23 มี.ค. เวลา 11:21 • ปรัชญา

วิลเลียม อาเทอร์ วอร์ด นักเขียนสร้างแรงบันดาลใจชาวอเมริกันเคยกล่าวไว้ว่า

"The pessimist complains about the wind; the optimist expects it to change; the realist adjusts the sails."
<คนมองโลกในแง่ร้ายมักบ่นเรื่องลม คนมองโลกในแง่ดี..รอลมเปลี่ยนทิศ ส่วนคนมองโลกตามความเป็นจริง เขาเลือกปรับใบเรือ>
ประโยคนี้แบ่งคนออกได้เป็นสามกลุ่ม
คนกลุ่มที่ 1 - The pessimist (มองโลกในแง่ร้าย)
กลุ่มนี้มองอะไรแย่ไปหมด ลมมาก็บ่น ฝนมาก็โอดครวญ หิมะตกก็ส่ายหัว เข้าตำราพวก Fixed Mindset หรือคนที่มีกรอบความคิดจำกัด กลุ่มนี้แยกความจริงออกจากความเชื่อส่วนตัวยาก สังคมไหนมีคนกลุ่มนี้เยอะ ก็แย่หน่อย เพราะจะกลายเป็นสังคมที่อุดมไปด้วยเสียงบ่นและข้ออ้าง แทนที่จะลงมือแก้ไข ดิ้นรนพัฒนา กลับไปโทษฟ้า โทษอากาศ โทษคน และวนเวียนอยู่กับปัญหาเดิมๆไม่ไปไหน
คนกลุ่มที่ 2 - The optimist (มองโลกในแง่ดี)
พวกเขามักยิ้มในวันที่พายุร้ายพัดกระหน่ำซ้ำเข้ามา พลิกแพลงเรื่องร้ายๆ ด้วยทัศนคติเชิงบวก ถามว่าดีไหม มันก็ดี แต่มีจุดด้อยอยู่ตรงที่ว่า บางครั้งเฝ้ารอแต่ความหวัง ตั้งจิตอธิษฐานไปเรื่อย หากพบปัญหาแล้วรีรอ ไม่ลงมือสู้กับมัน ก็อาจกลายเป็นพวกชอบเพ้อฝันภาวนา เฝ้ารอลมอันไร้ทิศทางนั้นเปลี่ยนแปลง โลกสวยนั้นอยู่ยากหากปราศจากการดิ้นรน
คนกลุ่มที่ 3 - The realist (มองโลกตามความเป็นจริง)
กลุ่มคนที่ไม่โทษลม ไม่รอลมเปลี่ยนทิศ แต่เลือกที่จะปรับใบเรือด้วยตัวเอง กลุ่มนี้คือพวก Growth Mindset (มีกรอบความคิดเติบโต) ยอมรับความจริง เข้าใจอุปสรรค รู้จักพลิกแพลงประยุกต์เอาความพ่ายแพ้มาเป็นบันได ใช้เป็นบทเรียนเพื่อพัฒนาตัวตนต่อไปเรื่อยๆ ไม่ติดกับดักแห่งอารมณ์ ไม่ฝันลมๆแล้งๆ เลือกที่จะ 'ลงมือทำ' และพร้อมปรับตัวอยู่เสมอ
....
จะว่าไป ชีวิตก็เหมือนเรือลำเล็กในทะเล เราไม่อาจควบคุมทิศทางลม แต่เราปรับใบเรือเองได้ และถ้าเรายืนอยู่บนเรือลำเล็กๆ ยามแดดสาดแสงร้อนจัดลงมาบนเรือ ถ้าเรายืน เราจะเลือกยืนหยัดแบบไหนระหว่างยืนหันหลังให้แสง หรือเผชิญหน้าสู้แสงนั้น
มีสุภาษิตหนึ่งของชนเผ่าเมารี (กลุ่มคนพื้นเมืองบนหมู่เกาะนิวซีแลนด์) เขาสอนลูกหลานต่อๆกันมาว่า
"Turn your face to the sun and the shadows fall behind you."
<จงเผชิญหน้าสู้ดวงอาทิตย์ เพราะเงาอันมืดมิดจะทอดกายอยู่ด้านหลังคุณ>
ในที่นี้ .. แสงตะวันที่ร้อนแรงจัดอาจเปรียบได้กับความจริงอันโหดร้าย ความอยุติธรรมที่รุกคืบเข้ามาสู่ชีวิตเราอย่างบ้าคลั่ง ยิ่งเราหลบ แสงนั้นจะยิ่งได้ใจ และหากเราหันหลังให้มัน เงามืดมิดจะอยู่เบื้องหน้าเราไปตลอดกาล
เมื่อเงาคือความท้อแท้สิ้นหวังไร้พลัง แล้วเมื่อไหร่ เราจะรุกคืบกลับไปได้สักที .. ไม่หันหน้าสู้แสง จะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร
การใช้ชีวิตจึงต้องเลือกที่จะเป็นเช่นปลาที่ว่ายทวนกระแสน้ำ เป็นคนที่กล้ายืนหยัดท้าแสง ให้เงามืดนั้นทอดกายไว้ข้างหลัง แล้วก็เดินมันต่อไปเรื่อยๆ
บนโลกที่โหดร้ายใบนี้ ยิ่งใครเกิดมาอยู่บนเรือลำกระจิริด ไม่มีใครคอยเกื้อหนุน ไร้เสบียง ไร้ต้นทุน ยิ่งต้องปรับใบเรือเองให้เก่ง เผชิญหน้าสู้แดดที่แสนจะอำมหิตนั้นไปทุกเมื่อเชื่อวัน เอาให้มันด้านชาจนเคยชิน
เมื่อนั้น..เรือจึงจะยืนหยัดท่ามกลางพายุร้ายได้อย่างมั่นคง
ชีวิตก็เฉกเช่นนี้เอง
#HoveringInspirations
โฆษณา