มูลค่าดัชนี “Nasdaq” วูบกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์
ถล่มขายหุ้นเทคฯ อเมริกา “Citi” ดาวน์เกรดหุ้นสหรัฐฯ เพิ่มน้ำหนักหุ้นจีน
ดัชนี Nasdaq 100 ตลาดหุ้นนิวยอร์กทรุดตัวลง 4% ในวันจันทร์ (10 มี.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งเดือนก.ย. 2565 เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ดิ่งลงกว่า 10% จากระดับสูงสุดที่ทำไว้ในวันที่ 19 ธ.ค. 2567 ซึ่งเป็นการยืนยันว่าดัชนี Nasdaq ได้เข้าสู่เขตปรับฐาน ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอย ส่งผลให้มูลค่าตลาดของดัชนี Nasdaq หายไปกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินเยนและการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรญี่ปุ่น หลังจากนักลงทุนได้ลดการทำ Carry Trade ในสกุลเงินเยน ท่ามกลางความหวังที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้านี้
ทั้งนี้ ธุรกรรม Carry Trade คือการที่นักลงทุนกู้ยืมสกุลเงินเยนซึ่งมีต้นทุนต่ำ เพื่อนำไปซื้อสกุลเงินหรือสินทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า ซึ่งการลดการทำ Carry Trade ได้ส่งผลให้เกิดแรงเทขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงหุ้น 7 บริษัทเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูง หรือกลุ่ม "Magnificent Seven"
หุ้นเทสลาปิดตลาดร่วงลง 15.43% ในวันจันทร์ ส่งผลให้ราคาหุ้นร่วงลงไปแล้วถึง 45% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ขณะที่หุ้นอินวิเดีย ร่วงลง 5.07% ส่งผลให้มาร์เก็ตแคปของอินวิเดียลดลงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์ของซิตี้ (Citi) ปรับลดคำแนะนำการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ สู่ “neutral” ขณะที่ปรับเพิ่มคำแนะนำสำหรับหุ้นจีนเป็น “overweight” โดยคาดว่าข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐจะออกมาแย่ลงอีก
เดิร์ก วิลเลอร์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์มหภาค การจัดสรรสินทรัพย์ และตลาดเกิดใหม่ของซิตี้ ระบุว่า ซิตี้ให้น้ำหนักหุ้นสหรัฐฯ ที่ overweight มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ขณะที่หุ้นจีนยังคงน่าสนใจแม้ราคาพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เมื่อพิจารณาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของดีปซีค (DeepSeek) การสนับสนุนจากรัฐบาลต่อภาคเทคโนโลยี และมูลค่าหุ้นที่ยังคงถูก
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
