หุ้นเทสล่า จะดิ่งไปถึงไหน ถ้าอีลอน มัสก์ ยังโฟกัสอยู่ที่ทำเนียบขาว // Mr.Messenger
ถ้าจะพูดถึงหุ้นที่กำลังร้อนระอุในแง่ดราม่าและความผันผวน คงหนีไม่พ้น หุ้นเทสล่า ที่ตอนนี้เหมือนนั่งรถไฟเหาะตีลังกาแบบไม่รู้จะลงจอดเมื่อไหร่! ล่าสุด หุ้นเทสล่าดิ่งลงต่อเนื่อง 7 สัปดาห์ติด นับตั้งแต่อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ไปวุ่นวายกับการเมืองในวอชิงตัน ร่วมงานกับรัฐบาลทรัมป์ ราคาหุ้นปิดวันศุกร์ที่ $270.48 ถือเป็นการตกต่ำยาวนานที่สุดในรอบ 15 ปีที่เทสล่าเป็นบริษัทจดทะเบียน เรียกว่านักลงทุนเริ่มเหงื่อตกกันแล้ว!
จากจุดพีคที่เกือบ $480 เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ปีที่แล้ว มูลค่าตลาดของเทสล่าหายวับไปกว่า $800 พันล้านเหรียญ ทำเอาวอลล์สตรีทถึงกับต้องปรับเป้าราคาหุ้นกันยกใหญ่ Bank of America ลดเป้าจาก $490 เหลือ $380 โดยชี้ว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ของเทสล่ากำลังดิ่งลงเหว แถมมัสก์ยังเงียบกริบ ไม่มีอัปเดตอะไรเกี่ยวกับ “รถรุ่นราคาประหยัด” ที่ทุกคนรอคอย
Goldman Sachs ก็ไม่ยอมน้อยหน้า หั่นเป้าจาก $345 ลงมาเหลือ $320 บอกว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป จีน และบางส่วนของสหรัฐฯ กำลังซบเซา แถมในจีน คู่แข่งอย่าง BYD ยังให้ระบบขับขี่อัจฉริยะมาแบบฟรีๆ ไม่ต้องจ่ายเพิ่มเหมือน Full Self-Driving (FSD) ของเทสล่า
ส่วน Baird โหดกว่านั้น ใส่ชื่อเทสล่าเข้าไปในลิสต์ “หุ้นน่าห่วง” บอกว่าการหยุดสายการผลิตชั่วคราวเพื่อปรับเปลี่ยนไปทำ Model Y รุ่นใหม่ จะยิ่งทำให้ซัพพลายตึงตัว งานนี้เรียกว่าเจอทั้งปัญหาด้านอุปสงค์และอุปทานเลยทีเดียว
มัสก์ไปยุ่งการเมือง แล้วเทสล่าได้อะไร?
แต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่แค่ตัวเลขยอดขายหรือการผลิตเท่านั้น นักลงทุนเริ่มกังวลว่า การที่มัสก์ไปเป็นที่ปรึกษาให้ประธานาธิบดีทรัมป์ และคุมโปรเจกต์ DOGE จะดึงสมาธิของเขาออกจากเทสล่าไปนานแค่ไหน แถมพฤติกรรมของมัสก์บน X ที่โพสต์เรื่องการเมืองแบบจัดเต็ม ทั้งด่าผู้พิพากษา หรือแชร์ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับยูเครน ก็ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของเทสล่าในสายตาคนทั่วไปเริ่มสั่นคลอน
ในสหรัฐฯ และยุโรป กระแสต่อต้านมัสก์และเทสล่ากำลังพุ่งแรง มีทั้งการประท้วงและเหตุการณ์ที่สงสัยว่าเป็นการวางเพลิงหรือทำลายทรัพย์สินที่โรงงานเทสล่า แม้แต่แฟนตัวยงของเทสล่าบางคนยังเริ่มตั้งคำถามผ่านสื่ออย่าง Cleantechnica ว่า “ถึงเวลาขายรถเทสล่าทิ้งหรือยัง?” หรือ “บอร์ดเทสล่าควรปลดมัสก์ออกจากตำแหน่ง CEO ไหม?” งานนี้เรียกว่านักลงทุนสายบวก (Tesla bulls) ถึงกับต้องกลั้นใจรอดูท่าทีกันเลย
แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์?
ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีนักวิเคราะห์บางกลุ่มที่มองโลกในแง่ดี Wedbush Securities บอกว่านี่คือโอกาสทองที่จะซื้อหุ้นเทสล่าในราคาถูก ตั้งเป้า 12 เดือนไว้ที่ $550 โดยเชื่อว่าการที่ทรัมป์อยู่ในทำเนียบขาวจะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลายกฎระเบียบ ซึ่งจะเอื้อต่อวิสัยทัศน์ของเทสล่าเรื่องรถยนต์ไร้คนขับและเทคโนโลยีอัตโนมัติเต็มรูปแบบ พวกเขาคาดว่ามัสก์จะกลับมาโฟกัสที่เทสล่าและบริษัทอื่นๆ ของเขาในช่วงครึ่งหลังของปี 2025
ด้าน TD Cowen ก็มองว่า เทสล่ากำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของรอบผลิตภัณฑ์ใหม่ในปี 2025-26 ซึ่งอาจจุดประกายยอดขายและราคาหุ้นให้กลับมาพุ่งได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นรถรุ่นราคาย่อมเยา Robotaxi หรือหุ่นยนต์ humanoid ที่ใช้ในโรงงาน ฝันของมัสก์ยังดูไกล แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
สรุปแล้ว หุ้นเทสล่าจะรอดหรือร่วง?
แนวรับของหุ้น Tesla (TSLA) ผมมองตามนี้ครับ
แนวรับแรก : อยู่ที่ประมาณ $220-$230 ซึ่งสอดคล้องกับเส้น MA Cross (50, 200) ที่เคยเป็นจุดพักตัวในอดีต และเป็นโซนที่ราคาเคยเด้งขึ้นมาได้เมื่อปลายปี 2024
แนวรับที่สอง : อยู่ที่ $180-$190 หากราคาทะลุแนวรับแรกลงมา ตรงนี้เป็นโซนลึกที่อาจดึงดูดนักลงทุนสายซื้อเก็งกำไรเข้ามา เพราะเคยเป็นฐานราคาในช่วงกลางปี 2024
แนวรับสำคัญ : ต่ำกว่า $150 ซึ่งเป็นระดับที่อาจเกิดหากสถานการณ์แย่ลงมาก (เช่น การเมืองหรือยอดขายเทสล่าแย่ลงต่อเนื่อง)
ตอนนี้เหมือนเทสล่ากำลังอยู่ในพายุที่มัสก์เป็นคนก่อขึ้นมาเอง การเมืองอาจเป็นดาบสองคมที่ทั้งช่วยและทำร้ายบริษัทได้ในเวลาเดียวกัน ถ้ามัสก์ยังคงมัวแต่เล่นบท “ซูเปอร์ฮีโร่แห่งทำเนียบขาว” โดยไม่หันกลับมาดูแลเทสล่าให้ดี หุ้นนี้อาจดิ่งลงไปอีกไกล
แต่ถ้าเขาสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็น “มนุษย์หลายร่าง” ที่จัดการทุกอย่างได้พร้อมกัน นักลงทุนอาจได้เห็นแสงสว่างอีกครั้ง คุณว่าไงล่ะ ตอนนี้ถึงเวลาซื้อหรือขายดี?
Mr.Messenger รายงาน
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
