7 มี.ค. เวลา 09:47 • ธุรกิจ

หากขึ้นหัวข้อว่า “ระบบเศรษฐกิจในยุคของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4”

หัวข้อแบบนี้ดูจับต้องไม่ได้ ลองเปลี่ยนเป็นภาษาที่ทำให้เห็นภาพง่ายขึ้น “เราจะทำมาหากินอะไรกันดีในยุคของ AI”
เมื่อมองในภาพรวมกว้าง ๆ
ในยุคของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และจักรกล หุ่นยนต์ (Mechatronics) ประชากรโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นในทุกมิติ เราจะพัฒนาระบบเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งขึ้นโดยที่ไม่เพิ่มความเหลื่อมล้ำได้อย่างไร? จะสร้างโลกที่ยั่งยืนเพื่อคนรุ่นต่อไปได้อย่างไร?
ท่ามกลางการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ซึ่งเทคโนโลยีอย่างเช่น AI, หุ่นยนต์, Big Data รวมถึงเทคโนโลยีชีวภาพที่ก้าวหน้ากว่าเดิม กำลังพัฒนาตัวมันเองและส่งผลกระทบออกไปสู่ทุกภาคอุตสาหกรรม ไม่ใช่แค่อุตสาหกรรมการผลิตแต่รวมไปถึงภาคบริการทั้งยังมีโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมายอย่างที่หลายคนไม่เคยคาดคิดมาก่อน
หัวใจของการเปลี่ยนแปลงในยุคนี้คือ AI ซึ่งเมื่อมีการเรียนรู้ deep learning ไปสักระยะอาจก้าวหน้าจนคิด วิเคราะห์ แยกแยกแยะได้เอง อุตสาหกรรมการแพทย์กำลังใช้ AI และ Big Data เพื่อพัฒนายาและการรักษาโรค ขณะที่รถยนต์ไร้คนขับและหุ่นยนต์กำลังมีบทบาทมากขึ้นในวิถีชีวิตของเรา
นี่คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะกำหนดอนาคตของมนุษยชาติ โดยไม่จำเป็นต้องมีใครกล่าวเปิดงานและตัดริบบิ้นเพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงการเริ่มต้น
……………
การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ก็คงคล้ายกันกับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 3 จากการที่เทคโนโลยีได้นำพาเราไปสู่การสร้างผลผลิตที่มากขึ้นกว่าเดิม โลกใบนี้เคยผ่านการปฏิวัติอุตสาหกรรมมาแล้วหลายครั้ง เริ่มจากการถือกำเนิดของเครื่องยนต์กลไก จากนั้นก็ผ่านเข้าสู่ยุคของอิเล็กทรอนิกส์ ถัดมาก็เป็นยุคดิจิตอล ทั้งหมดนี้ล้วนเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของโลกไปโดยสิ้นเชิง เพียงแต่การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้อาจส่งผลกระทบที่รุนแรงและในวงกว้างกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ผ่าน ๆ มานั้น หลักใหญ่ใจความจะเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการผลิตในโรงงานซึ่งมักจะเป็นกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมหนัก แต่ ณ เวลานี้ เราจะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทุกแขนงไม่เฉพาะแค่กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตแต่ยังครอบคลุมไปถึงภาคบริการพร้อมทั้งยังมีการพัฒนาให้เกิดธุรกิจรูปแบบใหม่เพิ่มมากขึ้น และที่สำคัญคือมันได้ขยายขอบเขตเข้าไปยังงานต่าง ๆ ที่ครั้งหนึ่งเราเคยเชื่อว่ามีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ทำได้แต่ว่าในตอนนี้มันไม่จริงอีกต่อไป
หัวใจของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 นี้ก็คือปัญญาประดิษฐ์ที่เป็นความสามารถของจักรกลในการจับคู่ข้อมูลและเมื่อทำไปได้สักระยะหนึ่งก็จะมีการพัฒนาอัลกอริธึมร่วมกับการมี Big data หรือฐานข้อมูลที่ใหญ่ขึ้นละเอียดขึ้น ทำให้เกิด Deep learning ที่เครื่องจักรเรียนรู้และค้นหาผลลัพธ์ได้ดีขึ้นกว่าเดิม และในที่สุดก็ต้องถึงวันที่จักรกลเหล่านี้สามารถคิดวิเคราะห์ได้เทียบเท่ากับมนุษย์ที่สร้างมันขึ้นมา จากนั้นก็จะมีแต่ฉลาดกว่ามนุษย์ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
อ่านต่อได้ที่ https://herothailand.com/x2sr
โฆษณา