24 มี.ค. เวลา 13:32 • นิยาย เรื่องสั้น

"วันจากลา" ตอนที่ 7

กล่าวถึงเจ้านันทะเสน เพื่อสืบหาความจริงในสิ่งที่ท่านฑูตสงสัย จึงได้ปลอมตัวเป็นชายสวมชุดดำ เข้าไปสืบข่าวของเจ้าฟ้ารุ่ง
เพราะความทรงจำในวัยเยาว์ เจ้าภพ เจ้าฟ้ารุ่ง และเจ้านันทะเสน จะห้อยกระดิ่งติดตัวตลอดเวลา ในวัยเยาว์หลังจากเจ้านันทะเสนฟื้นคืนสติ ก็นับถือเจ้าภพเป็นพี่ และเจ้าฟ้ารุ่งเป็นน้อง
ทั้งสองคือผู้มีพระคุณของเจ้านันทะเสน และเจ้านันทะเสนเป็นผู้ให้กระดิ่งแก่เจ้าภพ กับ เจ้าฟ้ารุ่ง แล้วสัญญาว่า จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
แต่ด้วยท่านฑูต เป็นพี่เลี้ยงของเจ้านันทะเสน
คอยยุแยงให้ เจ้านันทะเสนทำความดีเพื่อให้พระบิดาทรงวางใจ หวังได้ครองบัลลังก์สืบต่อมา ท่านฑูตจึงออกอุบายให้เจ้านันทะเสน
ส่งสารถึงเจ้าเมืองฟ้า เพื่อขออภิเษกสมรส กับ เจ้าฟ้ารุ่ง หากแผนการสำเร็จท่านฑูต ก็จะมีบารมีมากขึ้น ดังนั้นจึงได้ให้เจ้านันทะเสนปลอมตัวเป็นชายชุดดำ เพื่อเข้าไปในห้องของ เจ้าฟ้ารุ่ง เพื่อสร้างความแตกหักระหว่าง เจ้าภพ เจ้าฟ้ารุ่ง และเจ้านันทะเสน
ท่านฑูตได้แต่กระหยิ่ม ยิ้มย่อง แล้วพูดว่า
เมืองพตเอ๋ย ถึงคราสิ้น ก็วันนี้แล้ว ไม่มีใครหยุดฑูตอย่างข้าได้ ข้าต้องได้เป็นใหญ่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ใต้ล่านี้ต้องสยบใต้ข้าแต่เพียงผู้เดียว
จากนั้นท่านฑูต ก็เตรียมทหารพร้อมอาวุธ เพื่อโจมตีเมืองพต รอแค่สัญญานไฟเท่านั้น เจ้าเมืองฟ้า จะต้องร้องขอชีวิตกับข้า ฮ่าฮ่าฮ่า
ท่านฑูต ยืนหัวเราะด้วยความสะใจ
ฝ่ายเจ้านันทะเสน เมื่อบุกมาถึงห้องนอนของเจ้าฟ้ารุ่ง ก็ต้องตกตะลึงเมื่อคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าคือ สหายที่พึ่งกล่าวทักทายเมื่อยามเย็น
ส่วนเจ้าฟ้ารุ่ง ก็ไม่ได้มีท่าทีตกใจแต่อย่างใด
เจ้าฟ้ารุ่งเพียงเอ่ยถาม สบายดีรึ
แล้วท่านเข้ามาได้อย่างไร
หลบหลีกจากสายตา ทหารของข้างได้อย่างไรกัน "เจ้าฟ้ารุ่งถาม"
เจ้านันทะเสน ด้วยความที่ขุ่นใจ ที่โดนหลอก จึงกล่าวด้วยอารมณ์โมโหว่า
ก็แค่ทหาร กระจอกๆ ปกป้องเจ้านายก็ไม่ได้
มีอะไรที่ข้าต้องหลบเลี่ยง สายตาทหารของท่านรึ
มิสู้น้องหญิง แต่งงานกับเจ้าพี่ แล้วเราไปใช้ชีวิตด้วยกัน ทหารของเมืองเจ้าพี่ เข้มงวดกว่าเมืองของน้องหญิงเยอะเลย เราก็จะมีแต่ความสุข
"น้องหญิงว่าเป็นอย่างไรบ้าง มีลูกสัก สอง สาม คน วิ่งเล่นไปมา น่าสนุกดี"
ฝ่ายเจ้าฟ้ารุ่ง ได้ตอบกลับไปว่า
หากเจ้าพี่ต้องการบุตรธิดา สนมในวังก็มากโข
อย่าว่าแต่ สามคนเลย สิบ สามสิบ ก็มีไปเถิด
ตัวน้องนี้ไม่ไฝ่หาสิ่งเหล่านั้น น้องหวังแต่ประชาชนร่มเย็นเป็นสุข ก็เพียงพอแล้ว
น้องหญิงกล้าปฏิเสธเจ้าพี่งั้นรึ เจ้านันทะเสนถามเจ้าฟ้ารุ่ง
เจ้าฟ้ารุ่งจึงได้ตอบกลับว่า ข้ามีคู่หมายแล้ว จักไปมีชายอื่นได้อย่างไร
เจ้านันทะเสน จึงฟาดดาบลงที่พื้น สองมือจับเจ้าฟ้ารุ่ง เต็มแรง แล้วถามออกมาอย่างไม่เกรงกลัว
มันผู้นั้นเป็นใคร ข้าจะฆ่ามันเสีย
ข้าเอง เจ้าภพ เดินออกมาจากหลังผ้าม่าน
เจ้านันทะเสน กลับใจตอนนี้ยังทันนะท่าน
เห็นแก่เมื่อเยาว์วัย เคยเป็นสหายกันมา
เหตุใดจึงบีบคั้น เจ้าฟ้ารุ่ง ด้วยการอภิเษก
เจ้าภพกล่าวถามเจ้านันทะเสน
เจ้านันทะเสน เริ่มมีอาการคุ้มคลั่ง ชีวิตนี้ข้าไม่เคยผิดหวัง สิ่งที่หวังต้องได้เท่านั้น
ในเมื่อข้าไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าจะมีใครได้ครอบครองเลย เจ้านันทะเสนตะโกนเสียงดังกังวานด้วยความบ้าคลั่ง
ฝ่ายท่านฑูต เมื่อแผนที่วางไว้เดินไปครึ่งทาง จึงให้ทหารไปแจ้งข่าวกับเจ้าเมืองฟ้า ให้รีบไปที่เรือนเจ้าฟ้ารุ่ง อย่ารอช้า ขืนช้าอาจนองเลือดเป็นแน่แท้
พอเจ้าเมืองฟ้าไปถึง ก็ออกโรงห้ามปรามเจ้านันทะเสน เกลี้ยกล่อมให้กลับใจเสียเถิด เรายังเอ็นเจ้าเช่นบุตรคนหนึ่ง อย่าได้สร้างกรรมเลย
เจ้านันทะเสนได้ยินอย่างนั้น ก็ตอบกลับไปว่า
ข้ารักเจ้าฟ้ารุ่ง ข้าผิดอันใด ข้าขอนางอภิเษกข้าผิดอันใด
เจ้าเมืองฟ้าจึงตอบว่า ความรักไม่มีผิดอันใด
หากแต่เจ้าฟ้ารุ่งมีคู่หมายแล้ว เราต้องทำอย่างไร ในเมื่อคนสองคนเขารักกัน
เจ้านันทะเสน โต้กลับ คู่หมาย มีศักดิ์อันใดที่เหมาะสมรึ เจ้าภพเป็นเพียงเด็กไร้สกุล จะมาเทียบกับข้าลูกเจ้าเมืองได้อย่างไร
หรือเจ้าฟ้ารุ่งไม่ถือศักดิ์ งั้นก็อภิเษกกับข้าก่อน ไว้ข้าเบื่อนาง ข้าก็คืนให้เจ้าภพ อย่างนี้ดีหรือไม่
สิ้นคำพูดของเจ้านันทะเสน เจ้าภพเอาดาบเฉือนไปที่ใบหน้าของเจ้านันทะเสน1ที
แผลนี้เตือนความจำท่าน ท่านลบหลู่ผู้มีพระคุณของท่าน
เมื่อท่านฑูตได้จังหวะท่านฑูตก็ส่งสัญญาณไฟโจมตี เมืองพตทันที โดยกล่าวหาว่า เมืองพตทำร้ายเจ้านันทะเสน พร้อมส่งสารถึงเมืองปาตู เพื่อขอกำลังเสริม จากนั้นเมืองปาตู ก็ส่งทหารมาล้อมเมืองพต โดยยื่นข้อเสนอให้เจ้าเมืองฟ้ายอมแพ้เสีย มิฉะนั้นจะฆ่าประชาชนให้สิ้นซาก
โปรดติดตามตอนต่อไป
โฆษณา