Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Wichai Purisa
•
ติดตาม
2 เม.ย. เวลา 11:29 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
The secret super carb: How 'resistance starch' can transform your gut health
ความลับของ 'แป้งที่ทนต่อการย่อย' สามารถจะเปลี่ยนสุขภาพลำไส้ของคุณได้อย่างไร
ไม่ว่าคุณจะมีอายุเท่าไหร่ กลุ่มอาหารเหล่านี้ก็เป็นสิ่งจำเป็นในอาหารของคุณ
ผู้คนทุกวัย สามารถได้รับประโยชน์จากการรับประทานแป้งที่ย่อยยากจากแหล่งต่างๆ แป้งที่ย่อยยากมีประโยชน์มากมาย เช่น ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น และช่วยให้ลำไส้มีสุขภาพดีขึ้น
แป้ง เป็นคาร์โบไฮเดรตที่ประกอบด้วยพอลิเมอร์ ที่สร้างจากหน่วยของน้ำตาลกลูโคสที่เชื่อมต่อกัน พืชใช้ประโชนฺจากแป้งเพื่อกักเก็บพลังงาน ในลำไส้เล็กของเรา แป้งสามารถจะย่อยได้อย่างรวดเร็ว ย่อยได้ช้า หรือย่อยได้อย่างยากลำบาก
แป้งไม่ว่าจะย่อยได้เร็ว หรือย่อยได้ช้าก็ตาม ในที่สุดแป้งก็จะถูกย่อยไปเป็นน้ำตาลกลูโคส โดยเอนไซม์ย่อยแป้งที่อยู่ในลำไส้เล็ก จากนั้นน้ำตาลกลูโคสจะเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อให้พลังงานกับร่างกายเรา อย่างไรก็ตาม เอนไซม์ย่อยแป้งที่อยู่ในลำไส้เล็ก ไม่สามารถย่อยแป้งที่ย่อยยากได้ ดังนั้นแป้งจึงผ่านลำไส้เล็กไปโดยไม่บุบสลาย และเคลื่อนที่ลงไปถึงลำไส้ใหญ่ ซึ่งบริเวณลำไส้ใหญ่ของเรานี้ จะมีแบคทีเรียในลำไส้ที่มีประโยชน์ และแบคทีเรียเหล่านี้ก็จะกินแป้งเข้าไป
แบคทีเรียพิเศษที่อาศัยอยู่ในในลำไส้ใหญ่นี้ จะทำหน้าที่หมักแป้งที่ย่อยยาก เพื่อจะผลิตให้เป็นกรดไขมันสายสั้น ซึ่งกรดไขมันสายสั้นนี้มีความสำคัญต่อสุขภาพลำไส้ใหญ่ กรดไขมันสายสั้นเหล่านี้ จะไปกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนในลำไส้ ซึ่งฮอร์โมนจะไปทำหน้าที่ควบคุมความอยากอาหาร ช่วยให้เรารู้สึกอิ่ม และลดการกินอาหารมากเกินไป
การวิจัยแสดงให้เห็นว่า แป้งที่ย่อยยาก ยังช่วยชะลอการปล่อยน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่เลือดอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งการปล่อยน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่เลือดอย่างค่อยเป็นค่อยไปเช่นนี้ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 กรดไขมันสายสั้นจากการหมักยังช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลิน ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายใช้กลูโคสได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ ยังสามารถลดการอักเสบได้อีกด้วย
แป้งที่ย่อยยากมีหลายประเภท เช่น ในคาร์โบไฮเดรตที่ปรุงสุกแล้วและเย็นลง เช่น ข้าวและพาสต้า พอลิเมอร์ของแป้งจะสูญเสียโครงสร้างผลึกในระหว่างการปรุง และจะกลายเป็นรูปแบบที่ย่อยยาก และจะย่อยยากยิ่งขึ้นเมื่อเย็นตัวลง
เมล็ดพืช ธัญพืชไม่ขัดสี และพืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วเลนทิล ถั่วชิกพี ดูได้จากรูปภาพ และถั่วเมล็ดแห้ง ซึ่งส่วนใหญ่จะมีเมล็ดลักษณะเหมือนรูปไต ล้วนแต่ประกอบด้วยแป้งที่ย่อยยาก ข้าวโอ๊ตดิบและข้าวบาร์เลย์ดิบ ก็เป็นแหล่งที่ดีของแป้งที่ย่อยยาก เช่นเดียวกับกล้วยดิบ และกล้วยกล้ายหรือ แพล๊นเทนส์ plantains
ผู้เขียน : Emma Davies (food chemist)
แปลไทยโดย : Wichai Purisa (senior scientist)
ธุรกิจ
การเงิน
ข่าวรอบโลก
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย