Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เจ้าแว่นเล่าเรื่อง
•
ติดตาม
23 มี.ค. เวลา 01:51 • ไลฟ์สไตล์
ไร้ความทรงจำ ชีวิตก็ไร้ความหมาย
ผมอยู่ในห้องประชุมที่ทีมงานกำลังทะเลาะกันอย่างรุนแรงถึงขั้นตบโต๊ะใส่กัน
หลังจากสงบสติอารมณ์กันได้แล้ว ผมเรียกทุกคนมาคุยกันด้วยหลักเหตุและผล ไร้อารมณ์เข้ามาข้องเกี่ยว
สุดท้ายปัญหาคลี่คลาย แต่ในความรู้สึกลึกๆ ก็ยังมีข้อคลางแคลงใจกันอยู่ เหมือนภูเขาไฟที่สงบลงชั่วคราวแต่ภายในยังคุกรุ่นพร้อมที่จะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ
ผมให้ข้อคิดทุกคนก่อนที่จะออกจากห้องไป
“อีก 30 ปี ข้างหน้า คนในห้องนี้ครึ่งหนึ่งจะจากโลกนี้ไป และอีก 50 ปี ทุกคนก็จะตายกันหมด
เราจะกลายเป็นเพียงเถ้าธุลีเล็กๆ ไม่ก็เป็นอาหารของหนอน ไม่มีคนแพ้หรือชนะ ไม่มีหัวหน้าไม่มีลูกน้องอีกต่อไป เหมือนพวกเราไม่เคยมีตัวตนมาก่อน ทุกอย่างกลับไปสู่ความว่างเปล่าอีกครั้ง”
เราไม่มีทางรู้เลยว่าเย็นนี้อาจจะมีใครบางคนกลับไม่ถึงบ้าน
เราไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้อาจจะมีใครบางคนที่ไม่ได้ตื่นมาทำงาน
เวลานี้อาจจะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่เราได้พบหน้ากัน
เวลาชีวิตของเรากำลังถูกนับถอยหลังโดยไม่มีทางรู้เลยว่า เวลาของใครจะหยุดลงเมื่อไร
เรามีโอกาสได้ทำงานร่วมกัน ได้พบเจอกันชั่วคราว เพียงช่วงเวลาอันแสนสั้น ก็ควรสร้างและมอบแต่ความทรงจำดีๆ ให้แก่กัน
โรคที่ร้ายแรงที่สุดไม่ใช่โรคมะเร็ง โรคหัวใจ หรือโรคเกี่ยวกับตับไตใดๆ แต่มันคือโรคอัลไซเมอร์ ที่นอกจากจะส่งผลกระทบทางร่างกายแล้ว ที่เจ็บปวดกว่าก็คือมันขโมยความทรงจำของผู้ป่วยไปด้วย
ความทรงจำที่เราประทับไว้ในใจ ความสุขตอนที่เราอยู่กับคนที่เรารัก วันที่เราเสียน้ำตาเพราะสัตว์เลี้ยงตัวโปรดจากไป วันที่เราเรียนจบทำให้พ่อแม่ภูมิใจ แม้แต่ความทรงจำที่เราอยากลบทิ้ง ความโกรธที่ยังค้างคา ความแค้นที่ยังไม่ได้ชำระ มันก็รวมอยู่ในความทรงจำซึ่งมันจะค่อยๆ ลืมเลือน โดยที่เราไม่สามารถเลือกได้เลยว่าจะให้เรื่องไหนคงอยู่หรือเรื่องไหนหายไป เราควบคุมอะไรไม่ได้เลย
มันไม่เหมือนตอนที่เราเดินเตะปลั๊กไฟแล้วคอมพิวเตอร์ดับเพราะข้อมูลในระบบยังคงอยู่หรือไม่ก็กู้กลับมาได้ แต่โรคนี้มันจะลบความทรงจำของเราอย่างถาวรเหมือนโดนฟอร์แมตใหม่ จำไม่ได้แม้กระทั่งชื่อตัวเองหรือคนรักที่คอยดูแลเราอยู่ไม่ห่าง มันเป็นความทรมานใจขั้นสุดของทั้งผู้ป่วยและคนที่ดูแล
จะเกิดอะไรขึ้นหากเราลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับการเริ่มต้นทุกอย่างด้วยความว่างเปล่า ไม่มีความทรงจำใดเหลืออยู่ ตอนนั้นชีวิตอาจไม่มีความหมายอะไรแล้ว
ความทรงจำจึงเป็นสิ่งที่มีค่าและต้องหวงแหนมากที่สุด จะมีเงินทองเท่าไรก็หาซื้อกลับคืนมาไม่ได้
เราจะอยู่ในความทรงจำของใครบางคน และใครบางคนก็จะอยู่ในความทรงจำของเราเสมอ ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องเลวร้าย ใครทำดีกับเรามันก็จะกลายเป็นความทรงจำที่ดีมีคุณค่า ส่วนใครที่ร้ายกับเรามันก็กลายเป็นภาพหม่นๆ ที่ฝังอยู่ในความทรงจำไปตลอด
ไม่ดีกว่าหรือ หากเราจะมอบแต่ความรักความหวังดีให้แก่กัน มีแต่ความปรารถนาดี ยอมรับข้อบกพร่องและให้อภัยกัน มองทุกอย่างตามความเป็นจริง เพื่อให้มีแต่สิ่งดีๆ ที่เราคัดสรรแล้วบันทึกอยู่ในความทรงจำ
ในวาระสุดท้ายของชีวิต หากคุณโชคดียังมีความทรงจำหลงเหลืออยู่ จะได้มีแต่ภาพความประทับใจฉายขึ้นมาแม้จะเป็นเศษเสี้ยวเวลาแห่งความสุขบนลมหายใจสุดท้าย
ลองหันมองคนที่อยู่รอบตัว วันนี้เราได้มอบความทรงจำดีๆ ให้กับเขาหรือยังครับ
ความทรงจำที่ดี จะช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตให้ยังคงหายใจและอยากเดินหน้าต่อไป
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย