22 ก.พ. เวลา 07:22 • ปรัชญา

นักบิน / ความรัก / การรอคอย

7 ธันวาคม 1941
อาทิตย์ขึ้นพ้นขอบฟ้า นกเหล็กฝูงใหญ่โปรยบางสิ่งใส่เกาะที่ตั้งอยู่กลางอ่าวอันเงียบสงบ เกาะที่ชื่อว่า 'โอวาฮู'
ท่าเรือเพิร์ลฮาร์เบอร์ รายล้อมด้วยเรือรบมากมาย วันนั้น ไร้เสียงเตือนล่วงหน้าของบางสิ่งจากบนท้องฟ้า
ครั้นบางสิ่งนั้นร่วงพรมลงบนเกาะ ความสงบก็พลันหายไป
ฐานทัพเรือสหรัฐถูกระเบิดโปรยใส่ย่อยยับ เป็นการบุกโจมตีอย่างเซอร์ไพรส์จากฝูงบินแดนอาทิตย์อุทัย จำนวนนกเหล็กหิ้วระเบิดนับได้ราวสามร้อยกว่าลำ
หลายคืนก่อนภารกิจนั้น เขานั่งอยู่ในห้องเล็กๆที่มืดเย็น ผนังห้องถูกลูบด้วยแสงของตะเกียงน้ำมัน ทอดเงาบางส่วนลงบนพื้นเสื่อทาทามิ เขาคือนักรบชาวญี่ปุ่นที่ได้รับภารกิจในการนำเครื่องบินไปทิ้งระเบิดเพื่อโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์
เขาชื่อว่า นาวาโท มิตซึโอะ ฟูชิดะ
หญิงสาวสืบเท้าเข้ามาทำลายความเงียบเฉียบของห้องนั้น
"ยังจำวันที่คุณขอฉันแต่งงานได้ไหม"
"ผมจำได้ดี"
"คุณบอกว่า ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน คุณจะกลับมาหาฉันเสมอ"
หล่อนรู้ดีว่าหากคิดจะร่วมชีวิตกับนักรบ ชีวิตคู่ย่อมหาความแน่นอนได้ยากนัก
"คุณคิดว่า สงครามจะนำความสงบกลับมาได้จริงหรือ" ภรรยาเอ่ยถามสามี
คำถามถูกทิ้งช่วงนานพอทำให้ได้ยินเสียงลมหอบพัดดอกซากุระที่ลานนอกบ้านนั้น
ไร้คำตอบจากนักบินรบ เขารู้ดีว่ายากที่จะให้คำมั่นสัญญาใดๆ และนี่คือภารกิจขององค์พระจักรพรรดิ มันคือหน้าที่ของลูกพระอาทิตย์
หล่อนหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งขึ้นมาจากกล่องไม้ หยิบยื่นให้สามี บนผ้าปักชื่อ "มัตซึโอะ ฟูชิดะ และ ฮารุโกะ"
"สัญญากับฉันนะ ว่าคุณจะกลับมา"
เขามองดวงตาของภรรยาผ่านแสงสลัวของดวงไฟเล็กๆจากน้ำมันตะเกียง มือกุมผ้าเช็ดหน้านั้นแน่นหนัก
"เชื่อผมนะ นกทุกตัวหาทางกลับบ้านได้เสมอ"
....
หลังระเบิดทำงาน ชำระล้างความเงียบกริบของเกาะในเช้าวันใหม่ ปลุกเสียงกรีดร้องไร้ท่วงทำนอง จบชีวิตพลเรือนและทหารกว่าสองพันคนบนเกาะ ทั้งเรือรบและเครื่องบินของสหรัฐ ถูกทำลายเสียหายหนัก นั่นคือปฐมบทของสงครามที่พญาอินทรีมิอาจปล่อยผ่าน
นักบินรบชาวญี่ปุ่นนำนกเหล็กกลับฐานที่ตั้ง แต่ยังไม่ได้กลับบ้าน สงครามยื้อยาวกว่าที่คิด เขาต้องนำฝูงบินไปเยี่ยมเยือนในอีกหลายประเทศ ภารกิจยังไม่จบ นกอย่างเขายังกลับบ้านไม่ได้
เขาก้มหน้า หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อที่หน้าอกข้างซ้ายขึ้นมาดู มือลูบชื่อที่ถูกปักอยู่บนนั้น ชื่อภรรยาของเขา "ฮารุโกะ"
....
18 เมษายน 1942
หลังญี่ปุ่นบุกเพิร์ลฮาร์เบอร์เมื่อสี่เดือนก่อน ทัพฟ้าพญาอินทรีจึงตอบโต้ด้วยการส่งฝูงบิน B-25 จำนวน 16 ลำ หิ้วระเบิดทิ้งปูพรมใส่พื้นที่เป้าหมาย โตเกียว โยโกฮาม่า โยโกสุเกะ นาโกย่า และโกเบ เป็นการโจมตีแบบเซอร์ไพรส์
นำโดยพันโทเจมส์ จิมมี่ ดูลิตเติล
คืนก่อนหน้าวันนั้น
โจเซฟิน ภรรยาของจิมมี่ ลูบไล้ผ้าปูโต๊ะปักลายบนโต๊ะอาหารในห้องยามสงัด พร้อมแสงสลัวของเตาผิงทอดเงาลงบนโต๊ะอาหาร
"คุณควรเข้านอนได้แล้ว" จิมมี่กำลังนั่งวางแผนการบินอยู่ในห้องอาหาร เห็นภรรยาไม่ยอมเข้านอน
"ฉันจะนอนได้อย่างไร ในเมื่อหลังจากวันพรุ่งนี้ ฉันไม่รู้ว่าคุณจะกลับมาเมื่อไหร่"
"มันคือภารกิจ เราจะจบมันให้ไวที่สุด"
"สัญญากับฉันนะ ว่าคุณจะกลับมา" ดวงตาของผู้เป็นภรรยาดูเศร้า
เขายื่นนิ้วชี้ไปสะกดริมฝีปากอุ่นของหล่อน สายตาชำเลืองมองดูผ้าปูโต๊ะที่ปักชื่อของเขาไว้ อักษรเขียนชื่อว่า "จิมมี่ ดูลิตเติ้ล"
แม้ไม่อาจให้คำมั่นได้เต็มปาก เพราะทั้งสองต่างรู้ดีว่า ชีวิตทหารยามสงคราม ไม่อาจหาความแน่นอนจากสิ่งใดได้ เขาได้แต่ใช้สันชาตญาณนักบินของเขา พลางเอ่ยตอบกลับไปว่า
"เชื่อผมนะ นกทุกตัวหาทางกลับบ้านได้เสมอ"
....
📌 เกร็ดประวัติศาสตร์เพิ่มเติม
🎯 วันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 1941 (การโจมตีที่เพิร์ลฮาร์เบอร์)
นาวาโท มิตสึโอะ ฟุชิดะ (Commander Mitsuo Fuchida) เป็นผู้นำ กองบินคลื่นแรกของกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น (Imperial Japanese Navy Air Service) ทำการโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ที่ เพิร์ลฮาร์เบอร์ (Pearl Harbor) รัฐฮาวาย เกาะโอวาฮู
เขาบังคับเครื่องบิน Nakajima B5N2 "Kate" เป็นเครื่องบินทิ้งตอร์ปิโด โดยส่งรหัสวิทยุคำว่า Tora Tora Tora ซึ่งเป็นรหัสที่โด่งดังภายหลังเหตุการณ์ เพื่อแจ้งว่าการโจมตีนั้นประสบความสำเร็จโดยสมบูรณ์เบ็ดเสร็จ
การโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ใช้เครื่องบินรวม 353 ลำ โดยมีเป้าหมายหลักคือ เรือประจัญบาน สนามบิน และฐานทัพทางทหารของสหรัฐ
ชาวอเมริกันกว่า 2,400 คน เสียชีวิต และเรือประจัญบานหลายลำได้รับความเสียหายหนัก
การโจมตีครั้งนั้นนำไปสู่การเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สองของสหรัฐอเมริกาในวันถัดมา
....
🎯 วันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1942 (การโจมตีของ Doolittle :The Doolittle Raid)
พันโท เจมส์ จิมมี่ ดูลิตเติล (Lieutenant Colonel James "Jimmy" Doolittle) เป็นผู้นำฝูงบิน B-25 Mitchell จำนวน 16 ลำ ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเหนือประเทศญี่ปุ่น
เครื่องบินทิ้งระเบิดออกบินจากเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Hornet (CV-8) ในมหาสมุทรแปซิฟิก
เป้าหมายการโจมตี ได้แก่ โตเกียว, โยโกฮามะ, โยโกสุกะ, นาโกย่า, และโกเบ ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมและฐานทัพทางทหารของญี่ปุ่น
แม้ว่าการโจมตีจะสร้างความเสียหายให้กับญี่ปุ่นเพียงเล็กน้อย แต่กลับมีผลกระทบทางจิตวิทยาอย่างมาก เพราะทำให้ญี่ปุ่นเสียขวัญอย่างหนัก
หลังจากทิ้งระเบิดแล้ว ฝูงบินของ Doolittle ไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิงเพียงพอที่จะกลับไปยังเรือบรรทุกเครื่องบิน ทำให้นักบินต้องนำเครื่องลงจอดฉุกเฉินในจีน หรือแม้กระทั่งนักบินบางส่วนต้องกระโดดร่มหนีออกจากเครื่องก่อนที่น้ำมันจะหมด
แม้ว่าสมาชิกทีมส่วนใหญ่ของฝูงบินจะรอดชีวิต แต่บางคนถูกกองทัพญี่ปุ่นจับกุมและถูกประหารชีวิตหรือไม่ก็ถูกคุมขัง
....
🎯 โจเซฟิน คือภรรยาของพันโทเจมส์ จิมมี่ ดูลิตเติล มีตัวตนจริงและผ้าปูโต๊ะอาหารที่มีลายเซ็นนั้นคือเรื่องจริง (โจเซฟินปักลายเซ็นของบุคคลสำคัญในยุคนั้นบนผ้าปูโต๊ะอาหารที่มาร่วมทานมื้อเย็นกันที่บ้าน)
 
🎯 ฮารุโกะ คือภรรยาของนาวาโท มัตซึโอะ มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์
🎯 หลังสงคราม มิตสึโอะ ฟุชิดะ ละทิ้งอดีตทางทหาร หันมานับถือศาสนาคริสต์ และกลายเป็น นักเผยแผ่ศาสนาและผู้สนับสนุนสันติภาพ ขณะที่ จิมมี่ ดูลิตเติล ยังคงทำงานด้านการบิน ดำรงตำแหน่งระดับสูงในกองทัพ และเป็นที่ปรึกษา เป็นผู้บริหารในภาคธุรกิจ เขาได้รับการยกย่องให้เป็นวีรบุรุษสงครามในเวลาต่อมา
....
สงครามไม่มีอะไรดี มันอาจไม่สำคัญว่าใครเริ่มก่อน แต่มันสำคัญว่าเมื่อไหร่ที่ใครจะหยุดมัน ระหว่างทางของสงครามมีหลายสิ่งซุกซ่อนไว้ ทั้งความรัก น้ำตาและการรอคอย
เบื้องหลังของทุกแนวหน้าย่อมมีหลังบ้านรอคอยเสมอ ราคาที่ต้องจ่ายแสนสาหัสนัก
แม้นกทุกตัวจะหาทางกลับบ้านได้
แต่มันก็ .. ใช่ว่า .. จะทุกตัว
#HoveringInspirations
โฆษณา