Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนูนิ
•
ติดตาม
29 มี.ค. เวลา 00:13 • นิยาย เรื่องสั้น
รักย้อนอดีตภาค 6 ปีศาจอวกาศถล่มไทยแลนด์แดนสไมล์
.
ตอน 29 พินัยกรรมนรสิงห์
.
ราชาดิษยมานพ "ผมไม่ต้องการสมบัติของคุณ"
.
นรสิงห์ "สมบัติของข้าคือคำพูดประโยคเดียว จงใช้หลุมดำกับข้าทันทีที่เจ้าปีศาจอวกาศเข้าสิง"
.
ราชาดิษยมานพ "ทำไมคุณคิดว่าเจ้าปีศาจจะเลือกคุณ อาจเป็นคนใดคนหนึ่งในพวกเราอีก 6 คนก็ได้"
.
นรสิงห์ "อย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้ดีกว่าราชา ใน 7 คนนี้เป็นท่านจะเลือกใคร นักวิทยาศาสตร์2คนนั้นตัดทิ้ง สตรีผู้นั้นก็ไม่ใช่ของจริง จึงเหลือเพียงข้าที่ทั้งเก่ง
ทั้งเป็นอมตะหรือไมจริง"
.
ราชาดิษยมานพ "หลุมดำอาจทำอันตรายคุณไม่ได้ แต่คุณก็ออกมาไม่ได้ตลอดไปเช่นกัน"
.
นรสิงห์ "ก็ยังดีกว่าเป็นที่หวาดกลัวของคนทั่วไป แถมยังได้เป็นตำนานของผู้เสียสละเพื่อมนุษย์รวมถึงทุกแกแลกซี่อีกด้วย อำนาจที่ข้ามี รับรองออกจาก
หลุมดำได้สบาย"
.
ราชาดิษยมานพ "เจ้าปีศาจก็ไม่รู้จักตายเช่นเดียวกัน คุณออกมาได้ มันก็ออกมาได้"
.
นรสิงห์ "ข้าลืมคิดถึงข้อนี้ไป เมื่อถึงตอนนั้นวิทยาการคงเปลี่ยนจนเจ้าปีศาจอาจไม่ใช่ศัตรูที่อันตรายที่สุดแล้วก็เป็นได้ เดินทางกันต่อดีกว่าเวลาเหลือน้อยแล้ว"
.
การเดินทางของทั้ง2ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงก็พบประตูหินสูงจนดูราวประตูแห่งกาลเวลา ผ่านประตูหินโค้งธรรมชาตินี้ก็พบกับเส้นทางซ่อนเร้นและดูลึกลับมีลักษณะเป็นอุโมงค์ไม่กว้างนักทอดยาวจนมองไม่เห็นก้นถ้ำเพราะความมืด
.
นรสิงห์ "ขืนเดินต่อไปเรื่อยๆอย่างนี้ ข้าว่าคงถึงนรกเป็นแน"
.
ราชาดิษยมานพ "ผมจำได้ว่าคุณเคยไปนรกมาแล้ว พอจะจำทางได้หรือไม่"
.
นรสิงห์ "ใครจะไปจำได้ มันนานมากแล้วแถมตอนที่ไปก็ใช้การเหาะ"
.
ราชาดิษยมานพ "เหาะ นรกอยู่ใต้ดิน แล้วคุณเหาะในอากาศ"
.
นรสิงห์ "นรกอยู่ใต้ดินหรือไม่นั้นข้าไม่รู้ สวรรค์อยู่บนฟ้าหรือไม่นั้นข้าก็ไม่รู้ รู้เพียง
ว่าทันทีที่เหาะข้าก็ตั้งจิตว่าจะไปที่แห่งใดแค่นั้น"
.
ราชาดิษยมานพ "ในทางพุทธคนที่จะไปสวรรค์-นรก ได้ในขณะที่ยังไม่ตาย จะต้องสำเร็จฌานขั้นสูง(จตุตถฌาน) หรือสูงกว่านี้
ดังนั้นคนที่ไม่ได้สำเร็จฌานจะไม่มีวันรับรู้อะไรได้เลย เปรียบเหมือนกับคนที่ตาบอดมาตั้งแต่เกิด จะไม่มีวันรู้เลยว่าสีแดง สีฟ้า สีเขียว เป็นยังไง
ฉันใดก็ฉันนั้น คนที่สำเร็จฌานขั้นสูงเปรียบเหมือนกับได้ดวงตาที่ 3 มา ซึ่งเป็นดวงตาพิเศษที่ทำให้มองเห็นอีกมิติหนึ่ง นี่ผมพูดตามที่เคยอ่านเจอในพันทืพ"
.
นรสิงห์ไม่ตอบทั้ง2ยังคงเดินต่อไป เพราะความมืดของในอุโมงค์และความขรุขระ สูง ๆ ต่ำ ๆ แสดงว่าทางเลียบไปตามไหล่เขา
ครั้นแล้วท้องฟ้าอันมีแสงสว่างก็ปรากฎอย่างกระทันหัน พร้อมด้วยสายลมที่กรรโชกมาปะทะหน้ารุนแรง
.
ราชาดิษยมานพ "ดูท่าว่าเราเดินย้อนขึ้นที่สูง ไม่ใช่ใจกลางโลกที่เจ้าปีศาจซ่อนตัว"
.
นรสิงห์คำรามอย่างขัดใจ "เราพลาดอะไรไปหรือ"
.
ราชาดิษยมานพ "เราควรย้อนกลับไป ความมืดทำให้เห็นทางไม่ชัด ผมลืมเจ้าหนูเสียสนิท"
.
นรสิงห์ "แล้วเด็กคนนี้จะทำอะไรได้ แม้แต่พูดยังไม่ได้"
.
ราชาดิษยมานพ "เจ้าหนูผู้ชนะ10ทิศเป็นจักรกลต้นแบบที่สามารถแปลงร่างเป็นอะไรก็ได้ ยกเว้นการต่อสู้"
.
นรสิงห์ "นี่มนุษย์สามารถได้ขนาดนี้แล้วหรือ ถ้าเช่นนั้นพระเจ้าคงหมดความหมาย หันไปนับถือAIซึ่งเป็นปัญญาประดิษฐ์แทน"
.
ราชาดิษยมานพ "ขึ้นอยู่กับบุคคลครับ ศาสนาอื่นนั้นผมไม่ทราบ แต่ศาสนาพุทธแก่นของศาสนาคือเรื่องการศึกษาเหตุแห่งทุกข์ และวิธีการดับทุกข์
เรื่องมีเทวดาฟ้าดินและพระเจ้าเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น ซึ่งยิ่งสังคมเจริญก้าวหน้าไปมากเท่าไหร่ เหตุปัจจัยแห่งทุกข์มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
ความจำเป็นในการศึกษาวิธีดับทุกข์ก็ยิ่งจำเป็นมากขึ้น เหมือนรถที่ยิ่งเครื่องแรงวิ่งได้เร็วเท่าไหร่ ระบบเบรคยิ่งต้องดีขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น
ไม่งั้นรถคันนั้นจะอันตรายอย่างมาก ไม่เฉพาะต่อทั้งตัวผู้นั่งบนรถ แต่อาจจะรวมถึงคนอื่นที่ไม่ได้อยู่บนรถคันนั้นด้วย"
.
นรสิงห์ "เป็นคำตอบที่ข้าไม่คิดว่าจะได้ยิน"
.
ราชาดิษยมานพ "ผมเคยอ่านพบในพันทิพอีกนั่นแหละครับ ที่นี่ก็เป็นแหล่งรวมของยอดคนสมองเพชร"
.
ด้วยการกลายร่างเป็นแสงสว่างนำทางของเจ้าหนูผู้ชนะ10ทิศ จึงทำให้ทั้ง2ได้เห็นซอกเล็กซอกน้อยที่หลืบหินบังไม่ก็หินงอกหินย้อยบังไว้ แต่ซอกเหล่านี้แคบจนแม้แต่ราชาดิษยมานพยังไม่สามารถผ่านได้ เหลือเพียงช่องทางเดียวที่นรสิงห์ผ่านได้
.
ก็เมื่อนรสิงห์ที่มีร่างกายใหญ่โตผ่านได้ ราชาก็ผ่านได้เช่นกัน เบื้องหน้าของทั้งคู่หลังจากที่เดินมาได้ราวครึ่งชั่วโมง เป็นภาพที่องค์ราชาแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง
.
จบตอน 29 ภาพปกจาก ลึกชัดกับผิงผิง ภูเขานัมชจา บาร์วา (Namcha Barwa)
สูง 7,782 เมตร เป็นภูเขาสูงที่สุดของเมืองหลินจือ เขตปกครองตนเองทิเบตของ
จีน อยู่ชายขอบตะวันออกสุดของเทือกเขาหิมาลัย
.
คำว่า“นัมชจา บาร์วา”เป็นภาษาทิเบต แปลว่า “หอกพุ่งตรงสู่ท้องฟ้า” บนยอดเขาปกคลุมด้วยน้ำแข็งตลอดปี
เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน แสงอาทิตย์สาดส่องยอดเขา ทำให้ยอดเขาดูเหมือนหอกสีทองที่พุ่งสู่ท้องฟ้า เมื่อประกอบกับแม่น้ำยะลา-ซังโบที่ไหลผ่านใต้ภูเขา กลายเป็นภาพที่ดูมีมนต์ขลังและสวยงามยิ่ง
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย