สรุปการเช่ารถขับที่ญี่ปุ่น (ฮอกไกโด) และพื้นที่หิมะแบบเข้าใจง่าย
ใครมีแพลนอยากเช่ารถขับที่ญี่ปุ่น โดยเฉพาะฮอกไกโด หรือพื้นที่อากาศหนาวเย็น มีหิมะตกปกคลุมโปรยปราย ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้กันได้เลย จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และไม่ต้องจ๊ะเอ๋กับพี่ตำรวจหรือไปเยี่ยม สน. ด้วยนะ...
1. มีบริษัทเช่ารถให้เลือกเยอะ เอาตามความสะดวกของแต่ละคนได้เลย
2. แนะนำให้เช่าบัตร ETC หรือ HEP ไว้ด้วยนะครับหากต้องขึ้นทางด่วน ยังไงก็คุ้มกว่าจ่ายเงินสดแน่นอน (แต่วางแผนเรื่องราคาให้ดีว่าแบบไหนคุ้มกว่า) เวลาขับขึ้นทางด่วนก็เลือกช่องสีฟ้า ETC ได้เลย
3. ซื้อประกันแบบครบวงจรโดยเฉพาะประกัน CDW และประกัน ECO เพราะจะทำให้คุณไม่ต้องจ่ายค่า Excess หากเกิดอุบัติเหตุ
4. การขับรถในญี่ปุ่นเป็นฝั่งขวาเหมือนเมืองไทยครับ แถมรถไม่ได้เยอะมากหากไม่ใช่ตัวเมืองใหญ่หรือช่วงเวลาเร่งด่วน ไม่ต้องเกร็งหรือกดดันมาก แค่เน้นกฎจราจรให้เป๊ะ
5. การขับรถในเมืองจะมีแยกไฟแดงเยอะมาก เท่าที่สังเกตหากขับ ๆ อยู่แล้วใกล้ถึงแยกแต่เป็นไฟเหลืองคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยังขับผ่านไปครับ เพราะถ้าเบรกคิดว่าน่าจะอันตราย แต่ถ้าคิดว่าระยะเบรกทันก็เบรกดีกว่าจะได้ไม่โดนพี่ตำรวจเรียก
6. ตามซอยหรือแยกหลายแห่งโดยเฉพาะต่างจังหวัด จะมีป้ายสามเหลี่ยมคว่ำสีแดงตัวอักษรญี่ปุ่นสีขาว มันคือป้ายให้หยุดก่อนเลี้ยว ย้ำ! ว่าหยุดตรงเส้นก่อน จากนั้นมองซ้ายขวาให้ดีแล้วค่อยเลี้ยวครับ ห้ามแค่ชะลอแล้วไปเหมือนเมืองไทยนะ เพราะบางทีคุณอาจแจ็คพอตเจอพี่ตำรวจเช่นกัน ส่วนถ้าเจอทางรถไฟก็ต้องหยุดเพื่อเช็กให้ชัวร์ก่อนขับข้ามด้วยนะครับ
ป้ายหยุดก่อนเลี้ยว
7. ถนนสายหลักส่วนใหญ่เขาจะเคลียร์หิมะไว้ข้างทางหมดแล้วครับ ยกเว้นอาจมีบางเส้นที่น้ำแข็งเกาะหรือหิมะตกใหม่ หากสังเกตเห็นก็ชะลอรถไว้ล่วงหน้าเพราะบางครั้งอาจเจอกับอาการรถลื่นหรือล้อสะบัดเบา ๆ ได้ ไม่ต้องตกใจ
6. การขับรถบนทางด่วนชิวสุด ๆ ขอแค่ไม่ทำความเร็วเกินกฎหมายกำหนด คิดว่าน่าจะประมาณไม่เกิน 100 กม. / ชม.
7. ส่วนทางปกติไม่ควรเกิน 60 กม. / ชม. โดยเฉพาะหากเป็นพื้นที่ตัวเมืองหรือชุมชน รวมถึงทางขึ้น-ลงเขา ป้องกันการเจอไฟแดงแบบฉุกเฉินหรือหิมะบนถนนแบบคาดไม่ถึง
8. ย้ำ! ญี่ปุ่นไม่มีเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด คุณต้องจอดหากเจอไฟแดง จนกว่าจะไฟเขียว
9. การเลี้ยวขวาตรงแยกต้องรอสัญญาณไฟเท่านั้น และต้องให้รถฝั่งตรงข้ามเลี้ยวจนหมดก่อนจึงไปได้
10. ไฟจราจรญี่ปุ่นคุณอาจเจอกับไฟกลมและไฟลูกศร นั่นคือการบอกว่าทางไหนไปได้ ซึ่งปกติไฟกลมแดงคือทางตรง ส่วนลูกศรก็บังคับเลี้ยวตามนั้น สมมุติไฟกลมใหญ่สีแดง แต่ไฟลูกศรเขียว คุณสามารถเลี้ยวได้ครับ
11. ที่นี่ให้ความสำคัญกับคนเดินบนทางม้าลายมากกกก แม้จะเป็นไฟเขียว แต่ถ้าคนยังเดินอยู่อย่าคิดแม้แต่จะบีบแตร เพราะถือเป็นการเสียมารยาทอย่างแรง ส่วนตอนเลี้ยวซ้าย-ขวา ให้ระวังคนเลี้ยวนิดนึงครับ เพราะบางทีเขายังเดินข้ามไม่เสร็จอาจเกิดอุบัติเหตุได้
12. หากต้องขับรถขณะหิมะตกให้ขับด้วยความใจเย็น ไม่ต้องทำความเร็วมากป้องกันถนนลื่น
13. หากต้องขับบนหิมะหรือน้ำแข็งบนถนนขับให้ช้าที่สุดครับ ไม่ต้องกลัวโดนคันหลังด่า เพราะทุกคนก็จะขับคล้าย ๆ กัน และอย่าลืมเว้นระยะห่างรถคันหน้าให้มากขึ้น เพราะบ่อยครั้งการเบรกอาจลื่นไปข้างหน้าได้เสมอ ยิ่งถ้าเจอหิมะตกหนาจนมองไม่เห็นขอบทางถนนให้สังเกตลูกศรสีแดงด้านข้าง นี่คือตัวบอกขอบทางครับ และอย่าพยายามขับชิดขอบทางที่มีการเคลียร์หิมะหรือมีพื้นน้ำแข็ง เพราะโอกาสลื่นมีสูง
14. การจอดรถอย่าจอดมั่วซั่วนะ จะมาจอดข้างทางแล้วบอกไม่กี่นาทีเหมือนบ้านเราไม่ได้นะ มีโอกาสเจอพี่ตำรวจเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่ที่จอดรถในญี่ปุ่นต้องเสียเงิน แต่ยังไงก็คุ้มกว่าค่าปรับแน่นอน ยกเว้นสถานที่เที่ยวหลายแห่ง หรือตามห้างมักให้จอดฟรี
15. การจอดรถหากอยู่ท่ามกลางหิมะ หรือจอดกลางแจ้งเป็นเวลานาน เช่น จอดค้างคืน แนะนำให้เลือกจอดบนพื้นปกติ อย่าจอดทางลาด แล้วไม่ต้องยกเบรกมือ เพราะถ้าใช้เบรกมือพอตื่นเช้ามาอาจทำให้หิมะไปเกาะจนเป็นน้ำแข็ง ตบกลับลงไม่ได้ ลำบากชีวิตไปอีก อีกเรื่องคือถ้าจอดนาน ๆ แนะนำให้ยกที่ปัดน้ำฝนขึ้น เพราะจะช่วยให้การกวาดหิมะตอนเช้าง่ายกว่าเดิม
จอดรถกลางหิมะนาน ๆ ต้องยกที่ปัดน้ำฝน
16. หากต้องขับช่วงเช้ามืดอาจมีโอกาสเจอกับ Black Ice หรือ แผ่นน้ำแข็งบาง ๆ เกาะถนน จึงลื่นกว่าปกติหลายเท่าบางครั้งยางหิมะอาจเอาไม่อยู่ด้วยซ้ำ แนะนำขับให้ช้าที่สุดหรือถ้าเลี่ยงได้ก็รออีกนิดให้เคลียร์ทางก่อนดีกว่า
17. จริง ๆ การขับรถตอนกลางคืนหากไม่ได้มีหิมะตกไม่น่ากลัวนะครับ แค่ต้องระวังมากกว่าปกติ แต่ถ้าหิมะตกแนะนำหลีกเลี่ยงดีกว่า
18. หากตื่นเช้ามาแล้วเจอหิมะเกาะรถต้องกวาดออกให้หมดนะครับ โดยเฉพาะกระจก หลังคา ไฟสัญญาณ และตามล้อ ป้องกันการเกิดอันตรายเมื่อต้องขับขี่
19. ส่วนตัวจากประสบการณ์การขับขี่ในเขตต่างจังหวัดขับง่ายกว่าในเมืองมาก ไฟแดงไม่เยอะ ผู้คนไม่จอแจ
20. อย่าลืมพกใบขับขี่สากลไปด้วยนะครับโดยของญี่ปุ่นจะใช้ตามอนุสัญญาเจนีวา 1949 (อายุ 1 ปี) แอบกระซิบว่าปัจจุบันทำผ่านแอปของกรมขนส่งทางบกได้แล้วด้วยนะ ไม่ต้องเสียเวลาไปที่สำนักงานให้ยุ่งยาก
21. สุดท้ายหากคุณไปเที่ยวฮอกไกโดแล้วต้องออกต่างจังหวัดแนะนำเช่ารถจะดีกว่า เพราะไม่ต้องรอรถบัสหรือรถไฟนาน ได้ขับชมวิวสวย ๆ ตลอดทาง แถมยังไปที่เที่ยวได้เพียบตามแพลนที่วางเอาไว้เลย
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
