5 มี.ค. เวลา 12:42

”คนอยากเล่า“ Nebraska รัฐที่ไม่ค่อยถูกพูดถึง

เชื่อว่าหลายๆคนคงไม่เคยได้ยินชื่อของรัฐนี้ บางทีเคยได้ยินแต่ไม่เคยสนใจก็เป็นได้ รัฐนี้เรียกแบบไทยๆว่าเนบราสกา เรียกแบบมะกันว่าเนแบรสกา แล้วทำไมต้องนำเสนอรัฐนี้ เพราะอยากเล่าว่ารัฐนี้ไม่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเลย แต่ๆๆๆๆขออุบไว้ก่อนที่จะเฉลย ขอเล่ากว้างๆก่อนว่า
รัฐนี้เป็นรัฐหนึ่งในภาคตะวันตกกลางของสหรัฐฯมีชื่อเล่นถึงสองชื่อด้วยน้า ชื่อแรก “มลรัฐแห่งผู้แกะข้าวโพด” (Cornhusker State) และชื่อที่สอง “มลรัฐแห่งเนื้อวัว” (Beef State) เห็นภาพเลยว่าอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยทุ่งข้าวโพดและวัว ความกว้างใหญ่ของรัฐมีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 16 ของประเทศ มีลักษณะเป็นที่ราบที่มีเนินเตี้ยๆ สลับเป็นลูกคลื่น และมีเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐอย่างโอมาฮาและลินคอล์นซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐนี้
รัฐนี้สภาพอากาศแบบเย็นกึ่งแห้งแล้ง ฤดูร้อนและฤดูหนาวมีอุณหภูมิแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงยามร้อนก็ร้อนสุดๆยามหนาวก็สะท้านเลยคุณเอ๋ย แถมฟรีๆแต่ไม่อยากได้ด้วยพายุฟ้าคะนองและพายุทอร์นาโดที่รุนแรงเกิดขึ้น ฝนตกทีไม่ต้องกางร่มเลยปลิวทั้งคนทั้งร่มลมแรงมากกกก
ใครชอบเงียบสงบมาถูกที่แล้ว
ทีนี้ก็มาถึงเฉลยที่ว่า ทำไมนำเสนอ Nebraskaเพื่อประโยชน์อันใด? รอบนี้มีสาระจริงจัง
อยากเล่าเพราะรัฐนี้ Thanks Journeyได้มีโอกาสมาเยือนเพราะมางานรับปริญญาลูกๆ
เหมาะกับการส่งเด็กไทยมาเรียนจริงๆ คนไทยมาเรียนน้อยได้ภาษาไวแบบติดจรวด
เมืองนี้เงียบสงบ ไม่ต้องกลัวเด็กหนีเที่ยว หนีไปไหนเจอแต่ทุ่งข้าวโพดและน้องวัว จากรูปที่เห็นคือเมืองลินคอล์น ใจกลางดาวน์ทาวน์เลยทีเดียว เงียบเชียบมาก ร้านรวง ถนนหนทางโล่งดี เห็นอย่างนี้ตึกรามบ้านช่องสถาปัตฯสวยงาม ใจกลางเมืองเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย University of Nebraska–Lincoln เรียกสั้นๆว่า UNL คนที่นี่มักขับรถมาเรียน ไม่ค่อยเดินตามถนนหนทาง บางฤดูลมแรงแทบปลิว
ดอกไม้เบิกบาน
มีโอกาสมาเยือนแล้วเล่าหน่อยว่าที่เที่ยวไม่เยอะเหมือนรัฐใหญ่ๆ แหล่งช้อปไม่ต้องพูดถึงไม่ต้องกลัวกระเป๋าฉีก มาเยือนช่วงสปริงที่ใบไม้ผลิออกดอกเสนอหน้าเต็มที่ อากาศแบบนี้ถูกจริตกับไทยแท้อย่างเราๆ มาที่นี่ก็มี Haymarketให้เดินเล่น ร้านอาหารแบบฟาสต์ฟู้ดเยอะแยะเพราะอยู่ย่านมหาลัย มีสวนสาธารณะให้เดินเล่นและจ้อกกิ้ง มีพิพิธภัณฑ์ให้ชม ออกนอกตัวเมืองก็ทุ่งข้าวโพดและฝูงวัว
อันนี้ต้องเล่าเลยว่ารัฐนี้ผลิตข้าวโพดเป็นอันดับสาม ผลิตป๊อปคอร์นเป็นอันดับสองของประเทศ ผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อันดับ1ของประเทศ แยกชนิดกันเด้อไม่ได้เอาของสัตว์มาทำป๊อปคอร์น
ข้าวโพดที่นี่หวานมาก สด อร่อย เรียกว่าสมชื่อฉายาเมืองแห่งข้าวโพดเลยทีเดียว กินที่ไหนยังไม่เจออร่อยที่สามารถโค่นแชมป์เนบราสกาได้เลย ยืนยัน!!
อวดโฉมกันสลอน
ไม่รู้จะไปไหนก็เดินเล่นในสวนสาธารณะ ดอกไม้สลอนสวยไปหมด ยังได้ทั้งสุขภาพ อากาศดีสูดได้เต็มปอด ที่สำคัญฟรี!!
เคยถามลูกๆว่าทำไมไม่อยากกลับไปงานรวมตัวศิษย์เก่าบ้าง ชีและฮีบอกว่าไม่มีอะไรเลยเมืองมันเงียบเกินสำหรับวัยสะรุ่น แต่มันเหมาะกับวัยเกษียณ อันนี้คิดไปเองคนเดียว
รึเปล่า คงไม่มั้งเพราะมีหนังอยู่เรื่องนึง หนังปี2013 เรื่องNebraska
เป็นเรื่องความหมายชีวิตของคนใกล้ฝั่ง หนังนำเสนอด้วยภาพขาวดำ มุมกล้องสวยงามเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวหนัง เป็นหนังที่ทำให้เข้าใจหัวอกผู้สูงอายุมากขึ้น วัยที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากแต่ขณะเดียวกันก็เป็นวัยที่เปราะบางและต้องการความเอาใจใส่อย่างมากด้วย บ่อยครั้งที่เราเห็นคนแก่ขี้น้อยใจ หัวดื้อ และชอบทำอะไรที่ดูขัดตาขัดใจลูกหลาน มีเมียก็ขี้บ่น มีลูกก็เอาแต่ทำงานจนลืมพ่อแม่ ปัญหาคลาสสิคของครอบครัวอ่ะเน้อะ
สปอยเรื่องหน่อยนึงเพราะคิดว่าหนังเก่าแระคงหาดูยาก เอาเนื้อเรื่องตรงจุดเลยละกัน เรื่องมีอยู่ว่า ชายชราอย่าง Woody Grant คือคนที่กำลังเจอปัญหาบั้นปลายชีวิตที่ไม่ค่อยมีใครเข้าใจ จึงต้องสร้าง ‘ที่พักพิงใจ“และหา ‘เป้าหมาย’ ให้กับชีวิต เพื่อให้รู้สึกว่า ‘ตัวเองมีค่า’ ไม่ใช่ตาแก่ขี้หลงขี้ลืมที่หายใจทิ้งไปวันๆ
ภารกิจพิชิตคุณค่าชีวิตของคุณตาแกก็คือ การเดินทางไป ‘Nebraska’ ซึ่งเป็นอีกรัฐหนึ่ง เพื่อรับ ‘เงินล้าน’ จากจดหมายโฆษณาที่ระบุว่า จะได้รับเงินรางวัล ‘ถ้า’ หมายเลขของผู้โชคดีตรงกับของคุณ! เป็นใครได้ฟังก็รู้ว่านี่มันโฆษณาชวนเชื่อ แต่สำหรับคุณตามันคือเป้าหมายใหญ่ในชีวิตของเขาเลยทีเดียว เดือดร้อนถึงลูกชายที่ต้องขับรถข้ามรัฐ พาพ่อของตัวเองไปรับเงิน ทั้งๆ ที่รู้ว่า... ‘มันแค่เรื่องหลอกลวง’
และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ลูกชายต้องหันกลับมา ‘อย่างเข้าใจ’ หลังจากที่หันหน้าให้กับงานมานาน จนลืมสำรวจความรู้สึกของผู้เป็นพ่อ สรุปเลยว่าจริงๆ เขาแค่อยากเป็นคน ‘สำคัญและมีคุณค่า’ ในสายตาคนในครอบครัว “คนแก่’ ...ไม่ได้อยาก ‘รอความตาย’ ไปวันๆ ใครไม่แก่ก้อไม่เข้าใจ เดี๋ยวแก่แล้วระรู้ซึ้ง เล่านอกเรื่องซะยาวต้องขอบคุณนักอ่านที่อ่านมาถึงจุดนี้ มอบมงฯ!!
ศาลากลางแหละดูออก
Nebraska State Capitol อันนี้คือดี เป็นศาลาว่าการรัฐเนบราสกา ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ใน
ตัวเมืองลินคอล์น ออกแบบโดยสถาปนิกชาวนิวยอร์ก Bertram Grosvenor Goodhue ชื่ออ่านยาก เพื่อนนักอ่านออกเสียงตามสบาย สร้างขึ้นจากหินปูนอินเดียนาในปี 1922
ว่าไปก็เหมือนศาลากลางบ้านเราแหละ เป็นที่ตั้งของสำนักงานบริหารและตุลาการหลัก
สภานิติบัญญัติ
ที่ว่าดีคือเข้าไปเยี่ยมชมได้ระหว่างที่พวกเขาทำงาน เหมือนประชาชนเข้ามาดูได้ในเวลาราชการขณะที่พวกเขาทำงาน ประมาณเหมือนคอยสอดส่องข้าราชการว่าอู้งาน เล่นมือถือ งีบหลับ ทำงานคุ้มภาษีหรือเปล่า (หยอกๆ) ระหว่างเดินก็ร่มรื่นต้นไม้ช่วงนี้ผลิใบเยอะมาก ก่อนเข้าชมก็ลงทะเบียนที่ด้านหน้า ชมห้องไหนที่มีคนนั่งทำงานก็อย่าส่งเสียงดัง ชั้นบนสุดที่ยอดตึกมีดาดฟ้าชมวิวแบบมองเมืองนี้ได้สุดลูกหูลูกตา วิว360องศา เสียดายแบตฯหมดเก็บรูปจากมุมสูงได้นิดหน่อย อ้อลืมบอกที่นี่ก็เข้าฟรี
อวดรูปมุมสูงสักหน่อย
กินลมชมวิว
มีเวลาก็เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ เดินกินลมชมวิว จากรูปแทบไม่ค่อยเห็นผู้คนเดินถนน บอกแล้วว่าเงียบสงบเหมาะแก่การใช้ชีวิตแบบ slow lifeหรือแบบตัวสลอธ (น้องไม่ได้ขี้เกียจ
น้องแค่มีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์)
ความรู้ท่วมหัวเอาตัวให้รอด
แวะข้างทางมาเยอะแระ ตอนนี้เข้าโหมดสาระกัน จริงจัง!! UNL ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1869 เป็นเวลาทั้งสิ้น 156ปี มีพื้นที่ประมาณ 856 เอเคอร์ คิดแบบไทยๆ ก็ประมาณ 2,165 ไร่ แม่เจ้าเดินกันไม่ไหว เอาแบบฉบับย่อตามประสาคนขี้เมื่อยละกัน มีหลายคณะหลายสาขาให้เลือกเรียน
สอนกันตั้งแต่ปริญญาตรียันปริญญาเอก ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงก็แยะ ยกมาสักคน วอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่เป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก พูดง่ายๆคือรวยเว่อร์
ลุงเป็นคนเนบราสกาเรียนจบไปแล้วก็ยังสนับสนุนสถาบันที่เคยเรียน นับได้ว่าเป็นศิษย์เก่าดีเด่น ปรบมือ!!
โดยสนับสนุนดอลล่าร์ทำให้ที่นี่มีอุปกรณ์การเรียน การสอน สื่อทันสมัย อาคารเรียนครบครัน
แต่ๆหลักๆก็มาจากค่าเทอม อันนี้ไม่ฟรี!!
ที่นี่นักศึกษาไทยน้อยนับหัวได้ สิ่งเร้าใจน้อยมากมาเรียนต้องได้ความรู้ท่วมหัวเอาตัวรอดได้แน่นอน
คณะสถาปัตย์
เดินกันไม่หวาดไม่ไหว ส่วนใหญ่ป้วนเปี้ยนอยู่ตึกสถาปัตย์ฯ และเก็บภาพตึกละแวกใกล้เคียง อย่างที่บอกเนื้อที่ใหญ่มากเดินไม่ทั่ว เน้นเดินชมตึกบริหาร กับตึกสถาปัตย์ เยี่ยมชมให้คุ้มค่าเทอมของลูกๆ นักอ่านสนใจข้อมูลการเรียนเพิ่มเติมทักมาได้น้า มีเรื่องเล่าเยอะเดี๊ยวอ่านกันไม่ไหว ทั้งหอพัก โรงอาหาร ห้องสมุด สนามกีฬา เยอะแยะมากมาย เล่าเท่านี้เป็นออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อยก็พอ
ในรั้วมหาลัย
พื้นที่ใหญ่มาก อวดรูปได้ยังไม่ถึงครึ่งของตึกที่มี ทั้งหอพักทั้งสนามกีฬาขนาดใหญ่ ทั้งโรงอาหารเอามาลงอวดไม่หวาดไม่ไหว ช่วงspringใบไม้เขียวสด สนามหญ้าเขียวชอุ่ม เห็นแล้วนึกถึงคำที่ว่า หญ้าบ้านข้างๆ เขียวกว่าบ้านเราเสมอ ภาษาอังกฤษเสนอคำว่า“The grass is always greener on the other side.” แปลจริงๆก็แบบคนเราไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่และมักคิดว่าคนอื่นเป็นอยู่คือดีกว่าเรา เปรียบเทียบตลอดซึ่งจริงๆอาจจะไม่ดีกว่าก็ได้ มีความสุขง่ายๆโดยอย่าเปรียบเทียบ
หากยังอดใจไม่ได้คิดว่าหญ้าเพื่อนบ้านเขียวกว่าอยู่นั่นแหละ แนะนำยาแก้อาการ เสนอคำยาวๆแต่ดีกว่าว่า “The grass is always greener on the other side, but it’s just as hard to mow.” แปล!! หญ้าบ้านข้างๆ เขียวกว่าก็จริง แต่เวลาตัดมันก็ยากพอๆ กันนั่นแหละว๊า
แต่ละคนก็ล้วนแต่มีปัญหาอุปสรรคทั้งนั้น อย่าได้ไปอิจฉาหรือไปเปรียบเทียบ รับรองว่าความสุขจะเพิ่มขึ้น
ช้าง ช้าง ช้าง
หน้าตึกพิพิธภัณฑ์แห่งมหาวิทยาลัยมีรูปปั้นช้าง เป็นประติมากรรม Archie the mammoth ยืนต้อนรับผู้ที่มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ออกแบบโดย Fred Hoppe ศิลปินชาวเนบราสกา
นักศึกษาที่มาเรียนที่นี่รวมถึงฝรั่งมังค่าต้องมายืนลอดใต้เท้าช้าง เหมือนกับให้กำลังใจว่าเข้าเรียนที่นี่แล้วลอดเท้าช้างจะเรียนจบฉลุย ดีนะไม่ลอดท้องช้างปีนลำบากทุลักทุเล แต่เชื่อเถอะขยัน ตั้งใจยังงัยก็จบ อีกเรื่องอยากเล่าถ้าเดินไปมาในมหาลัยจะเจอกระรอกเยอะมาก คุ้นเคยกับนักศึกษาพอควร ชอบออกมาให้ยลโฉม
รอบรั้วมหาลัย
ระหว่างทางเดินไปมหาลัยมีตึกและโบสถ์สวยๆเยอะแยะ ขออวดนิดหน่อย เพื่อย้ำว่าเงียบสงบจริงๆ
หน้าหนาวมาเยือน
อย่างที่เล่าหน้าหนาวหิมะหนักเอาการ นักศึกษาที่นี่ต้องอึดถึกทน อากาศติดลบมักมาพร้อมกับอาการหวงที่นอน ไม่อยากลุกไปเรียนแต่ไม่สามารถขี้เกียจได้เพราะนักศึกษาที่นี่ต้องเรียนด้วยทำงานหาดอลล่าร์กินขนมปัง แซนวิช กาแฟ จิปาถะฯลฯ เรียนรัฐที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึงค่าครองชีพไม่สูงโด่งเท่ารัฐใหญ่ๆ ส่วนวิชาการความรู้ไม่เป็นสองรองใคร!!
โฆษณา