7 มี.ค. เวลา 17:25 • กีฬา

กฎถือบอล 8 วินาที ช่วยพัฒนาเกมฟุตบอลจริงหรือ?

เมื่อช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แฟนบอลคงได้ยินเกี่ยวกับ "กฎผู้รักษาประตูถือบอลได้ 8 วินาที" ถูกประกาศออกมา โดยแม้ยังไม่มีการบังคับใช้ระหว่างซีซันที่ดำเนินอยู่ แต่ด้วยผลที่ดีจากการทดลอง ได้มีการยืนยันนำมาใช้ในซีซันหน้า 2025/26 โดยจะได้เห็นในทัวร์นาเมนท์ใหญ่อย่างศึกชิงแชมป์สโมสรโลก ที่จะแข่งขันกันกลางเดือน มิ.ย. เป็นเรื่องเป็นราว
เมื่อกฎนี้ออกมา เป็นธรรมดาที่จะเกิดคำถาม ว่าช่วยพัฒนาเกมฟุตบอลให้ดีขึ้น หรือสนุกขึ้น จริงหรือ? หรือมันจะเป็นอีกครั้งที่ชุมชนฟุตบอลทั่วโลก จะออกมาบ่นว่า "คนคิดกฎ มันเคยเล่นฟุตบอลจริงมั้ย(ฟระ)?"
ลงรายละเอียดคร่าวๆ กฎนี้จะถูกใช้อย่างเคร่งครัดมากขึ้นเพื่อไม่ให้ผู้รักษาประตูถือบอลนานจนเกินไปเพื่อถ่วงเวลา โดยมีบทลงโทษคือการให้ลูกเตะมุมกับฝ่ายตรงข้ามทันที หากกรรมการตัดสินว่าผิดกฎ ซึ่งการส่งสัญญาณให้ทราบ จะทำโดยผู้ตัดสินในสนาม ที่จะแสดงการนับถอยหลัง 5-4-3-2-1 เป็นการเตือน หากผู้รักษาประตูยังไม่ปล่อยบอลจากมือ
กติกานี้ ถูกทดสอบใช้งานในฟุตบอลระดับเยาวชน และลีกในประเทศรอง เป็นที่เรียบร้อย โดยระบุว่า มีการทำโทษจากการถือบอลเกินเวลาแค่เพียง 4 เกม จากจำนวนเกมแข่งขันที่ทดลองทั้งหมด หลักหลายร้อยเกม
ด้านความเห็นต่างๆ ของคนในแวดวงฟุตบอล หลังกฎนี้ถูกประกาศออกมา แน่นอนว่ามีทั้งที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย
"เดวิด เอลเลอเรย์" อดีตกรรมพรีเมียร์ลีก เห็นว่า กฎนี้น่าจะให้ผลลัพธ์ในเชิงบวก เพราะทำให้เกมดำเนินเร็วขึ้น กลับกัน "พอล โรบินสัน" อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษ กลับเห็นว่า กฎนี้ถูกออกแบบมาโดยคนที่ไม่เคยเล่นฟุตบอลจริง โดยกฎกลับให้เวลาเพิ่มเติมจากเดิม 6 วินาที เป็น 8 วินาที สำหรับผู้รักษาประตูในการถ่วงเวลา
กลับมาที่ความคิดเห็นของ Bench's Eye View ก็รู้สึกว่าการแสดงความเห็นของทั้งเอลเลอเรย์ และโรบินสัน นั้นมีความน่าสนใจทั้งคู่ เห็นด้วยว่าการทำให้เกมฟุตบอลรวดเร็วยิ่งขึ้น ลดโอกาสในการตุกติกถ่วงเวลา เป็นเรื่องที่ดี เพราะขนาดการเจตนาเล่นช้า ทุ่มช้า ยังถูกทำให้เข้มงวดขึ้น และลงโทษด้วยการแจกใบเหลือง การตั้งกฎที่รองรับการถือบอลนานเกินจำเป็นของผู้รักษาประตู ก็ควรสมเหตุสมผลด้วยตัวมันเอง
ในทางกลับกัน ก็เข้าใจโรบินสัน ที่รู้สึกแปลกในการเพิ่มเวลาถือบอลจาก 6 เป็น 8 วินาที แต่ถ้าย้อนไปคิดถึงการบังคับใช้จริง จะมีสักกี่ครั้งกัน ที่กรรมการทุกวันนี้ นับ 6 วินาทีเคร่งครัดอย่างที่กฎเขียนไว้ หากจะเพิ่มเติมเป็น 8 วินาที แต่กำหนดมาตรฐานการนับให้จริงจัง มันก็ดูสมเหตุสมผลด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี การเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย ในเชิงกฎที่เขียนบรรญัติออกมาบนหน้ากระดาษ ต้องมองไปถึงการบังคับใช้จริงในสนามด้วยเช่นกัน เพราะกฎนี้คนที่มีสิทธิ์ขาด และมีความสำคัญในการตัดสินคือ "กรรมการในสนาม"
ซึ่งหากกฎนี้ จะถูกหยิบมาใช้ให้ได้ประสิทธิภาพ ก็ควรมีความเคร่งครัดที่ชัดเจน ควรมีการบัญญัติให้ครอบคลุมที่สุด ว่าการนับ 8 วินาทีที่ว่า เริ่มต้นจากเมื่อไหร่ เพราะสถานการณ์การรับบอลของผู้รักษาประตู ในแต่ละสถานการณ์ อาจแตกต่างออกไป เช่น การรับบอลในกรอบเขตโทษที่โล่งๆ ไม่มีคนกดดัน กับ การรับบอลจากลูกเตะมุม ที่มีผู้คนออเต็มหน้าประตู และมีผู้เล่นฝั่งตรงข้าม พร้อมดีเลย์ป้องกันการออกบอลสวนกลับ เป็นต้น อีกทั้งการแสดงสัญญาณนับถอยหลัง ก็ต้องแสดงให้ชัดเจน สอดคล้องกับความสมเหตุสมผลของเหตุการณ์ดังกล่าว
เพราะหากกฎเขียนไว้ครอบคลุม และผู้ตัดสินสามารถนำมาใช้อย่างมีมาตรฐาน สม่ำเสมอ ไม่ทำให้เรื่องในสนามมันวุ่นวาย ไร้มาตรฐาน เมื่อนั้นเราคงจะตอบได้แน่ชัดเอง ว่ากฎนี้มันเวิร์คจริงๆ มั้ย? หรือ 8 วินาที มันเป็นเวลาที่เหมาะสมหรือเปล่า? ไม่ใช่มากังวลกับกฎ เพราะคนเอาไปใช้ ใช้มันผิดๆ ถูกๆ น่าปวดหัว
เครดิตภาพ : Sky Sports
#แอดติง
#BEV
#เรื่องราวฟุตบอลจากมุมมองที่ชัดในความรู้สึก
โฆษณา