1 มี.ค. เวลา 08:35 • หนังสือ

ทฤษฎีความโง่เขลา

ทำไมคนโง่ถึงอันตรายกว่าที่คิด?
ในโลกที่เต็มไปด้วยปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสังคม การเมือง หรือเศรษฐกิจ
หนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลกระทบมากที่สุดคือ "ความโง่" ของมนุษย์
เราอาจเคยได้ยินวลีที่ว่า "โลกนี้มีคนฉลาดอยู่จำนวนหนึ่ง มีคนเลวอยู่จำนวนหนึ่ง และมีคนโง่อยู่จำนวนหนึ่ง"
แต่สิ่งที่หลายคนมองข้ามคือ คนโง่นั้นอันตรายกว่าคนเลวเสียอีก....
ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ "ทฤษฎีความโง่เขลา"
ซึ่งถูกอธิบายโดยนักเศรษฐศาสตร์ชาวอิตาลีชื่อ คาร์โล ซิโปลลา (Carlo M. Cipolla)
ในบทความของเขาเรื่อง The Basic Laws of Human Stupidity ซึ่งนำเสนอแนวคิดที่สามารถอธิบายพฤติกรรมของมนุษย์และผลกระทบของความโง่ที่มีต่อสังคมได้อย่างน่าสนใจ
5 กฎพื้นฐานของความโง่...
ซิโปลลาได้สรุปพฤติกรรมของมนุษย์ออกมาเป็น "กฎแห่งความโง่เขลา"
5 ข้อ ซึ่งช่วยให้เราเข้าใจว่าทำไมคนโง่ถึงเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม
1. คนเรามักประเมินจำนวนคนโง่ต่ำกว่าความเป็นจริง
"ไม่มีทางที่คุณจะคาดเดาจำนวนคนโง่ที่แท้จริงในสังคมได้ เพราะพวกเขามีอยู่ทุกที่ และจำนวนของพวกเขามักจะมากกว่าที่เราคิด"
นี่เป็นกฎข้อแรกที่อธิบายว่า คนโง่ไม่ได้มีอยู่เฉพาะในที่ใดที่หนึ่ง หรืออยู่แค่ในบางกลุ่มคน แต่พวกเขากระจายตัวอยู่ทั่วทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นในที่ทำงาน ในระบบการศึกษา หรือแม้แต่ในตำแหน่งผู้นำขององค์กรและประเทศต่าง ๆ
คุณเคยเจอหัวหน้าที่ตัดสินใจแบบไร้เหตุผล ส่งผลให้ทั้งทีมต้องทำงานหนักขึ้นหรือไม่?
คุณเคยเห็นนักการเมืองที่ตัดสินใจทำบางสิ่งที่ส่งผลเสียต่อประชาชนส่วนใหญ่หรือเปล่า?
คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมบางคนถึงแชร์ข่าวปลอมโดยไม่คิดให้รอบคอบ?
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นตัวอย่างของคนโง่ที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของเรา
2. ความโง่ไม่เกี่ยวกับระดับการศึกษา
> "คนที่มีปริญญาหรืออยู่ในตำแหน่งสูงก็สามารถเป็นคนโง่ได้ เช่นเดียวกับคนที่ไร้การศึกษา"
หลายคนมักเข้าใจผิดว่าคนที่มีการศึกษาสูงหรือเป็นผู้นำองค์กรต้องฉลาดเสมอ แต่ความจริงแล้ว คนโง่สามารถอยู่ได้ในทุกระดับของสังคม
มีศาสตราจารย์ที่เก่งเฉพาะด้านแต่ตัดสินใจผิดพลาดในเรื่องง่าย ๆ
มีผู้บริหารที่จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแต่กลับทำให้บริษัทล้มละลาย
มีนักการเมืองที่พูดจาดูดีแต่ตัดสินใจนโยบายที่ส่งผลเสียระยะยาว
3. คนโง่สร้างความเสียหายให้ผู้อื่นโดยไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
"คนโง่เป็นอันตราย เพราะพวกเขาทำให้คนอื่นเดือดร้อนโดยที่ตัวเองก็ไม่ได้อะไร"
นี่คือความแตกต่างระหว่าง "คนโง่" กับ "คนเลว"
คนเลว ทำเรื่องแย่ ๆ เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
คนโง่ ทำเรื่องแย่ ๆ โดยไม่มีใครได้ประโยชน์ แม้แต่ตัวเขาเอง
คนขับรถปาดหน้ากลางถนนโดยไม่มีเหตุผล ทำให้การจราจรติดขัด
พนักงานที่ทำงานผิดพลาดจนบริษัทเสียเงิน แต่ยังคิดว่าตัวเองทำถูก
คนที่เผาป่าโดยไม่ได้คิดถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
4. คนโง่เป็นอันตรายมากกว่าคนเลว
"เราอาจรับมือกับคนเลวได้ เพราะพวกเขามีเหตุผล แต่เราไม่สามารถรับมือกับคนโง่ได้ เพราะพวกเขาไร้เหตุผล"
คนเลวมักทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ดังนั้นเรายังพอคาดเดาการกระทำของพวกเขาได้ แต่คนโง่นั้นคาดเดาไม่ได้ พวกเขาอาจทำสิ่งที่ไม่มีเหตุผล สร้างหายนะโดยไม่รู้ตัว และทำให้สังคมเสียหายอย่างมหาศาล
ผู้บริหารที่ตัดสินใจผิดซ้ำ ๆ จนทำให้บริษัทล้มละลาย
นักการเมืองที่ออกนโยบายผิดพลาดจนประชาชนเดือดร้อน
คนที่แพร่ข่าวปลอมทำให้เกิดความเข้าใจผิดในวงกว้าง
5. คนโง่จะทำให้สังคมแย่ลงเสมอ
"เมื่อใดที่คนโง่มีอำนาจมากขึ้น สังคมจะตกต่ำลง"
กฎข้อนี้อธิบายว่า หากคนโง่มีจำนวนมากขึ้นในตำแหน่งสำคัญของสังคม ผลลัพธ์ที่ตามมาคือความล้มเหลวขององค์กร ประเทศ หรือแม้แต่ระบบเศรษฐกิจทั้งระบบ
อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในอดีตที่ล่มสลาย เพราะผู้นำตัดสินใจผิดพลาด
บริษัทที่เจ๊งเพราะการบริหารที่ไม่มีประสิทธิภาพ
ประเทศที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจเพราะการบริหารที่ขาดวิสัยทัศน์
---
จะรับมือกับความโง่อย่างไร?
1. ตระหนักว่าคนโง่มีอยู่จริง
อย่าประเมินจำนวนคนโง่ต่ำเกินไปอย่าคาดหวังว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลง
2. หลีกเลี่ยงการปะทะโดยไม่จำเป็น
คนโง่ไม่มีเหตุผล การถกเถียงกับพวกเขามักไม่ได้ผล​ ควรเลือกวิธีรับมือที่ทำให้ตัวเองเสียเวลาน้อยที่สุด
3. ลดอำนาจของคนโง่
อย่าสนับสนุนคนโง่ให้มีอำนาจใช้ความรู้และเหตุผลในการเลือกผู้นำและการตัดสินใจ
4. เพิ่มจำนวนคนฉลาดและมีคุณธรรม
ส่งเสริมการศึกษาและการคิดวิเคราะห์
ปลูกฝังวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับเหตุผลและความรู้
---
บทสรุป
"ทฤษฎีความโง่เขลา" ของซิโปลลาทำให้เราเห็นว่า ความโง่เป็นภัยที่ร้ายแรงที่สุดของสังคม มันทำให้เกิดปัญหาที่ไม่ควรเกิด และยิ่งมีคนโง่อยู่ในตำแหน่งสำคัญมากเท่าไร สังคมก็จะยิ่งเสื่อมถอยมากขึ้น
สุดท้ายแล้ว หน้าที่ของเราคือทำให้ตัวเองไม่ตกอยู่ในกลุ่มคนโง่ และช่วยกันลดอิทธิพลของความโง่ในสังคม เพราะนี่คือหนทางเดียวที่จะทำให้โลกดีขึ้นได้จริง ๆ....
โฆษณา