8 มี.ค. เวลา 12:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

⭐️ “Magnificent 7" น่าลงทุนแล้วหรือยัง?

หลังจากหุ้น 7 นางฟ้าปรับตัวลงในปีนี้ คำถามคือตอนนี้ราคาปรับตัวลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจแล้วหรือยัง วันนี้นิคกี้เลยเอาข้อมูลมาฝากเพื่อนๆกันค่ะ ไล่ดูทีละรูปได้เลย
📱 Apple (AAPL)
Apple เป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่ออกแบบและผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค เช่น สมาร์ตโฟนและคอมพิวเตอร์ รวมถึงพัฒนาซอฟต์แวร์และบริการออนไลน์ต่างๆ
👉🏻 ผลิตภัณฑ์เด่น - ผลิตภัณฑ์หลักของ Apple ที่เรารู้จักกันดี ได้แก่ iPhone, iPad, Mac และ Apple Watch นอกจากนี้ยังมีบริการอย่าง App Store และ Apple Music ที่ได้รับความนิยมอีกเช่นกัน
💪🏻 จุดแข็ง - Apple มีจุดแข็งด้านแบรนด์ที่แข็งแกร่งและฐานลูกค้าที่ภักดี ผลิตภัณฑ์ของ Apple ถูกออกแบบให้ทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นเป็นระบบเดียว (ecosystem) สร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีแก่ผู้ใช้ อีกทั้ง Apple ยังโดดเด่นเรื่องดีไซน์และนวัตกรรม ทำให้สินค้าของบริษัทมีความน่าสนใจและแตกต่างจากคู่แข่ง
📊 Key Financial Ratio
- Market Cap: 3,591.3 B
- ผลตอบแทน YTD: -4.4%
- P/E Ratio (FWD): 32.14x
- EPS Growth Forecast: 20.4%
- ROE: 136.5%
- ROIC: 60.3%
- Profit Margin: 46.5%
🖥 Microsoft (MSFT)
Microsoft เป็นบริษัทไอทีระดับโลกที่มีธุรกิจหลักในการพัฒนาซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีดิจิทัล นอกจากสร้างระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ (เช่น Windows) และซอฟต์แวร์สำนักงาน (เช่น Office) แล้ว Microsoft ยังให้บริการคลาวด์แก่ธุรกิจต่างๆ และผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางชนิด (เช่น เครื่องเล่นเกม Xbox)
👉🏻 ผลิตภัณฑ์เด่น - ผลิตภัณฑ์ชื่อดังของ Microsoft ที่หลายคนคุ้นเคย ได้แก่ Windows, Microsoft Office และเครื่องเล่นเกม Xbox สำหรับคอเกม นอกจากนี้ Microsoft ยังมีบริการคลาวด์ชื่อ Azure ที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายในองค์กร
💪🏻 จุดแข็ง - จุดแข็งของ Microsoft คือมีผลิตภัณฑ์ที่กลายเป็นมาตรฐานในชีวิตประจำวันและธุรกิจ เช่น Windows และ Office ที่แทบทุกองค์กรใช้งาน ทำให้บริษัทมีฐานผู้ใช้ขนาดมหึมา นอกจากนี้ Microsoft ยังมีธุรกิจที่หลากหลายและปรับตัวตามเทคโนโลยีใหม่ๆ (อย่างคลาวด์และ AI) ได้ดี ส่งผลให้มีรายได้มั่นคงและเติบโตต่อเนื่อง
📊 Key Financial Ratio
- Market Cap: 2,923.9 B
- ผลตอบแทน YTD: -6.5%
- P/E Ratio (FWD): 30.17x
- EPS Growth Forecast: 11.3%
- ROE: 34.3%
- ROIC: 26.2%
- Profit Margin: 69.4%
🔍 Alphabet (GOOGL)(บริษัทแม่ของ Google)
Alphabet เป็นบริษัทแม่ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อดูแลกิจการต่างๆ ของ Google โดยธุรกิจหลักอยู่ในด้านเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตและบริการออนไลน์ ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทมาจากการโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มของ Google
👉🏻 ผลิตภัณฑ์เด่น - บริการและแพลตฟอร์มยอดนิยมในเครือ Alphabet ที่ผู้คนใช้กันทั่วโลก ได้แก่ Google Search, YouTube, ระบบปฏิบัติการ Android สำหรับสมาร์ตโฟน, บริการแผนที่ Google Maps และ Gmail เป็นต้น
💪🏻 จุดแข็ง - จุดแข็งของ Alphabet คือการครองความเป็นผู้นำในบริการค้นหาข้อมูลออนไลน์ ซึ่งทำให้มีฐานผู้ใช้มหาศาลและข้อมูลจำนวนมาก ส่งผลให้ระบบโฆษณาของ Google มีประสิทธิภาพสูง สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดี นอกจากนี้บริษัทยังมีวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้เกิดโครงการล้ำสมัยมากมาย (เช่น การพัฒนารถยนต์ไร้คนขับและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์)
📊 Key Financial Ratio
- Market Cap: 2,129.7 B
- ผลตอบแทน YTD: -8.2%
- P/E Ratio (FWD): 19.26x
- EPS Growth Forecast: 11.8%
- ROE: 32.9%
- ROIC: 28.8%
- Profit Margin: 58.2%
📦 Amazon (AMZN)
 
Amazon เป็นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่เริ่มต้นจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (ขายหนังสือออนไลน์) และเติบโตจนกลายเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ปัจจุบัน Amazon ยังขยายไปสู่ธุรกิจอื่นๆ เช่น บริการคลาวด์คอมพิวติ้ง (Amazon Web Services), สตรีมมิงบันเทิง (Prime Video, Prime Music) และผลิตอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ
👉🏻 ผลิตภัณฑ์เด่น - บริการหลักของ Amazon ที่ผู้บริโภคคุ้นเคย คือเว็บไซต์ Amazon.com ซึ่งลูกค้าสามารถซื้อสินค้าทุกอย่างได้ในที่เดียว นอกจากนี้ยังมี Amazon Prime (บริการสมาชิกที่มอบสิทธิพิเศษ เช่น ส่งสินค้าฟรีและเข้าถึงวิดีโอ/เพลงสตรีมมิง), Amazon Web Services (แพลตฟอร์มคลาวด์สำหรับองค์กร) และผลิตภัณฑ์อย่างเช่น Amazon Echo ที่มาพร้อมผู้ช่วยเสียง Alexa
💪🏻 จุดแข็ง - จุดแข็งของ Amazon คือขนาดและความหลากหลายของธุรกิจ Amazon มีเครือข่ายศูนย์กระจายสินค้าและระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ส่งสินค้าถึงมือลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้บริการ AWS ของ Amazon ยังครองส่วนแบ่งการตลาดสูงในธุรกิจคลาวด์ สร้างรายได้และกำไรจำนวนมากให้บริษัท ซึ่งช่วยให้ Amazon สามารถลงทุนขยายธุรกิจต่อเนื่องได้
📊 Key Financial Ratio
- Market Cap: 2,111.6 B
- ผลตอบแทน YTD: -9.2%
- P/E Ratio (FWD): 31.19x
- EPS Growth Forecast: 16.4%
- ROE: 24.3%
- ROIC: 14.7%
- Profit Margin: 48.9%
🎮 Nvidia (NVDA)
 
Nvidia เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) สำหรับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยชิปของ Nvidia ถูกนำไปใช้ทั้งในการประมวลผลกราฟิกสำหรับเล่นเกมและงานคำนวณประสิทธิภาพสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์
👉🏻 ผลิตภัณฑ์เด่น - ผลิตภัณฑ์หลักของ Nvidia คือชิป GPU ตระกูล GeForce สำหรับการเล่นเกมบนคอมพิวเตอร์ที่เกมเมอร์หลายคนรู้จัก นอกจากนี้ Nvidia ยังผลิตจีพียูสำหรับศูนย์ข้อมูลและงาน AI (เช่น ชิปสำหรับฝึกสอนระบบปัญญาประดิษฐ์) ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากในปัจจุบัน
💪🏻 จุดแข็ง - จุดแข็งของ Nvidia คือความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี GPU บริษัทมีชื่อเสียงในการพัฒนาชิปที่ประสิทธิภาพสูง และได้รับความไว้วางใจจากทั้งวงการเกมและเทคโนโลยี AI เนื่องจาก Nvidia แทบจะไม่มีคู่แข่งที่ทัดเทียมในด้านนี้ ทำให้บริษัทครองส่วนแบ่งตลาดขนาดใหญ่ได้อย่างมั่นคง
📊 Key Financial Ratio
- Market Cap: 2,749.6 B
- ผลตอบแทน YTD: -16%
- P/E Ratio (FWD): 24.5x
- EPS Growth Forecast: 53.5%
- ROE: 119.2%
- ROIC: 97.5%
- Profit Margin: 75.0%
📘 Meta (META)(ชื่อเดิม Facebook, Inc.)
Meta เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ดำเนินธุรกิจด้านโซเชียลมีเดียและการสื่อสารออนไลน์ โดยเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมขนาดใหญ่หลายแห่งที่ผู้คนทั่วโลกใช้ติดต่อกันเป็นประจำ เช่น Facebook, Instagram และ WhatsApp
👉🏻 ผลิตภัณฑ์เด่น - บริการหลักในเครือของ Meta ได้แก่ Facebook (แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก), Instagram, WhatsApp และ Messenger นอกจากนี้ Meta ยังพัฒนาเทคโนโลยีความจริงเสมือน (VR) ผ่านอุปกรณ์ Oculus เพื่อรองรับวิสัยทัศน์ด้าน metaverse อีกเช่นกัน
💪🏻 จุดแข็ง - จุดแข็งของ Meta คือฐานผู้ใช้งานจำนวนมหาศาลบนแพลตฟอร์มของตน ซึ่งสร้างเอฟเฟกต์เครือข่าย (Network Effect) ที่ทำให้ผู้ใช้ยังคงอยู่ในระบบเพราะเพื่อนและครอบครัวก็ใช้งานด้วย ส่งผลให้คู่แข่งเข้ามาแทนที่ได้ยาก อีกทั้ง Meta มีข้อมูลผู้ใช้จำนวนมากช่วยให้สามารถให้บริการโฆษณาออนไลน์ได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ บริษัทมีกำไรสูงจากธุรกิจโฆษณา ทำให้สามารถลงทุนในโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น เทคโนโลยี metaverse
📊 Key Financial Ratio
- Market Cap: 1,585.2 B
- ผลตอบแทน YTD: +6.9%
- P/E Ratio (FWD): 24.32x
- EPS Growth Forecast: 8.2%
- ROE: 37.1%
- ROIC: 27.1%
- Profit Margin: 81.7%
🚗 Tesla (TSLA)
 
Tesla เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์และเทคโนโลยีพลังงานสะอาด มีชื่อเสียงจากการเป็นผู้บุกเบิกในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดย Tesla ไม่ได้ผลิตแค่รถยนต์ แต่ยังพัฒนาแบตเตอรี่สำหรับกักเก็บพลังงานและระบบพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับบ้านและธุรกิจ
👉🏻 ผลิตภัณฑ์เด่น - ผลิตภัณฑ์หลักของ Tesla คือรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่างๆ เช่น Model S, Model 3, Model X และ Model Y ซึ่งได้รับความนิยมในตลาดรถ EV ด้วยระยะทางการขับขี่ต่อการชาร์จที่ไกลและสมรรถนะที่ดี รถของ Tesla ยังมาพร้อมฟีเจอร์ขับขี่กึ่งอัตโนมัติ (Autopilot) ที่ทันสมัย นอกจากนี้ Tesla มีผลิตภัณฑ์ Powerwall (แบตเตอรี่เก็บพลังงานสำหรับใช้ในบ้าน) และระบบหลังคาโซลาร์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจพลังงานสะอาด
💪🏻 จุดแข็ง - จุดแข็งของ Tesla คือความเป็นผู้นำและภาพลักษณ์ผู้สร้างนวัตกรรมในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า Tesla เป็นรายแรกๆ ที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นที่นิยมในตลาดวงกว้าง ด้วยการออกแบบที่ล้ำสมัยและเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูง อีกทั้งบริษัทมีเครือข่ายสถานีชาร์จไฟของตัวเอง (Supercharger) ทำให้ผู้ใช้สะดวกในการเดินทางไกล และมีผู้นำอย่าง Elon Musk ที่มีวิสัยทัศน์กล้าคิดกล้าทำ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความตื่นเต้นให้กับแบรนด์
📊 Key Financial Ratio
- Market Cap: 844.9 B
- ผลตอบแทน YTD: -35%
- P/E Ratio (FWD): 83.55x
- EPS Growth Forecast: 55.5%
- ROE: 10.5%
- ROIC: 8.0%
- Profit Margin: 17.9%
📌 Data as of 7 March 2025
โฆษณา