลฟัส เฟรเดอริกที่ 4 ได้เริ่มเดินทางจากเยอรมัน ใช้เวลาประมาณครึ่งเดือนเศษก็ได้เดินทางมาถึงอังกฤษในวันที่ 7 กันยายน แล้วเดินทางไปเข้าวังในวันรุ่งขึ้น เพอร์ซีย์ ฟิตซ์เจอรัลด์ได้บรรยายการมาถึงพระราชวังเซนต์เจมส์ของพระนางในหนังสือ The Good Queen Charlotte ว่า
“เมื่อขบวนเสด็จมาถึงที่ประตูของวัง เธอได้รับการต้อนรับจากดยุคแห่งยอร์ก ทันใดที่เธอก้าวเข้ามาในวัง เธอก็ได้พบกับกษัตริย์, ข้าราชการ และสุภาพสตรีชั้นสูง ทุกคนสังเกตได้ว่าเธอรู้สึกสั่นกลัวมากเมื่อได้พบบุคคลสำคัญต่างๆที่เธอไม่เคยรู้จัก”
หลังจากนั้น ชาร์ล็อตได้ไปพบกับเจ้าหญิงออกัสตา - พระมารดาของพระสวามีเพื่อเทรน และในคืนนั้น เวลา 21.00 น. จอร์จและชาร์ล็อตได้เข้าพิธีสมรสที่โบสถ์หลวง พระราชวังเซนต์เจมส์ โดยมีท่านอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์บิวรีเป็นผู้ประกอบพิธี ถ้ามองจากโลกยุคปัจจุบันจะถือว่าเป็นงานแต่งที่ค่อนข้างจะเกิดขึ้นแบบรวดเร็วมาก แต่ถ้าหากมองในมุมอดีตก็ไม่ได้แปลกอะไร
ฟิตซ์เจอรัลด์ได้เขียนถึงงานแต่งงานไว้ว่า “เป็นที่น่ารื่นรมย์ยิ่งนัก ที่อารมณ์ขันของเธอ(ชาร์ล็อต)ไม่เคยหายไปแม้แต่นาทีเดียว เมื่อเธอถูกบอกให้จูบเจ้าบ่าว บรรดาผู้ที่ร่วมงานก็อิ่มเอิบใจ”
ในงานวิวาห์ ราชินีชาร์ล็อต "สวมเสื้อคลุมยาวแบบที่ไม่มีที่สิ้นสุด(ที่ยาวมากจนดูเหมือนจะไม่มีจุดสิ้นสุด) ทำจากผ้ากำมะหยี่สีม่วงและสีฟ้าที่หรูหรา ตัดด้วยเออร์มิน และสวมทับชุดสีขาวผ้าซาตินและเงิน เติมแต่งพร้อม มงกุฎเพชร, สร้อยคอ, และสวมแผงประดับหน้าอก (stomacher) ซึ่งกล่าวว่า มีมูลค่ารวมกว่า 90,000 ปอนด์ ทั้งหมดนี้คงทำให้การปรากฎตัวของเธอดูสดใสน่าประทับใจจริงๆ"
และนอกจากเครื่องแต่งกายของควีนในวันแต่งงานแล้ว ยังมีสิ่งพิเศษอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งก็คือ ของขวัญวันแต่งงานที่ได้รับจากพระราชสวามี ซึ่งมีบันทึกไว้ว่า ประกอบด้วย “แหวนล้อมด้วยเพชร กำไลข้อมือ 1คู่ ประกอบด้วยไข่มุกเรียงกันหกแถว ขนาดเท่ากับเม็ดถั่วเต็มเม็ด ตัวล็อคที่มีตราประจำประองค์ขอบล้อมรอบด้วยเพชร สร้อยคอไม้กางเขนประดับด้วยเพชร ต่างหู และเครื่องประดับเสริมตามแฟชั่นในยุคนั้น”
แหวนล้อมด้วยเพชรที่กล่าวถึง เคยเป็นหนึ่งในคอลเลคชั่นส่วนพระองค์ของพระเจ้าจอร์จที่ 2 ชาร์ล็อตต์ ปาเพนดีค (Charlotte Papendiek) นางสนองพระโอษฐ์ของควีนได้บันทึกไว้ว่า "แหวนล้อมเพชรนี้มีความสำคัญไม่สูงไปกว่าแหวนแต่งงานทั่วไป แต่ราชินีชาล็อตก็ทรงใส่ไว้ประหนึ่งเครื่องรางป้องกันพระองค์" นอกจากนี้เธอยังได้บันทึกไว้อีกว่า "ในนิ้วนั้น สมเด็จพระราชินีไม่เคยยอมให้ตัวเองสวมแหวนอื่นเพิ่มเติม แม้ว่าบางครั้งแฟชั่นจะเกือบจะบังคับให้ทำเช่นนั้น"
นอกจากนี้ยังมีแหวนอีก 1 วงซึ่งก็คือ แหวนพระรูปพระเจ้าจอร์จที่ 3 ปาเพนดีคก็ได้พูดถึงแหวนวงนี้เช่นกัน "แหวนวงนี้ประดับด้วยภาพขนาดเล็กของพระราชา จัดทำขึ้นอย่างวิจิตรงดงาม จากเพื่อนที่เรานับถือ 'เจอร์ไมห์ เมเยอร์' และ ยังได้พระราชทานแก่สมเด็จพระราชินีเพื่อสวมใส่ที่นิ้วก้อยมือขวาของพระองค์ในวันอันเป็นมงคลนี้" เป็นอีก 1 แหวนที่พระองคืทรงหวงแหนเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากที่ราชินีสวรรคต พระราชทรัพย์ของพระองค์ก็ได้กระจายหายไปคนละทิศคนละทาง โดยเครื่องประดับส่วนพระองค์ ถูกมอบให้กับพระราชธิดาทั้งสี่พระองค์ที่อายุน้อยที่สุด และแหวนวงแรกนั้นได้ตกไปอยู่กับเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ พระราชกุมารี ก่อนจะตกทอดไปสู่พระราชินีวิคตอเรีย ส่วนแหวนพระรูปนั้นเราไม่ทราบชะตากรรมว่าสืบทอดให้ใคร ปัจจุบันเรารู้เพียงแค่ว่ามีการนำกลับมาเป็นทรัพย์สินของราชวงศ์เมื่อปี 1909
นี่คือเรื่องราวทั้งหมดของพระราชพิธีสมรสของกษัตริย์จอร์จที่ 3 และราชินีชาร์ล็อต หวังว่าผู้อ่านทุกท่านคงจะชอบกันนะครับ ถ้ามีความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะอย่างไร ก็สามารถคอมเมนต์ได้ที่ใต้โพสของเราได้เลย สำหรับวันนี้ผู้เขียนคนนี้ขอลาไปก่อน ขอบคุณครับ
ปล.ผมคิดว่าต่อจากนี้ผมจะเขียนบทความให้บ่อยขึ้นอย่างน้อยเดือนละ 2-3 บทความ รอติดตามชมบทความต่อไปของผมด้วยนะครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
