Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
พบหมอจิน
•
ติดตาม
18 มี.ค. เวลา 00:17 • สุขภาพ
การใช้พลังงานอื่นทดแทน
การทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกายของเรานั้น นอกจากจะถูกควบคุมโดยระบบประสาทและระบบต่อมไร้ท่อแล้วยังพบว่าการทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกาย ยังมีขบวนการควบคุมซึ่งกันและกัน เพื่อรักษาสมดุลย์ของร่างกาย ยกตัวอย่างเช่น ปริมาณกลูโคสในเลือดนั้นจะถูกควบคุมด้วยฮอร์โมนจากตับอ่อน 2 ชนิดคือฮอร์โมนอินซูลิน และฮอร์โมนกลูคากอน
ถ้าปริมาณกูโคลสในเลือดสูงกว่าปกติตับอ่อนจะหลั่งฮอร์โมนอินซูลินออกมาซึ่งปริมาณของฮอร์โมนตัวนี้จะมากหรือน้อย ย่อมขึ้นอยู่กับปริมาณของกลูโคสในเลือด
ฮอร์โมนอินซูลินนี้เป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์ของร่างกายใช้ปริมาณกลูโคสให้มากขึ้น เมื่อมีน้ำตาลในร่างกายมากเกินไป นอกจากนี้ยังจะเปลี่ยนเป็นกลูโคสส่วนเกินเอาไปเก็บไว้ในรูปของไกลโคเจนอีกด้วย
ไกลโคเจนมีลักษณะเป็นแป้งเมื่อร่างกายขาดกลูโคส หรือเมื่อกลูโคสในร่างกายต่ำกว่าปกติ จะมีผลให้ตับอ่อนถูกกระตุ้น เพื่อหลั่งฮอร์โมนกลูคากอนออกมาเพื่อเปลี่ยนไกลโคเจนให้เป็นกลูโคส จะเห็นได้ว่าปริมาณของกลูโคสในเลือดขึ้นอยู่กับฮอร์โมนอินซูลินและกลูคากอน
ขบวนการควบคุมซึ่งกันและกันนี้ มีประโยชน์ในการรักษาสมดุลย์ของร่างกาย ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 แบบ
✅ แบบแรกเกิดขึ้นเมื่อปริมาณของกลูโคสในเลือดสูง จะทำให้ฮอร์โมนอินซูลินออกมามาก
✅แบบที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อปริมาณของกลูโคสในเลือดต่ำจึงมีปริมาณของฮอร์โกอกลูคากอนออกมามาก
คนที่เป็นเบาหวานนั้น เนื่องจากตับอ่อนไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลินให้ได้มากพอ ที่จะควบคุมปริมาณกลูโคสในเลือดได้ หรืออาจเป็นได้ว่าท่อไตไม่ดูดกลูโคสกลับเข้ากระแสเลือด จึงทำให้มีน้ำตาลกลูโคสออกมาในปัสสาวะ หรืออาจจะเกิดจากโรคอ้วน เพราะเมื่ออ้วนร่างกายต้องการฮอร์โมนอินซูลินเพิ่มมากขึ้น แต่ตับอ่อนสร้างฮอร์โมนนี้ได้ไม่พอใช้ อีกประการหนึ่งอาจจะเกิดจากการที่ตับอ่อนสร้างฮอร์โมนอินซูลินได้ช้ามาก หลังจากที่รับประทานอาหารประเภทแป้งหรือน้ำตาลที่เรียกว่าคาร์โบไฮเดรตไปแล้ว
ตับเป็นอวัยวะที่สำคัญชนิดหนึ่งในร่างกาย เป็นต่อมที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย และเป็นศูนย์กลางในการเผาผลาญอาหาร
ตับมีหน้าที่ในการย่อยอาหารด้วย ที่บริเวณใต้ตับมีถุงน้ำดีอยู่ ซึ่งน้ำดีจากตับจะออกมาเมื่อถูกกระตุ้นด้วยฮอร์โมนของลำไส้เล็ก
ถ้าเรามาพิจารณาตำแหน่งที่ตั้งของตับ จะพบว่าตับอยู่ใต้ชายโครงด้านขวา ซึ่งปกติแล้วจะคลำตับไม่ได้แต่ถ้าตับโตถึงจะคลำได้ บางคนตับโตมากๆคลำตับได้โตเป็นนิ้วก็มี และถ้าเป็นตับแข็งด้วยก็จะคลำตับได้โต และมีผิวขรุขระ
ตับมีหน้าที่สำคัญมาก คือเมื่ออาหารถูกดูดซึมเข้าไปตรงบริเวณลำไส้เล็กส่วนต้นนั้น อาหารที่มีโมเลกุลเล็กจะเข้าสู่กระแสเลือดทางเส้นเลือดดำใหญ่ แล้วไปที่ตับได้รวดเร็วมากทีเดียว
ตับเป็นที่เก็บ ที่เปลี่ยนแปลง และที่กระจายอาหารต่างๆไปตามที่ร่างกายต้องการ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อมีน้ำตาลกลูโคสมากเกินไปหลังจากที่รับประทานอาหารเข้าไปแล้ว ตับก็จะเปลี่ยนกลูโคสให้เป็นไกลโคเจนหรือแป้งเพื่อเก็บไว้ในตับ
เวลาใดที่ร่างกายต้องการน้ำตาล ตับก็จะเป็นตัวการเปลี่ยนไกลโคเจนให้กลับขึ้นมาเป็นน้ำตาลกลูโคสได้อีกหรือบางทีตับก็เปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นไขมันได้ และตับยังสามารถเปลี่ยนไขมันให้เป็นคาร์โบไฮเดรตหรือกรดอะมิโนได้อีก
แต่กรดอะมิโนนี้ตับเก็บรักษาเอาไว้ไม่ได้ ตับจะทำอย่างไรกับกรดอะมิโน
จะเห็นว่าตับมีวิธีการที่จะดึงเอากลุ่มอะมิโนออกมาเป็นแอมโมเนียได้ เพราะแอมโมเนียนี้ถ้าปล่อยไว้ในร่างกายก็จะเป็นอันอันตรายมากทีเดียว เพราะจะทำให้เลือดของเราแปรสภาพเป็นด่างได้
นับเป็นความโชคดีที่พระผู้เป็นเจ้าผู้สร้างโลกได้จัดการให้แอมโมเนียรวมกับคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งต่างก็เป็นของเสียด้วยกันทั้งคู่ เมื่อสองชนิดมารวมกันแล้วจะกลายเป็นยูเรีย ซึ่งยูเรียจะถูกขับออกมาเป็นน้ำปัสสาวะได้
ได้พบเห็นกันทั่วไปแล้วว่าในน้ำปัสสาวะนั้นยิ่งทิ้งไว้นานเท่าใดจะมีกลิ่นแอมโมเนียฉุนแสบจมูกทีเดียว ส่วนกรดอะมิโนที่เหลือตับก็จะเปลี่ยนให้เป็นไขมันหรือคาร์โบไฮเดรตต่อไปแล้วแต่ร่างกายจะต้องการอย่างไร
นอกจากนี้ตับยังทำหน้าที่อีกหลายอย่างเช่น ทำหน้าที่สังเคราะห์วิตามินเอ และโปรตีนอีกหลายหลายอย่างในเลือด
ตับยังเป็นแหล่งเก็บสะสมวิตามินชนิดที่ตัวของมันเองละลายได้ในไขมันอีกด้วย นอกจากนี้หน้าที่อีกชนิดหนึ่งของตับคือช่วยสร้างเม็ดเลือดและทำลายเม็ดเลือด
เรามาดูเรื่องของกล้ามเนื้อกันบ้างจะเห็นว่าบางคนมีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ การที่เห็นเป็นมัดชัดเจนนั้นเพราะเค้าออกกำลังกายหรือเล่นกล้ามให้กล้ามเนื้อเหล่านั้นแข็งแรงแล้วมันจะมีขนาดใหญ่ขึ้น กล้ามเนื้อที่เป็นมัดนี้เป็นกล้ามเนื้อลายตรงกันข้ามกับกล้ามเนื้อหัวใจของเราซึ่งเป็นกล้ามเนื้อเรียบ
กล้ามเนื้อลายมักจะจะเป็นบริเวณที่มีไขมันไปสะสมอยู่มากเป็นพิเศษบริเวณนี้จะเป็นบริเวณที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายสักเท่าใด เช่นบริเวณพุงซึ่งจะเห็นพุงใหญ่คนที่พุงใหญ่เวลายืนแล้วมองดูนิ้วเท้าของตัวเองอาจจะมองไม่เห็นนิ้วเท้า เพราะพุงใหญ่ เนื่องจากไขมันไปแทรกอยู่ใต้กล้ามเนื้อลายบริเวณพุงที่เรียกว่าลงพุง
บางคนมีไขมันไปแทรกตามกล้ามเนื้อสะโพก กล้ามเนื้อต้นขา กล้ามเนื้อต้นคอเห็นชัดเจน มองดูน่าเกลียดสร้างความหงุดหงิดใจให้กับเจ้าของรูปร่าง ต้องหาวิธีลดสัดส่วน ทำให้เสียเงินเสียทองโดยใช้เหตุ
ทำไมเราจะต้องไปเสียเงินเสียทองให้มากมายโดยเปล่าประโยชน์และอาจจะได้ผลไม่คุ้มค่าก็ได้ ตัวอย่างเช่นบางคนไปหาหมอซื้อยาลดความอ้วนมารับประทาน บางคนอาจจะเข้าไปอบตัวเข้าคอร์สลดน้ำหนัก ถ้าทำไม่ถูกวิธีอาจจะก่อให้เกิดผลร้ายต่อสุขภาพเป็นบ่อเกิดของโรคต่างๆตามมาได้
ศาสนาอิสลามได้ตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้ พระผู้สร้างโลกจึงได้กำหนดให้มุสลิมถือศีลอดทุกวันเป็นเวลา 29 - 30 วันซึ่งในแต่ละวันที่ถือศีลอดใช้เวลาประมาณ 13 ชั่วโมงโดยไม่ได้มีการดื่มน้ำรับประทานอาหารแต่อย่างใด
ปรากฏว่าในระยะเวลา 3-6 ชั่วโมงแรกจะรู้สึกว่าหิวเพราะระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลง แต่เมื่อเวลาผ่านไป 6-12 ชั่วโมง ร่างกายจะหันไปใช้พลังงานทดแทนอื่นนั่นคือการใช้ไกลโคเจนที่สับที่สะสมอยู่ในตับและกล้ามเนื้อขณะเดียวกันก็ยังใช้แหล่งพลังงานจากไขมันอีกด้วย
จะเห็นว่าการอดอาหารนี้ แหล่งที่จะถูกเรียกเอาพลังงานมาใช้คือบริเวณกล้ามเนื้อ ไขมันจะถูกรีดออกมาจากกล้ามเนื้อในระยะนี้ด้วยโดยไม่ต้องเสียเงินเสียทองไปรีดเอาไขมันนี่คือคุณประโยชน์ของการถือศีลอดที่เห็นผลได้อย่างชัดเจน
บันทึก
73
73
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย