ทำความรู้จักแนวคิด FIRE ว่าคืออะไร ดีหรือไม่ หากต้องการเกษียณแบบ FIRE จะต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่ มีวิธีการอย่างไร มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ทำไมคนญี่ปุ่นถึงให้ความนิยม ?
ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการวางแผนเงินเกษียณถือเป็นสิ่งสำคัญมาก วันนี้ FINN เลยอยากแนะนำแนวคิดการเก็บเงินเพื่อเกษียณอย่าง FIRE ให้รู้จัก เพราะถือเป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่ทำให้เราสามารถวางแผนเกษียณได้อย่างรวดเร็วซึ่งคนยุคใหม่ในญี่ปุ่นนิยมใช้กัน มาดูกันว่า FIRE คืออะไร เป็นแนวคิดที่ดี หรือทำได้จริงในทางปฏิบัติหรือไม่ มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร หากต้องการเกษียณแบบ FIRE จะต้องมีเงินเท่าไหร่ และวิธีวางแผนที่ควรนำมาใช้ จาก FINN
ทั้งนี้เงินที่ออมควรนำไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนต่อเนื่อง เช่น กองทุนดัชนี หุ้นปันผล หรือตราสารหนี้ เพื่อสร้างกระแสรายได้แบบ Passive Income ที่มั่นคง นอกจากนี้การจัดทำแผนการเงิน และติดตามความก้าวหน้าอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมาย FIRE ได้ตามที่ตั้งใจไว้
แนวคิดแบบ FIRE ได้ผลจริงไหมในทางปฏิบัติ ?
หากพูดกันในเชิงปฏิบัติแล้ว การเก็บเงินด้วยแนวคิดแบบ FIRE ซึ่งจะต้องเก็บเงินให้ได้มากถึง 50-70% ของรายได้ ถือเป็นสิ่งที่ทำได้ค่อนข้างยากในปัจจุบัน ทั้งจากเหตุผลทางเศรษฐกิจ รวมถึงเทรนด์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่เน้นใช้ชีวิตในปัจจุบันให้มีความสุข ซื้อประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับตนเองอยู่เสมอซึ่งขัดต่อหลักการของ FIRE ที่จะต้องอดทนเก็บเงินในช่วงแรกแล้วค่อยสบายทีหลัง
สาเหตุที่ FIRE ฮิตในหมู่คนญี่ปุ่น
แนวคิด FIRE ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่ ซึ่งแม้แนวคิด FIRE จะดูเหมือนขัดแย้งกับวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ทั่วโลก แต่สำหรับคนญี่ปุ่นแล้วสาเหตุสำคัญที่ทำให้ FIRE ได้รับความนิยมมาจากความกังวลต่อความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ คนรุ่นใหม่ในญี่ปุ่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่สามารถคาดหวังอนาคตที่มั่นคงในยามเกษียณได้ จึงเริ่มหันมาสนใจแนวทางการเกษียณอายุก่อนกำหนด
FIRE ช่วยสร้างอิสรภาพทางการเงิน : การเก็บเงินแบบ FIRE ช่วยให้สามารถเลิกพึ่งพารายได้จากการทำงาน และมีความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว ทำให้สามารถใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน
●
ส่งเสริมวินัยทางการเงิน : การเก็บเงินแบบ FIRE ต้องอาศัยการวางแผน และวินัยที่ดี ทำให้เกิดนิสัยการออมเงิน การลงทุน และการจัดการรายจ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
เพิ่มโอกาสในการลงทุนระยะยาว : แนวทาง FIRE ส่งเสริมการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนต่อเนื่อง เช่น หุ้น กองทุนดัชนี หรืออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าเงินในระยะยาว
●
FIRE ช่วยเตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนในอนาคต : การเก็บเงินแบบ FIRE ทำให้มีเงินสำรองที่เพียงพอสำหรับรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดในชีวิตหลังเกษียณได้เป็นอย่างดี
สำหรับใครที่ต้องการทราบความรู้ทางการเงินในแง่มุมต่าง ๆ เพิ่มเติมเพื่อวางแผนการจัดการการเงินของตนเองในอนาคตสามารถปรึกษา FINN ได้ https://go.finn-app.com/finnis0424 เพราะ FINN พร้อมจะแชร์ข้อมูลความรู้ทางการเงินมากมาย สอบถามกันเข้ามาได้เลย