13 มี.ค. เวลา 10:17 • ข่าวรอบโลก

รัสเซียยึดคืน “ซูดจา” เมืองสำคัญริมชายแดนแล้ว

ยูเครนเหลือตั้งรับใน “เคิร์สก์” ไม่ถึง 20% ของพื้นที่เคยยึดได้
  • “ปูติน” ใส่เครื่องแบบทหารเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มสงครามยูเครนปี 2022 เดินทางมาตรวจและคุยกับผู้บัญชาการทหารในเคิร์สก์ด้วยตัวเอง
  • รัสเซียบอก “ถามเรายังว่าโอเคไหม” ยูเครนตกลงหยุดยิง 30 วัน หลังเจรจากับสหรัฐที่ซาอุฯ ล่าสุด ฟังเงื่อนไขรัสเซียก่อนว่ารับได้ไหมค่อยตกลงหยุดยิง
กองกำลังยูเครนได้ออกจากใจกลางเมืองซูดจาริมชายแดนของภูมิภาคเคิร์สก์ในรัสเซียแล้ว ซึ่งเมืองนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังติดอาวุธยูเครนตั้งแต่สิงหาคม 2024 อ้างอิงตามแผนที่ของ LiveUAMap ได้อัปเดตแผนที่ปฏิบัติการทางทหาร ล่าสุดวันนี้ 13 มีนาคม 2025 “ซูดจา” ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพยูเครนอีกต่อไปแล้ว ตามรูปด้านล่าง [1]
1
เครดิตภาพ: LiveUAMap
กองทัพยูเครนบุกเข้ายึดเมืองชุมชนหลายแห่งในภูมิภาคเคิร์สก์ของรัสเซียระหว่างปฏิบัติการในเดือนสิงหาคม 2024 เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว TASS ของรัสเซียเผยแพร่คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นทหารรัสเซียบุกเข้าไปอยู่ในใจกลางซูดจาได้ แต่ในเวลาต่อมาได้มีการลบโพสต์นั้นไปจากช่องเทเลแกรมของสำนักข่าวรัสเซียดังกล่าว [2]
1
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 12 มีนาคม 2025 กองทหารยูเครนได้ยับยั้งการโจมตีของกองทหารรัสเซียจำนวน 8 ครั้งในภูมิภาคเคิร์สก์ไว้ได้ ตามรายงานของผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพยูเครน “โอเล็กซานเดอร์ ซิร์สกี” ตามคำกล่าวของเขา ปฏิบัติการทางทหารยังคงดำเนินต่อไปในเขตชานเมืองของซูดจาและบริเวณใกล้เคียง [3]
ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพยูเครนกล่าวว่า กองทัพรัสเซียกำลังพยายามผลักดันกองทัพยูเครนออกจากภูมิภาคเคิร์สก์ให้ได้เพื่อหวังบุกต่อเข้าไปสู่แคว้นซูมีและคาร์คีฟในดินแดนยูเครน
โอเล็กซานเดอร์ ซิร์สกี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพยูเครน เครดิตภาพ: Roman Chop / AP Photo
ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมภูมิภาคเคิร์สก์ “เป็นครั้งแรก” นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการของกองทัพยูเครนบุกเข้ามาในภูมิภาคดังกล่าว ตามรายงานของ TASS [4]
ตามที่เครมลินระบุ ปูตินได้จัดการประชุมกับผู้บัญชาการทหารประจำภูมิภาคเคิร์สก์เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2025 ที่จุดบัญชาการแห่งหนึ่งของกองกำลังเคิร์สก์ โดยไม่ได้ระบุว่าตั้งอยู่ที่ใด สำนักข่าวของทางการรัสเซียได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของปูตินในชุดลายพรางทหารขณะรับฟังรายงานจาก “วาเลรี เกราซิมอฟ” เสนาธิการทหารสูงสุดกองทัพรัสเซีย
ปูตินเข้าตรวจเยี่ยมและรับฟังรายงานสถานการณ์ในเคิร์สก์จาก วาเลรี เกราซิมอฟ (ขวา) เครดิตภาพ: kremlin
ในระหว่างการประชุม “เกราซิมอฟ” รายงานว่ากองทหารรัสเซียได้ยึดคืนพื้นที่กว่า 1,000 ตารางกิโลเมตรระหว่างการรุกคืบในภูมิภาคเคิร์สก์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุมชนเมือง 24 แห่งในภูมิภาคนี้ได้รับการปลดปล่อยในช่วง 5 วันที่ผ่านมา นอกจากนี้กองทหารรัสเซียได้เริ่มตีเข้าสู่ภูมิภาคซูมีของยูเครนในบางส่วนบริเวณชายแดน เสนาธิการทหารสูงสุดกองทัพรัสเซียกล่าว
ตามที่เขากล่าว กลุ่มกองกำลังติดอาวุธยูเครนในภูมิภาคเคิร์สก์นั้น “ถูกโดดเดี่ยว” และ “การโจมตีทำลายอย่างเป็นระบบกำลังดำเนินอยู่” เสนาธิการทหารสูงสุดของรัสเซียยังระบุด้วยว่ากองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปแล้วมากกว่า 67,000 นายในภูมิภาคนี้ ยังไม่มีการยืนยันจากแหล่งอื่นเกี่ยวกับข้อมูลนี้
ปูตินได้ตอบต่อเกราซิมอฟว่า “เราต้องตั้งเป้าหมายที่จะเอาชนะศัตรูให้ได้ภายในระยะเวลาอันสั้นที่สุด” และ “ปลดปล่อยดินแดนทั้งหมดของภูมิภาคเคิร์สก์” ตามที่เขากล่าว “ในอนาคตเราจำเป็นต้องคิดเกี่ยวกับการสร้างเขตปลอดภัยใกล้พรมแดนของรัสเซียในภูมิภาคเคิร์สก์”
1
ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียยังกล่าวด้วยว่า ทหารยูเครนทุกนายที่ถูกจับโดยรัสเซียในภูมิภาคเคิร์สก์ควรได้รับการปฏิบัติเหมือน “ผู้ก่อการร้าย”
1
“วาเลรี [เกราซิมอฟ] เพิ่งกล่าวถึงนักโทษ แน่นอนว่าก่อนอื่นเลย เราต้องปฏิบัติต่อคนเหล่านี้ในฐานะผู้ก่อการร้ายตามกฎหมายของรัสเซีย” ปูตินกล่าว “เราปฏิบัติต่อทุกคนอย่างมีมนุษยธรรมและจะต้องปฏิบัติต่อไปในอนาคต เราปฏิบัติต่อทุกคนที่ตกอยู่ในมือเรา ในขณะเดียวกันผมอยากจะเตือนคุณด้วยว่าทหารรับจ้างต่างชาติ (ของฝั่งตะวันตก) ไม่ครอบคลุมอยู่ในอนุสัญญาเจนีวาปี 1949 ว่าด้วยการปฏิบัติต่อเชลยศึก”
1
เครดิตภาพ: ANI News
ภายหลังจากข่าวการตกลงหยุดยิง 30 วันของยูเครน หลังคุยกับสหรัฐในซาอุฯ รอบล่าสุดที่ผ่านมา หลังจากนั้นสหรัฐฯ ก็กลับมาให้ความช่วยเหลือทางทหารและแบ่งปันข่าวกรองกับยูเครนอีกครั้ง “มาร์โก รูบิโอ” รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ จะส่งข้อเสนอหยุดยิงไปให้รัสเซีย โดยจะดำเนินการผ่าน “สตีฟ วิทคอฟฟ์” ผู้แทนพิเศษของทรัมป์ ซึ่งคาดว่าจะบินไปมอสโกในวันพฤหัสบดี (วันนี้ ล่าสุดมีข่าวว่าผู้แทนคนนี้บินมาถึงมอสโกแล้ว)
เจ้าหน้าที่และแหล่งข่าวของรัสเซียได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่ารัสเซียไม่พร้อมที่จะประนีประนอม (ตามเงื่อนไขของฝ่ายพวกเขา) และจะเจรจากับฝ่ายบริหารทำเนียบขาวตามเงื่อนไขของรัสเซีย ก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้โพสต์เตือนว่าจะเพิ่มการคว่ำบาตรหากมอสโกปฏิเสธที่จะนั่งลงที่โต๊ะเจรจา [5]
1
“รัสเซียรู้ว่าเราต้องทำอย่างไรเพื่อไม่ยอมการประนีประนอมใดๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อชะตากรรมของชาวรัสเซียเอง” เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีการต่างประเทศรัสเซียกล่าวในการสัมภาษณ์กับบล็อกเกอร์ มาริโอ นาอูฟาล อดีตนักวิเคราะห์ของซีไอเอ แลร์รี จอห์นสัน และนักประชาสัมพันธ์ แอนดรูว์ นาโปลีตาโน (ซึ่งคนเหล่านี้ถูกมองว่าเป็นกระบอกเสียงให้กับเครมลิน) [6]
ลาฟรอฟยังได้กล่าวถึงจุดยืนของรัสเซียเกี่ยวกับการมีอยู่ของกองกำลังนาโตในยูเครน ซึ่งตามสถานการณ์การหยุดยิงที่กำลังมีการหารือกันอยู่นั้น กองกำลังดังกล่าวอาจถูกนำเข้าไปในยูเครนได้ในฐานะส่วนหนึ่งของภารกิจรักษาสันติภาพ “หากการขยายตัวของนาโตได้รับการยอมรับอย่างน้อยจากทรัมป์ว่าเป็นสาเหตุหลักประการหนึ่ง การปรากฏตัวของกองกำลังนาโตภายใต้ธงใดๆ ก็ตาม ในทุกกรณี บนผืนแผ่นดินยูเครนก็เป็นภัยคุกคามต่อเราเช่นเดียวกัน” ลาฟรอฟเน้นย้ำ
1
เครดิตภาพ: NationalDefence
แหล่งข่าวระดับสูงของรัสเซียยืนยันกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ปูตินพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะตกลงหยุดยิงในรูปแบบปัจจุบันโดยไม่หารือเงื่อนไขและยอมรับเงื่อนไขการรับประกันความมั่นคงที่ยั่งยืน แหล่งข่าวอีกรายในมอสโกกล่าวว่าจากมุมมองของรัสเซีย ข้อเสนอนี้ดูเหมือนกับดัก
ล่าสุดสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าว 2 รายระบุว่า มอสโกได้ยื่น “รายการข้อเรียกร้อง” แก่สหรัฐ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงยุติสงครามในยูเครน ผู้ร่วมสังเกตการณ์ดังกล่าวอธิบายว่า “เงื่อนไขของรัสเซีย” นั้นคล้ายคลึงกับที่รัสเซียเคยเรียกร้องกับยูเครน สหรัฐ และนาโตมาก่อนหน้านี้ จริงแล้วมันก็เรื่องเดิมๆ ใช่ไหม? มีอะไรบ้าง [7]
1
ก่อนหน้านี้มอสโกเคยเรียกร้องให้เคียฟยอมละทิ้ง “การเป็นสมาชิกนาโต” และ “การส่งทหารต่างชาติ (ตะวันตก) เข้ามาประจำการในยูเครน” รวมถึงให้นานาชาติยอมรับการผนวกดินแดนยูเครนของรัสเซีย เรียกร้องให้สหรัฐและนาโตกำจัด “ต้นตอ” ของสงคราม รวมถึงการขยายอิทธิพลของนาโตมายังทางตะวันออก
เครดิตภาพ: Gavriil Grigorov / Sputnik / AFP
ก่อนหน้านี้วอชิงตันโพสต์รายงานเกี่ยวกับเอกสารที่ระบุว่า กลุ่มนักคิดทางยุทธศาสตร์ชาวรัสเซียที่ใกล้ชิดกับ FSB (หน่วยงานความมั่นคงกลางรัสเซีย) เตรียมพร้อมยื่นเงื่อนไข “กำแพงสูงลิ่ว” ให้เครมลินในเดือนกุมภาพันธ์ โดยเอกสารดังกล่าวถูกดักจับได้โดยฝ่ายข่าวกรองยุโรป ทำให้เกิดกระแสข่าวเรื่องแผนกของทรัมป์ที่จะยุติสงครามภายใน 100 วันนั้นว่าเป็นไปไม่ได้ และการแก้ไขวิกฤตยูเครนอย่างสันติไม่สามารถเกิดขึ้นได้ก่อนปี 2026 – อ้างคำพูดจากเอกสารของกลุ่มนักคิดชาวรัสเซีย [8]
1
เอกสารที่นักข่าวได้รับยังปฏิเสธแผนการส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้ามายังยูเครน มีเนื้อหาบ่งชี้ถึงการให้ยอมรับอำนาจอธิปไตยของรัสเซียเหนือดินแดนยูเครนที่ยึดไว้ได้ด้วย และการสร้างเขตกันชนบริเวณชายแดนใกล้ภูมิภาค Bryansk และ Belgorod รวมถึงเขตปลอดทหารทางตอนใต้ของยูเครนใกล้กับไครเมีย เอกสารดังกล่าวยังกล่าวถึงความจำเป็นในการ “ยุบทิ้ง” รัฐบาลยูเครนชุดปัจจุบันอีกด้วย วอชิงตันโพสต์เขียนไว้
2
เรียบเรียงโดย Right Style
13th Mar 2025
  • อ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: (พื้นหลัง) ISW (ในกรอบสี่เหลี่ยม) Kremlin>
โฆษณา